เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

food story

Meokbang ดูคนอื่นกินข้าวก็แก้เหงาได้

Story by พีรภัค จรเสมอ

รู้จักกับม็อกบัง เทรนด์กินโชว์ที่เริ่มต้นจากเกาหลี ก่อนจะกลายเป็นอาชีพทำรายได้ให้คนทั่วโลก เพราะคนเหงาเขาไม่อยากกินข้าวคนเดียว

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าบางครั้ง ‘ความเหงา’ ก็มักจะมาเยือนเราอยู่บ่อยครั้งเมื่อเราเติบโตขึ้น เวลาคอยย้ำเตือนให้เราต้องรู้จักอยู่กับตัวเองให้มากขึ้น การใช้ชีวิตประจำวันก็ต้องพึ่งตัวเองมากกว่าวัยเด็กที่มักมีเพื่อนๆ อยู่รอบข้าง ความรู้สึกเหงาย่อมเกิดขึ้นบ้างเป็นเรื่องธรรมชาติและ ‘การกินข้าวคนเดียว’ อาจเป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่สร้างความหงอยเหงาเสมอ เมื่อต้องเผชิญกับจานข้าวข้างหน้าแต่ไม่มีคนกินด้วย

 

 

แต่ในโลกปัจจุบันที่คนเราเชื่อมต่อกันได้ตลอดเวลาผ่านหน้าจอ แม้ไม่มีคนกินข้าวด้วย แค่เปิดมือถือก็จะพบเพื่อนในรูปของการ ‘กินโชว์’ หรือการนำอาหารจำนวนมากมายมาวางไว้แล้วกินให้ดูผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่สำหรับบางคนหรืออาจจะหลายคน มันทำให้การกินอาหารคนเดียวมีสีสันขึ้นมาไม่น้อย การกินโชว์แบบนี้เรียกแบบกึ่งทางการว่า ‘ม็อกบัง’ (Meokbang) เป็นภาษาเกาหลีที่อนุมานว่าเป็นประเทศต้นกำเนิดการกินโชว์ โดยมาจากการรวมคำสองคำ คือ Meokneun ซึ่งแปลว่า การกิน (Eating) กับคำว่า Bang-Song แปลว่า การแพร่กระจายภาพและเสียง (Broadcast) เมื่อนำมารวมกันความหมายจึงกลายเป็น Eating Broadcast หรือการกินโชว์ผ่านการเผยแพร่ออนไลน์ (Live Streaming) ด้วยสื่อออนไลน์ต่างๆ หรืออัดเป็นคลิปให้ผู้ชมติดตามชมย้อนหลังกันได้ ปัจจุบันนี้กระแสม็อกบังในเกาหลีอาจจะซาๆ ลงไป แต่กลับกำลังโด่งดังในสหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตก รวมถึงประเทศไทยของเราด้วย

 

 

ลักษณะโดยทั่วไปของม็อกบังคือการกินอาหารโชว์ อาจทำอาหารโชว์ผู้ชมก่อนแล้วค่อยกิน หรือบางครั้งอาจซื้อมากินโชว์เฉยๆ ก็ได้ โดยม็อกบังจะเน้นการกินอาหารในปริมาณมากๆ เพื่อความยิ่งใหญ่อลังการและน่าสนใจ ส่วนมากจะเป็นอาหารที่มีแคลอรีสูง เช่น ไก่ทอด ชีส แฮมเบอร์เกอร์ ฯลฯ นอกจากนั้นยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ผู้คนสนใจและเกิดความสนุก คือมีการโต้ตอบกันระหว่างผู้ชมและผู้กิน อาจเป็นการรีวิวรสชาติ พูดถึงราคาของอาหาร หรือพูดคุยกับผู้ชมที่คอมเมนต์ขณะถ่ายทอดอยู่ บางคนมีไมค์ตัวจิ๋วคุณภาพดีติดไว้ใกล้ๆ ตัว เพื่อให้ได้ยินเสียงต่างๆ อย่างชัดเจน เช่น เสียงเคี้ยว เสียงกลืน เสียงซดน้ำ หรือแม้แต่เสียงซ่า… ของน้ำอัดลมก็ช่วยเพิ่มอรรถรสของผู้ชมด้านการฟังมากขึ้น

 

 

สำหรับต้นกำเนิดของม็อกบังนั้น ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเกิดขึ้นเมื่อไร หรือที่ไหน แต่คาดว่าเริ่มต้นจากประเทศเกาหลีใต้และโด่งดังเป็นพลุแตกตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 ชนิดที่เรียกได้ว่าเป็น Korean Pop Culture เลยก็ว่าได้ เพราะกระแสของม็อกบังนั้นดีจนโด่งดังไปทั่วทั้งเอเชีย ส่งผลให้หลายคนเริ่มผันตัวมาทำอาชีพนี้ เนื่องจากมีรายได้สูงและได้กินของอร่อยๆ ด้วย ตัวอย่างเช่น Park Seo-yeon ม็อกบังชาวเกาหลีจากรายการดัง The Diva มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 9,000 ดอลลาร์สหรัฐ ด้วยการบรอดแคสกินโชว์เพียง 3 ชั่วโมงต่อวัน

 

 

ส่วนตัวผู้เขียนเองคิดว่าการที่ม็อกบังประสบความสำเร็จ ก็เพราะผู้ชมรู้สึกสนุกและอยากดูมากขึ้นเมื่อได้เห็นม็อกบังต้องกินอาหารจำนวนมากอย่างดุดัน เช่น การตั้งตารอดูว่าม็อกบังจะสามารถกินมาม่าเกาหลีรสเผ็ดซี๊ดให้หมดเร็วๆได้ไหม การแสดงเหล่านี้ก่อให้เกิดความรู้สึกเสมือนว่ามี ‘เพื่อน’ร่วมโต๊ะในมื้ออาหารนั้นๆ เนื่องจากลักษณะของโชว์จะมีทั้งการโต้ตอบระหว่างตัวม็อกบังเองและผู้ชม ทำให้คนที่อยู่คนเดียวคลายความเหงาไปได้ระดับหนึ่งเมื่อ (เสมือน) มีคนกินอาหารด้วย MiZijun หนึ่งในม็อกบังชื่อดังของจีนที่มีผู้ติดตามกว่า 6 ล้านคนใน Weibo เคยให้สัมภาษณ์ว่าได้รับข้อความจากแฟนคลับมากมาย และหลายๆ ข้อความก็เพียงต้องการบอกเธอว่าขอบคุณที่ ‘กินเป็นเพื่อน’ พวกเขา

 

ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ผู้เขียนคิดว่าส่งผลต่อความสำเร็จของกระแสม็อกบังในประเทศเกาหลีใต้ น่าจะเกิดจากสภาวะทางสังคมและเศรษฐกิจที่มีการแปรสภาพสู่ความเป็นเมือง (Urbanization) มากขึ้น เนื่องจากในอดีต สถาบันครอบครัวของเกาหลีมีความแน่นแฟ้น อยู่อาศัยกันเป็นครอบครัวใหญ่ภายใต้ชายคาเดียวกัน ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายไปจนถึงรุ่นหลานๆ และวัฒนธรรมการรับประทานอาหารเย็นร่วมกันเป็นเรื่องที่ถูกให้ความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นเวลาที่ทุกคนในครอบครัวจะได้มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน ได้พูดคุยกัน แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนแปลง หลายสิ่งอย่างเริ่มเปลี่ยนไป หลายครอบครัวย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในเมือง ขนาดของครอบครัวเล็กลงหรือบางคนต้องอาศัยอยู่คนเดียว มีการสำรวจพบว่าสัดส่วนของผู้คนที่อยู่คนเดียว (Single-person Household) ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากร้อยละ 14.9 ในปี ค.ศ. 2014 พุ่งสู่ร้อยละ 17.6 ในปี ค.ศ. 2019 นอกเหนือไปกว่านั้น สัดส่วนของครอบครัวที่มีลูกคนเดียวก็เพิ่มขึ้นมาก เมื่อผู้คนเหล่านี้เติบโตขึ้น หลายๆ คนก็ใช้ชีวิตอยู่ลำพัง การได้ดูโชว์จากม็อกบังอาจช่วยคลายความเหงาและทำให้รู้สึกเหมือนไม่ได้กินข้าวอย่างโดดเดี่ยวเพียงคนเดียว

 

 

สำหรับม็อกบังในไทย มียูทิวเบอร์หลายคนที่กินโชว์ ส่วนใหญ่มีรูปแบบคล้ายเกาหลี คือกินอาหารที่มีแคลอรีสูงหรืออาจเป็นอาหารยอดฮิตของคนไทย เช่น ปูดอง ตำกุ้งสดปูปลาร้า หมูกรอบ ฯลฯ ซึ่งในกรณีนี้ ความอยากกินอาหารจากการดูคนที่กินโชว์ อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ชมติดตามและเพลิดเพลินไปกับการชมม็อกบังของไทย ยิ่งดูยิ่งอยากกิน เปรี้ยวปากไปหมด แต่สุดท้ายแล้ว ถึงแม้การรับชมการกินโชว์จะช่วยผ่อนคลายจากความเครียดได้ เราก็ควรกินอาหารในปริมาณที่พอดีและออกกำลังกายหากมีเวลาว่าง เพื่อสุขภาพที่ดีต่อตัวเราเอง

 

 

 

Share this content

Contributor

Tags:

อาหารกับวิทยาศาสตร์

Recommended Articles

Food Storyทรมานแค่ไหนก็เลิกกินเผ็ดไม่ได้ มันมีเหตุผล!
ทรมานแค่ไหนก็เลิกกินเผ็ดไม่ได้ มันมีเหตุผล!

กินเผ็ดแสนจะทรมาน แต่ทำไมเราถึงยังคงเลิฟของเผ็ดไม่เลิก