food story
One Fine Day Café ร้านกาแฟ specialty กับการตีความน้ำหอมให้เป็นของกินได้
Story by ศรีวิการ์ สันติสุข
ร้านกาแฟแห่งแรกของแบรนด์น้ำหอม MITH ที่สร้างสรรค์เครื่องดื่มและไอศกรีมจากกลิ่นน้ำหอม
ใครชอบกลิ่นหอมๆ น่าจะผ่านตาชื่อ MITH น้ำหอมแบรนด์ไทยมาบ้าง เพราะถือเป็นเจ้าตลาดเบอร์ต้นของน้ำหอมไทย ที่สร้างสรรค์กลิ่นหอมเฉพาะตัวออกมากมากมายในราคาจับต้องได้ แต่วันนี้ไม่ได้จะชวนมาซื้อน้ำหอม ชวนมาคาเฟ่ใหม่กิ๊กเพิ่งเปิดเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมานี่เอง แล้วคาเฟ่เกี่ยวอะไรกับ MITH ก็เพราะนี่คือคาเฟ่แห่งแรกของ MITH ที่มีชื่อว่า One Fine Day Café ตั้งอยู่บนชั้น 2 และ 3 ของแฟลกชิพสโตร์ของ MITH ใจกลางสยามสแควร์
แล้ว MITH มาทำคาเฟ่ได้อย่างไร?
ก็เพราะเมื่อเปิดแฟลกชิพสโตร์ที่มาในรูปแบบตึก 4 ชั้น คุณพอ–จุติณัฏฐ์ ปิยวีรวงศ์ เจ้าของแบรนด์ MITH จึงอยากให้ตึกทั้ง 4 ชั้นนี้มาในคอนเส็ปต์ รูป รส กลิ่น เสียง ครอบคลุมการรับรู้ในทุกผัสสะ กลิ่น แน่นอนว่าหมายถึงร้าน MITH ที่ชั้น 1 ซึ่งมีน้ำหอมที่อาจจะไม่มีวางขายทุกสาขามารวมไว้ที่นี่ รส แปรออกมาเป็น One Day Café ที่ส่วนตัวคุณพอเองก็สนใจอยากทำคาเฟ่มานานแล้ว รูป ในอนาคตจะมีส่วนของแกลอรี่สำหรับให้ศิลปินนำผลงานมาจัดแสดง และ เสียง ที่มาพร้อมเปียโน 1 หลัง ที่จะมีกิจกรรมให้วงดนตรีมาเล่นในแบบการกุศล เนื่องจาก MITH จัดงานการกุศลเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว ตึกหลังนี้จึงเปรียบเสมือนสถานที่ที่เปิดรับให้ทุกคนเข้ามามีประสบการณ์ในทุกรูปแบบ
ว่าแล้วก็ไปเยือนคาเฟ่กันดีกว่า เดินมาถึงหน้าตึก ก็ขึ้นบันไดไปชั้น 2 ได้เลย เปิดประตูเข้าไป อันดับแรกจะได้สบายตาสบายใจกับการตกแต่งในสไตล์มินิมอลสีขาว-ดำ ให้ความรู้สึกชิคๆ แบบชิลล์ๆ ชั้นนี้จะมีเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่มและขนมใดๆ พร้อมตู้ไอศกรีม ใครชอบความสงบให้เดินต่อไปอีกนิดที่ชั้น 3 บอกเลยว่าสงบเงียบและสบายโคซี่สุดๆ เหมาะแก่การหอบโน้ตบุ๊คมานั่งทำงานมาก
แล้วไม่ใช่แค่สถานที่ดีอย่างเดียว เครื่องดื่ม ขนม รวมทั้งไอศกรีมของที่นี่ก็ดีมาก
สายกาแฟจะต้องถูกใจกับการวางตัวเป็นร้านกาแฟ specialty ที่ใช้เมล็ดกาแฟนำเข้า คั่วกลางเป็นเมล็ดจาก Colombia/ Guatemala ส่วนคั่วเข้มเป็นเมล็ดจาก Myanmar/ Laos แล้วยังใช้เครื่องชงระดับเทพอย่าง La Marzocco เพื่อมอบประสบการณ์การดื่มกาแฟที่ดีที่สุด
แล้วยังมีเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากน้ำหอมกลิ่นขายดีของ MITH ให้เลือกตั้ง 3 แก้ว แค่เห็นก็ร้องว้าวเพราะสีสวยไล่เลเยอร์แบบต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายสักแชะสองแชะ
Green Sandalwood (120 บาท) กาแฟนมผสมมัทฉะ ไล่เลเยอร์สีเขียว ขาว น้ำตาลได้อย่างสวย เมื่อคนผสมกันแล้วสีจะออกมาคล้ายกับสีไม้ เพราะได้แรงบันดาลใจจากน้ำหอมผู้ชายที่ให้กลิ่นแนววู้ดดี้ รสชาติก็กลมกล่อมด้วยความเข้มข้นของทั้งกาแฟและมัทฉะผสานความละมุนอบอุ่นของนม
Horizon (100 บาท) เครื่องดื่มโซดาสีฟ้า เหลือง เขียว ที่ให้ความสดชื่นเปรี้ยวซ่าจัดจ้าน ด้วยรสจี๊ดๆ ของส้มแมนดารินและมะนาว ใครง่วงยามบ่ายแนะนำเลย จิบเดี่ยวตื่น สดชื่นมาก!
Twilight (100 บาท) เครื่องดื่มลิ้นจี่ผสมกุหลาบที่มากับคอนเส็ปต์สีม่วงอมชมพูของท้องฟ้ายามสนธยา รสชาติลิ้นจี่ออกหวานนิด เสริมความหอมด้วยกลิ่นกุหลาบ
และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ห้ามพลาด นั่นคือไอศกรีมเจลาโต้โฮมเมดที่เป็นการคอลแลบกับ Baked by Ball เชฟคนดังแห่งวงการไอศกรีม รังสรรค์เป็นไอศกรีมรสชาติพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากน้ำหอมกลิ่นต่างๆ ของ MITH ที่แต่ละรสก็ได้ชื่อตามชื่อน้ำหอม ส่วนการตีความนั้นบอกเลยว่าล้ำ! ไอศกรีมรสน้ำยาปรับผ้านุ่มก็มี อยากรู้ว่าเป็นยังไงต้องมาลอง! เขามีให้เลือกมากมายนับสิบรสชาติ โดยจะหมุนเวียนเปลี่ยนรสชาติกันไป แต่มีตัวเด่นๆ ที่ยืนพื้นเสมอ อย่างเช่น
Ruddy Sparkle (100 บาท) น้ำหอมกลิ่นขายดีที่สุดตลอดกาลกลายร่างเป็นไอศกรีมองุ่นที่มีเนื้อเยลลี่องุ่นหนุบหนับแทรกอยู่ทุกอณู รสชาติเปรี้ยวหวานจัดจ้านลงตัวที่สุด ดีมาก ขอให้ลอง!
Fabric Softener (100 บาท) เตะตาด้วยสีฟ้าพาสเทลละมุน รสชาติก็หวานนุ่มนวลเหมือนหน้าตา กินแล้วได้กลิ่นลาเวนเดอร์กับฮันนี่ แต่ทิ้งอาฟเตอร์เทสต์สะอาดๆ เหมือนน้ำยาปรับผ้านุ่มจริง อันนี้เหมือนแค่กลิ่นนะ ไม่ต้องกลัวว่ารสชาติจะเหมือนกรอกน้ำยาปรับผ้านุ่มเข้าปาก
Dark Suede (100 บาท) ไอศกรีมหน้าตาเรียบร้อยด้วยสีขาวเรียบๆ แต่กลิ่นโดดเด่นมากเพราะใช้กลิ่นแคสโตเรียมแบบเดียวกับที่ใช้ในน้ำหอม ถ้าจมูกดีจะได้กลิ่นหนังเบาๆ เป็นอาฟเตอร์เทสต์ อ้อ รสชาตินี้มีแอลกอฮอลล์ด้วย 5%
ปิดท้ายด้วยขนมจาก Baked by Ball เช่นกัน
วันนี้ได้ลอง Croissant (100 บาท) ที่กรอบนอกนุ่มในหอมเนย กินเพลินแป๊บเดียวหมดชิ้น
และ Kouin-Amann (100 บาท) ที่ถึงขั้นว้าว เพราะถ้าไม่ได้ไปร้านขายครัวซองต์จริงจังก็ใช่จะหากินได้ง่ายๆ แถมกวีญามันน์ของเชฟบอลยังเพอร์เฟ็คต์สุด กรอบนอก นุ่มหนึบใน พร้อมกลิ่นหอมๆ และรสชาติหวานๆ ของเนยกับน้ำตาลที่อบจนเป็นคาราเมลเคลือบแต่ละชั้นเอาไว้ อร่อยมากกกกก หอมมากกกก ห้ามพลาด!
เป็นคาเฟ่ในทำเลทองที่รอบด้านขายเครื่องดื่มแก้วละร้อยบาทขึ้นไปทั้งนั้น แต่ One Fine Day Café มาในราคามิตรภาพมากๆ กับคุณภาพของทั้งเครื่องดื่ม ขนม ไอศกรีม และบรรยากาศ เพราะคุณพอตั้งใจอยากให้ทั้งคนที่ทำงานในย่านนี้ คนที่แวะเวียนมา ไปจนถึงน้องๆ นักศึกษาได้ดื่มกาแฟ จิบเครื่องดื่ม กินขนม ไอศกรีม ในราคาที่ไม่แพง
ใครซื้อน้ำหอม MITH ครบ 1000 บาท ยังสามารถแลกไอศกรีมหรือเครื่องดื่มได้ 1 อย่างด้วย
One Fine Day Café
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/EBttxtz8ySJEAHYZ9
เปิด-ปิด: 07:00 – 21:00 น. (ทุกวัน)
[กราฟิก: นภสร คำโคม]
Contributor
Recommended Articles
Recommended Videos