เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

food story

ตะลุยกินขนมหวานนานาชาติทั่วกรุง

Story by เสาวลักษณ์ เชื้อคำ

ไม่ต้องบินไปกิน ก็ฟินได้ทั่วทวีปไปเลย

เมื่อนึกอยากจะทำความรู้จักวัฒนธรรมใหม่ๆ ฉันคิดว่าไม่มีอะไรที่จะเหมาะไปกว่าการตระเวนลิ้มรสอาหารแล้วค่ะ อาหารย่อมจะบ่งบอกถึงความสมบูรณ์ ภูมิปัญญา และรสนิยมของคนในสังคมนั้นเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราตั้งใจมองหาเรื่องราวเหล่านั้นมากพอ

 

 

 

 

อย่างเช่นของประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว เมียนมา ที่มีสภาพภูมิประเทศใกล้เคียงกัน เราก็จะมีอาหารที่หน้าตาใกล้เคียงกันไปด้วย โดยเฉพาะขนมที่มักทำขึ้นจากวัตถุดิบหลัก 3 อย่าง คือ ข้าว มะพร้าว และน้ำตาล

 

 

 

 

ลองหลับตานึกภาพดูสิคะ ขนมไทยแต่เดิมล้วนมีข้าวเป็นพื้น ทั้งแบบที่เป็นเม็ดข้าวและแบบที่แปรรูปเป็นแป้งแล้ว เพราะภูมิอากาศและภูมิประเทศของไทยเหมาะกับการปลูกข้าวมาก ข้าวจึงถูกนำมาทำทั้งอาหาร ของว่าง และขนมหวาน และยิ่งมีเมนูขนมและของกินเล่นมากเท่าไร ก็ยิ่งหมายถึงเรามีทรัพยากรเหลือเฟือมากขึ้นเท่านั้น

 

 

 

 

ก่อนที่อ้อยจะเข้ามาครองอำนาจในตลาดน้ำตาล ต้นมะพร้าวและต้นตาลก็รับบทเป็นความหวานหลักในสำรับ มีบางพื้นที่ที่ใช้รสหวานแบบอื่นๆ เช่น น้ำตาลอ้อย น้ำตาลลูกชก รวมถึงน้ำผึ้งบ้าง แต่เห็นได้ชัดว่าคงเป็นน้ำตาลจากต้นตาลและน้ำตาลมะพร้าวนี่แหละที่นิยมที่สุด นั่นก็คงเป็นเพราะว่าพื้นที่บ้านเราปลูกมะพร้าวและตาลได้ดีนั่นเอง

 

 

 

 

ส่วนผสมที่นอกเหนือจากนี้ก็เห็นจะเป็นผลไม้ท้องถิ่นทั้งหลาย เช่นกล้วยน้ำว้า มะม่วง ลูกตาล และเนื้อมะพร้าวทั้งอ่อนและแก่ สุดแท้แต่ว่าใครจะหยิบฉวยของใกล้มือมาดัดแปลงได้อย่างไร ขนมหวานจึงเป็นอาหารอีกประเภทหนึ่งที่จะนำพาเราจะไปเรื่องเล่าของแต่ละถิ่นที่ได้มากมาย

 

 

 

 

เพราะฉะนั้นวันนี้จึงอยากชวนทุกคนมาลองชิมขนมหวานจากนานาประเทศเพื่อนบ้านทั้งใกล้ไกล แต่ทั้งหมดหากินได้ในกรุงเทพฯ นี่แหละค่ะ เผื่อว่าจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมอร่อยๆ ก่อนจะเก็บกระเป๋าไปเที่ยวทริปหน้า

 

 

 

 

นมตุ๋น (ฮ่องกง)

 

 

 

 

นมตุ๋นฮ่องกง

 

 

 

(ภาพจาก Facebook Page : TaoTao滔滔 นมตุ๋นละมุนลิ้น)

 

 

 

 

นมตุ๋นเป็นขนมหวานท้องถิ่นจากกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ดั้งเดิมแล้วทำมาจากนมควาย แล้วใส่น้ำขิงลงไปเพื่อให้จับตัวเป็นเนื้อพุดดิ้ง เมื่อคนจากมณฑลกวางตุ้งอพยบไปอยู่ที่ฮ่องกงและมาเก๊า ก็ได้เอาสูตรนมตุ๋นติดตัวไปด้วย ทำให้ปัจจุบันนมตุ๋นกลายเป็นของหวานยอดนิยมของฮ่องกงและมาเก๊าไปแทน ส่วนในประเทศจีนก็ยังหาซื้อได้อยู่ตามพื้นที่ที่ยังมีคนพูดภาษากวางตุ้งเหลืออยู่ค่ะ

 

 

 

 

ส่วนในไทยเองก็มีขายอยู่ที่ร้าน “TaoTao滔滔 นมตุ๋นละมุนลิ้น” ที่อยู่ย่านประตูผีค่ะ เมนูที่อยากแนะนำคือเมนูนมตุ๋นน้ำขิงและบรรดานมตุ๋นทรงเครื่องต่างๆ ซึ่งหวานไม่มาก หอมนม และเนื้อนุ่มนิ่ม แถมที่ร้านยังมีมุมถ่ายรูปเยอะมากด้วยนะ

 

 

 

 

Facebook : TaoTao滔滔 นมตุ๋นละมุนลิ้น
Google Map : https://goo.gl/maps/swRnWJ9QKgwojx3t8
เวลาเปิด-ปิด : 11.00-22.00 น. (เปิดทุกวัน)

 

 

 

 

ข้าวปุก ขนมวง (เชียงตุง)

 

 

 

 

ข้าวปุก ขนมวง

 

 

 

(ภาพจาก Facebook Page : ใบบัว – อาหารเชียงตุง,อาหารเหนือ)

 

 

 

 

ร้านใบบัว ประชาราษฎร์บำเพ็ญ ซอย 9 ห้วยขวาง เป็นร้านยอดนิยมตลอดกาลของทีม KRUA.CO ค่ะ ไม่รู้ว่าแนะนำกันไปกี่รอบแล้ว แต่ก็ยังจะแนะนำอีกเพราะอาหารอร่อยทุกอย่าง รอบนี้ขอแนะนำเป็นข้าวปุก และ ขนมวง ขนมนุ่มเหนียวจากแป้งข้าวเหนียว ซึ่งปกติแล้วจะหากินได้ในหลายจังหวัดทางภาคเหนือของไทยด้วย เพราะเป็นวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกันกับชาวเชียงตุงนั่นเอง

 

 

 

 

ทั้งข้าวปุกและขนมวงทำมาจากข้าวเหนียวเหมือนกัน ต่างกันที่ว่าข้าวปุกจะเป็นการนำข้าวเหนียวกับงาขี้ม้อนไปตำให้เป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนจะปั้นเป็นลูกเล็ก แล้วรีดเป็นแผ่นกลมบาง จะกินแบบนิ่มๆ อย่างนั้นก็ได้ หรือจะประยุกต์โดยการนำไปทอดก็อร่อย ส่วนขนมวงจะทำจากแป้งข้าวเหนียวที่นวดกับเนื้อกล้วยน้ำว้าหรือมันหวานเพื่อเพิ่มรสชาติ ก่อนจะนำมาปั้นเป็นเส้น ม้วนเป็นวงคล้ายกำไลหรือโดนัท แล้วนำไปทอดให้กรอบนอกนุ่มใน ทั้งข้าวปุกและขนมวงมักกินคู่กับน้ำตาลอ้อยเคี่ยวเหนียวๆ หอมๆ ถึงหน้าตาอาจจะไม่ได้ดูหวือหวามากนัก แต่นี่แหล่ะค่ะของอร่อยล่ะ (เมนูนี้ไม่ได้มีทุกวัน แนะนำให้สอบถามทางร้านก่อนเข้าไปนะคะ)

 

 

 

 

Facebook : ใบบัว – อาหารเชียงตุง,อาหารเหนือ
Google Map : https://goo.gl/maps/qkFryKXCZdobhd5R7
เวลาเปิด-ปิด : 11.00-21.00 (ปิดวันอังคาร)

 

 

 

 

ปิงเฟิ่น (จีน)

 

 

 

 

วุ้นหอมหมื่นลี้

 

 

 

ปิงเฟิ่น (冰粉-bīngfěn) เป็นวุ้นจากพืชอย่างหนึ่งค่ะ ความพิเศษคือมันมีเนื้อสัมผัสนุ่มเด้งคล้ายเยลลีเจลาติน ชาวจีนในพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้อย่างเสฉวน กุ้ยโจว และยุนนานจึงเอาวุ้นใสนี้มาทำเป็นของหวาน โดยการแต่งกลิ่นรสต่างๆ ลงไป อย่างถ้วยนี้คือกุ้ยฮวาปิงเฟิ่น ที่แต่งกลิ่นด้วยดอกกุ้ยฮวาหรือดอกหอมหมื่นลี แล้วแต่งรสด้วยน้ำเชื่อม ซานจาปิ่ง (แผ่นซานจาสีชมพูๆ ที่เรามักเรียกกันว่าบ๊วยแผ่น) แล้วเพิ่มรสมันด้วยถั่วลิสงคั่วด้วย

 

 

 

 

ร้านอาหารจีนในกรุงเทพฯ อาจจะไม่ได้มีปิงเฟิ่นทุกร้าน เพราะดูเหมือนว่าปิงเฟิ่นจะเป็นขนมที่ไม่ค่อยฮิตเท่าไรในบ้านเรา ร้านที่อยากแนะนำก็คือร้าน Zhongzhongmain ประชาราษฏร์บำเพ็ญ ซอย 7 ห้วยขวางค่ะ เป็นร้านบะหมี่แบบฉงชิ่งที่อาหารอร่อย แล้วก็มีปิงเฟิ่นขายหลายแบบด้วย กินเย็นๆ แก้เลี่ยนและดับร้อนได้ดีมากค่ะ

 

 

 

 

Facebook : Zhongzhongmian
Google Map : https://goo.gl/maps/C156dVk6ooxa6yBk7
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-21.30 (เปิดทุกวัน)

 

 

 

 

จาเลบี (อินเดีย)

 

 

 

 

จาเลบี

 

 

 

ปกติแล้วขนมอินเดียมักจะขึ้นชื่อเรื่องความหว๊านนนนนนนนนนนนนนนนนนน มาเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะขนมประเภทที่ต้องแช่น้ำเชื่อม อย่างเช่น จาเลบี (जलेबी – Jalebi) ขนมแป้งทอดแช่น้ำเชื่อมที่มีลักษณะเป็นขดๆ คล้ายกำไลข้อมือพระเเม่ลักษมี ที่ทำเอาใครหลายคนขยาดขนมอินเดียไปตามๆ กัน แต่เชื่อไหมคะว่ามีขนมจาเลบีร้านหนึ่งที่ฉันยอมจำนนต่อความหวานแต่โดยดี เพราะได้กินตอนทอดเสร็จใหม่ๆ ความอร่อยของขนมทอดอุ่นๆ ร้อนๆ มันเอาชนะความหวานได้เลย ร้านที่ว่านี้ก็คือ Delhi Sweets ซอยพุทธโอสถ บางรักค่ะ

 

 

 

 

จาเลบีมีขายตามร้านอาหารและร้านขนมอินเดียทั่วไปค่ะ แต่ฉันเชียร์ Delhi Sweets เป็นพิเศษด้วยความประทับใจส่วนตัว ถ้าจะให้ดีที่สุดต้องกินตอนทำเสร็จใหม่ๆ น้ำเชื่อมยังอุ่นๆ ร้อนๆ และอย่าลืมสั่งมาซาล่าจายเข้มๆ มาจิบแกล้มด้วยนะคะ

 

 

 

 

Facebook : Delhi sweets
Google Map : https://goo.gl/maps/GwSCxUhZahEZiN9X6
เวลาเปิด-ปิด : 09.00-21.00 (เปิดทุกวัน)

 

 

 

 

Mix Fruit Cream (อินเดีย)

 

 

 

 

Mix Fruit Cream

 

 

 

อินเดียกันอีกสักร้านค่ะ แต่ร้านนี้จะแปลกกว่าภาพจำอินเดียที่ใครหลายคนคุ้นเคยกันหน่อย เพราะร้านนี้จะเป็นสรีตฟู้ดอินเดียจากมุมไบ ชื่อว่าร้าน Taste of Mumbai Haji Ali ซึ่งเป็นร้านสาขาที่ขยายมาจากอินเดีย เพราะฉะนั้นจึงค่อนข้างชัวร์ว่ารสชาติจะเป็นแบบเดียวกับที่ชาวอินเดียกินจริงๆ

 

 

 

 

ที่ Taste of Mumbai มีเมนูของหวานอร่อยๆ หลายอย่างค่ะ มีทั้งไอศกรีมกุลฟี่ มีทั้งรวมมิตรฟาลูดา แต่อันที่อยากแนะนำที่สุดก็คือ Mix Fruit Cream เป็นครีมเนื้อหนาๆ ที่ใส่มาในถ้วยพลาสติกมีก้าน โรยด้วยถั่ว ผลไม้สด และธัญพืช และใส่เยลลี่รสเปรี้ยวหวานมาด้วย 2-3 ชิ้น เป็นขนมที่อร่อยมากกกก ฉีกทุกภาพจำขนมอินเดียที่เคยเห็นมาเลยค่ะ

 

 

 

 

Facebook : Taste of Mumbai Haji Ali
Google Map : https://goo.gl/maps/o5wW9c8HSn3Mh9ha8
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-22.30 (วันอังคาร เปิด 10.45)

 

 

 

 

บัคลาวา (ตุรกี)

 

 

 

 

บัคลาวา

 

 

 

บัคลาวา (Baklava) เป็นขนมหวานประจำชาติตุรกีที่คนรักพิสตาชิโอต้องห้ามพลาดเด็ดขาดค่ะ บัคลาวาจะมีลักษณะคล้ายๆ กับพาย คือมีแป้งบางๆ เรียงซ้อนกันเป็นชั้นๆ อยู่ แป้งที่ว่านี้คือแป้งฟิโล ซึ่งเป็นแป้งบางๆ ที่มักใช้ในขนมจากตะวันออกกลางและประเทศแถบคาบสมุทรบอลข่าน ส่วนไส้ตรงกลางจะเป็นถั่วพิสตาชิโอคลุกน้ำตาล ตัวเนื้อขนมจะชุ่มเนย หวานน้ำเชื่อม กินกับกาแฟแบบตุรกีแล้วเข้ากันดีเชียวค่ะ

 

 

 

 

ในกรุงเทพฯ เองมีหลายร้านเลยค่ะที่มีบัคลาวาขาย แต่เราจะขอแนะนำร้าน MaMa AsMa ที่ KRUA.CO เคยบุกไปดูวิธีทำถึงครัวมาแล้ว เพราะชั้นแป้งฟิโลของที่นี่จะบางมากกกกกก และทำสดใหม่ทุกวัน ได้กินครั้งแรกก็ติดใจทันที เลยขอมาป้ายยาให้ทุกคนไปติดใจตามด้วยนะคะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Facebook : MaMa AsMa
Website : https://sites.google.com/view/mamaasmath/home
*ปัจจุบันยังไม่มีหน้าร้าน แต่สั่งออนไลน์ได้เลย ส่งทั่วประเทศค่ะ

 

 

 

 

ไหมฟ้า หรือ หนวดมังกร (จีน)

 

 

 

 

หนวดมังกร

 

 

 

ขนมไหมฟ้า หรือขนมหนวดมังกรในความคุ้นเคยของชาวเยาวราช จริงๆ แล้วมันคือขนมดั้งเดิมจากจีนค่ะ มีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นเลยทีเดียว ในภาษาจีนกลางเรียกว่า ‘หลงสวีถัง’ (龙须糖–lóng xū táng) เชื่อกันว่าเดิมทีมีไว้เพื่อทำถวายให้กับจักรพรรดิเท่านั้น พอมาถึงในยุคคอมมิวนิสต์ ขนมที่ดูท่าว่าจะเป็นสัญลักษณ์ของชนชั้นปกครองจึงกลายเป็นขนมต้องห้ามไปเสียอย่างนั้น

 

 

 

 

แต่หลังจากนั้นมา ขนมไหมฟ้าก็ถูกรื้อฟื้นให้กลับอีกครั้ง แต่ไม่ใช่แค่ในจีนอย่างเดียว มันยังถูกส่งต่อไปยังประเทศอื่นๆ รวมถึงในกรุงเทพด้วย เราขอแนะนำร้านขนมไหมฟ้า ในซอยเท็กซัส เยาวราชเลยค่ะ ไหมฟ้าร้านนี้ใช้น้ำผึ้งล้วนๆ ไม่มีการผสมน้ำตาล ดึงมือให้ดูกันสดๆ แต่ก็ไม่ได้มีทุกวันนะคะ ต้องติดตามทำ Facebook Page ว่าวันไหนจะเปิดหรือไม่เปิด เพราะขนมไหมฟ้าเป็นขนมที่เซนซิทีฟต่อสภาพอากาศมาก แค่อากาศชื้นเกินไปนิดหน่อยก็จะทำไม่ได้แล้วค่ะ (รู้แบบนี้ยิ่งทำให้อยากกินมากขึ้นอีกนะเนี่ย)

 

 

 

 

Facebook : ขนมไหมฟ้า เจ้าเดียวในเยาวราช ไม่มีสาขา
Google Map : https://goo.gl/maps/LRQHkPcPiXtsRz8S6
เวลาเปิด-ปิด : ไม่แน่นอน ดูได้จากประกาศทางหน้า Facebook

 

 

 

 

ฮาโลฮาโล (ฟิลิปปินส์)

 

 

 

 

 

 

 

(ภาพจาก Facebook Page : Lola’s Kitchen)

 

 

 

 

คำว่าฮาโล ในภาษาตากาล็อก หมายถึงการรวมกันค่ะ ดังนั้นขนมฮาโลฮาโล (Halo-Halo) ก็คงแปลตรงตัวได้ว่าขนมรวมมิตรเช่นเดียวกันกับที่ขายในบ้านเรานี่แหละ เพราะส่วนผสมของฮาโลฮาโลก็คือทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากจะกินเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีมมันม่วง ผลไม้สด ไข่หวาน ถั่วแดง เผือก ฯลฯ ที่สำคัญคือต้องมีน้ำแข็งป่นเกล็ดละเอียด ๆ ไว้ดับร้อนด้วย แหมแค่นึกก็ชื่นใจแล้วค่ะ

 

 

 

 

ถ้าอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศจากน้ำแข็งไสไปเป็นฮาโลฮาโลบ้าง ขอแนะนำที่ร้าน Lola’s Kitchen เลยค่ะ เริ่มด้วยอาโดโบไก่กับข้าวผัดสักจานก่อน แล้วค่อยจบด้วยฮาโลฮาโลเครื่องแน่นๆ พูนๆ รับรองอิ่มแปล้ – อ้อ ไอศกรีมมันม่วงที่นี่อร่อยมาก เหลือท้องเผื่อไว้กินฮาโลฮาโลเยอะหน่อยนะคะ

 

 

 

 

Facebook : Lola’s Kitchen
Google Map : https://goo.gl/maps/Pwn2sXTMyHtoBpK99
เวลาเปิด-ปิด : 10.00-20.00 (เปิดทุกวัน)

Share this content

Contributor

Tags:

ของหวาน, ร้านอร่อยกรุงเทพ

Recommended Articles

Food Storyแจกพิกัดนั่งเรือกินเที่ยว 5 Route รอบกรุงเทพฯ เด็ดทุกร้าน KRUA.CO การันตี!
แจกพิกัดนั่งเรือกินเที่ยว 5 Route รอบกรุงเทพฯ เด็ดทุกร้าน KRUA.CO การันตี!

ท่าดินแดง ท่าวังหลัง ท่าเตียน ท่าราชวงศ์​ จะท่าไหนๆ ก็มีแต่ของอร่อยเต็มไปหมด

 

Recommended Videos