ของขวัญจากระบบนิเวศอันซับซ้อนที่มนุษย์ยังเพาะเลี้ยงแบบอุตสาหกรรมไม่ได้
ฤดูฝนเป็นเวลาของวัตถุดิบสุดพรีเมี่ยมจากธรรมชาติอย่าง เห็ดโคน หรือ เห็ดปลวก หรือ เห็ดจอมปลวก ชื่อภาษาอังกฤษ Termite mushroom ซึ่งถือเป็นของขวัญจากระบบนิเวศ เพราะเกิดขึ้นจากความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกันระหว่างปลวกกับเชื้อรา โดยสปอร์ของเห็ดโคนเป็นอาหารของปลวก และราจะช่วยย่อยซากพืชให้ปลวกเป็นการตอบแทน นับเป็นความสัมพันธ์ที่พิเศษและซับซ้อนถึงขั้นที่ยังไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้ แปลง่ายๆ คือเรายังไม่สามารถเพาะเลี้ยงเห็ดโคนในถุงเพาะแบบเดียวกับเห็ดอื่นที่ทำเป็นระบบอุตสาหกรรม ที่พอจะทำได้ก็เพียงสร้างระบบนิเวศแบบเดียวกับป่าธรรมชาติแล้วโรยสปอร์จากเห็ด หรือเลี้ยงปลวกชนิดที่จำเพาะต่อเห็ดโคนเพื่อชักนำให้เห็ดราเจริญเติบโตจนงอกเป็นดอกเห็ดที่อย่างที่เราเห็นกัน
ความพิเศษนี้เอง ทำให้เห็ดโคนเป็นเห็ดป่าที่มีราคาสูง (ขายกันอยู่ที่กิโลกรัมละ 300-500 บาทเลยทีเดียว) เพราะต้องออกไปเก็บในป่าตามธรรมชาติเท่านั้น แล้วยังเป็นเห็ดที่ขึ้นได้ในบางจังหวัดที่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม รวมถึงจะออกเพียงในช่วงฤดูฝน (แต่สำหรับบางพื้นที่ เช่น ภาคเหนืออาจจะออกในช่วงเดือนธันวาคม หรือภาคใต้อาจจะออกได้ 2 ครั้งต่อปี) ซึ่งช่วงเวลาการออกต่อปีว่าน้อยแล้ว วงจรชีวิตน้องยังสั้นเข้าไปอีก เพราะใช้เวลาเพียงแค่ 3-5 วัน ตั้งแต่ออกดอกจนเหี่ยวเฉาและตายไป เรียกว่าคนเก็บเห็ดต้องมีความเซียนและชำนาญพื้นที่ จะมัวไปงมหาแบบไม่รู้ที่ทางก็อาจจะเก็บไม่ทัน ส่วนมากชาวบ้านรู้ล่วงหน้าจากการสังเกตสภาพภูมิอากาศ โดยอุณหภูมิของอากาศช่วงที่มีฝนตกและกลิ่นของไอดินที่จะตามมาด้วยกลิ่นของเห็ดโคน ซึ่งมีกลิ่นเฉพาะ ถ้าตามกลิ่นนี้ไปก็จะได้พบเห็ดโคนเกิดขึ้นบนลานดินเป็นจำนวนมาก แถมพอเก็บมาได้แล้วก็ใช่จะจบ เพราะหลังเก็บเห็ดโคนจะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว คือเพียงแค่ 5 ชม. ก็จะเริ่มเน่าเสีย และยิ่งถ้าเก็บมาในสภาพเห็ดสดที่เปียก เพียง 2-3 ชม. ก็จะเน่าเสียแล้ว ด้วยปัจจัยยากๆ หลายสิ่งนี้เองทำให้ส่วนมากพื้นที่ที่เห็ดโคนออกดอกมักถูกเก็บเป็นความลับ ป้องกันไม่ให้คนอื่นย่องเข้าไปเก็บตัดหน้า เพราะเห็ดโคนจะออกซ้ำๆ ทุกปีในที่เดิม
ลักษณะทั่วไปของเห็ดโคนคือเมื่อยังอ่อนจะมีรูปร่างแบบกรวยคว่ำ หรือชามคว่ำที่มียอดนูนทู่หรือแหลม เมื่อดอกแก่หมวกจะค่อยๆ กางออกจนเกือบแบนราบ แต่ยังคงเห็นยอดนูนตรงกลางหมวกอยู่ และส่วนของยอดนูนจะมีสีเข้มกว่าส่วนอื่นๆ ของเห็ด สีของหมวกเห็ดก็มีตั้งแต่สีครีม สีน้ำตาลอ่อนปนเหลืองอ่อน สีน้ำตาลปนเหลืองทอง สีน้ำตาลปนแดง และสีเทา เนื้อของหมวกมีสีขาวและแน่น ครีบไม่ยึดติดกับก้านหรือติดเพียงเล็กน้อย ก้านดอกติดอยู่กลางหมวก ผิวก้านเรียบ มีสีขาวออกครีมๆ รูปทรงกระบอกหรือมีโคนก้านที่พองใหญ่กว่าปลายก้าน ก้านส่วนใหญ่จะฝังอยู่ใต้ดินภายในรังปลวก
ซึ่งความหายากเก็บยากนี้ก็เรียกได้ว่าคุ้ม เพราะไม่เพียงแค่อร่อยจากรสชาติหวาน อูมามิตามธรรมชาติ เพียงแค่นำมาย่างหรือคั่วกับน้ำปลา ต้มยำ ทำข้าวต้มเห็ดโคนซดอุ่นๆ ก็อร่อยแล้ว ยังเป็นอาหารจากธรรมชาติที่ให้โปรตีนสูงถึง 25%-35% มีกรดอะมิโน และสารอาหารอื่นๆ โดยสรรพคุณเด่นๆ ของเห็ดโคน ได้แก่
บำรุงกำลัง
เห็ดโคนมีรสหวาน มีฤทธิ์เป็นกลาง คนโบราณกินเห็ดโคนเป็นยาบำรุงกำลัง ช่วยให้เจริญอาหาร กินแล้วเพิ่มความสดชื่น มีฤทธิ์กระจายโลหิต และคนไทยโบราณยังกินเห็ดโคนเป็นอาหารบำรุงสมองอีกด้วย
แก้ไอ ขับเสมหะ แก้คลื่นไส้
ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการไอ ช่วยขับเสมหะ แก้บิด ลดอาการอาเจียน แน่นหน้าอก
ต้านเชื้อไทฟอยด์
จากการทดลองทางเภสัชวิทยาพบว่า น้ำสกัดจากเห็ดโคนมีฤทธิ์ต้านเชื้อโรคได้หลายตัว โดยเฉพาะเชื้อไทฟอยด์และเชื้อ Enterobacteria และจากการทดลองให้อาสาสมัครดื่มน้ำสกัดเห็ดโคน 250 มิลลิลิตรก็ไม่พบอาการข้างเคียงใดๆ
ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
ในเห็ดโคนมีสาร Eritadenine ค่อนข้างมาก สารชนิดนี้มีคุณสมบัติช่วยละลายไขมันในเส้นเลือด ช่วยลดความเสี่ยงภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือด ส่งผลให้โอกาสเกิดโรคหัวใจลดน้อยลง เห็ดโคนจึงเป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมไขมันในเส้นเลือด รวมทั้งผู้ป่วยโรคหัวใจ
ภาพ: https://img.kapook.com/u/2019/sireeporn/Health-7/h1.jpg
https://www.77kaoded.com/wp-content/uploads/1599206844562.jpg
https://i.pinimg.com/originals/8b/ac/a4/8baca49f731d3f1f0a29927e2f04ab6c.jpg
ที่มา: https://puechkaset.com/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%99/
Contributor
Tags: