เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

cooking post

ชวนนำผลไม้มาปรุงความหวานให้จานอาหาร

Story by ณวรา เปลี่ยนบุญเลิศ

กระบวนการทำผลไม้แห้ง ความหวานที่ใช้ปรุงรสและเพิ่มสีสันให้จานอาหาร

 

ผลไม้แห้งเกิดจากความต้องการของมนุษย์เราที่อยากเก็บผลไม้ไว้กินได้นานๆ ด้วยการเอาน้ำออกจากผลไม้ให้มากที่สุด สมัยก่อนใช้วิถีธรรมชาติโดยการตากแดดจนแห้ง สมัยใหม่จึงเปลี่ยนมาใช้วิธีเข้าเครื่องอบแห้ง (dehydrators) จึงเห็นว่าการกินผลไม้แห้งมีมาตั้งแต่สมัยเมโสโปเตเมีย หรือตั้งแต่ก่อนที่เราจะมีน้ำตาลกินเสียอีก เพราะมนุษย์ใช้ความหวานจากผลไม้มาปรุงอาหาร โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองหรือพิธีทางศาสนา ก็จะมีผลไม้แห้งมาเกี่ยวข้องทั้งนั้น เช่น อินทผลัม (date) ผลไม้เก่าแก่พบมากในตะวันออกกลาง เป็นผลไม้ที่ชาวมุสลิมกินช่วงถือศีลอดหรือเดือนรอมฎอน ลูกฟิกซ์ (figs) หรือมะเดื่อมีปรากฏให้เห็นบนภาพวาดฝาผนังในสุสานอียิปต์

 

 

 

 

ผลไม้แห้งมี 2 ประเภท คือ Semi-moist fruits และ Dried fruits ตัวอย่าง Semi-moist fruits มักทำจากผลไม้ที่น้ำตาลสูง สามารถทำให้แห้งโดยที่ยังมีความชื้นอยู่ได้ เช่น ลูกเกด (raisin) อินทผลัม (date) พรุน (prune) ฟิกซ์ (figs) แอปริคอต (apricot) โดยมาก Semi-moist fruits มีระดับความชื้นได้ถึง 25% จึงเป็นผลไม้แห้งที่รับประทานได้เลยโดยไม่ต้องนำกลับมาทำให้คืนสภาพหรือทำให้นุ่มลงก่อน ส่วน Dried fruits มักใช้กับผลไม้ที่มีความชื้นมาก น้ำตาลต่ำ ก่อนนำไปทำให้แห้งจึงต้องแช่ในน้ำเชื่อมหรือซูโครสให้อิ่มตัวก่อนเพื่อให้รักษาสภาพได้ เช่น บลูเบอร์รี เชอร์รี แครนเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี หรือผลไม้เมืองร้อนอย่าง มะม่วง มะละกอ กีวี สับปะรด ก็นำไป candied fruits เช่นกัน ดังนั้นก่อนจะนำผลไม้แห้งต่างๆ มาใช้จึงต้องรู้จักรสชาติของผลไม้แต่ละชนิดให้ดีก่อน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผลไม้แห้งนอกจากทำของหวานสุดคลาสสิกอย่างฟรุตเค้ก พุดดิ้ง คุกกี้ นำมากวนทำคอมโพท (compote คือ ผลไม้หลายชนิดนำมาเคี่ยวรวมกันกินกับโยเกิร์ตหรือไอศกรีม) ยังทำอาหารคาวได้อร่อยไม่แพ้กัน เช่น ใส่ในซอส เคี่ยวให้ข้นแล้วกินกับไก่อบ โดยเฉพาะฟัวการ์ย่าง (ตับห่าน) หรือทำเป็น stuffing ยัดไส้หมูหรือไก่ก็ได้ ทำซุป โรยใส่สลัด หรือกินเคียงกับไวน์ ถั่ว ชีสแบบต่างๆ ยิ่งอร่อยไปใหญ่ เคล็ดลับของการนำผลไม้มาทำอาหาร ถ้าเราอยากให้ผลไม้กลับมานุ่มเหมือนเดิม ให้นำไปแช่น้ำอุ่นเล็กน้อยเพื่อให้นุ่มขึ้น หรือถ้าเป็นของหวานให้นำไปแช่เหล้าหรือน้ำเล็กให้อิ่มตัว มิเช่นนั้นเวลานำไปใส่ในเค้ก คุกกี้ ผลไม้แห้งจะดูดความชื้นจากขนมทำให้เนื้อขนมยิ่งแห้งไปกันใหญ่ 

 

 

 

 

วิธีการเลือกซื้อผลไม้แห้ง ไม่ควรซื้อผลไม้แห้งที่มีสีคล้ำจนเกินไป หรือเนื้อแห้งจนแข็ง เพราะแสดงว่าเก่าเก็บ หยิบจับผลไม้แห้งด้วยมือที่สะอาด มิเช่นนั้นจะเสียได้ง่าย เปิดถุงผลไม้แล้วเก็บใส่ตู้เย็นช่องธรรมดา ไม่ให้โดนอากาศเพราะเนื้อผลไม้จะแข็ง 

 

 

 

 

เมื่อรู้วิธีการใช้ผลไม้แห้งแล้วเราลองมาทำเมนูที่ใช้ผลไม้แห้งกันเลยดีกว่า สลัดไก่อบวอลนัทใส่แครนเบอร์รี รสชาติไก่หมักโรสแมรีเค็มๆ จะเข้ากันได้ดีกับความมันของวอลนัท ตัดด้วยรสหวานของแครนเบอร์รีและลูกเกดได้เป็นอย่างดี จริงๆ แล้วจะเปลี่ยนเป็นผลไม้แห้งชนิดอื่นก็ได้เช่นกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คลิกดูสูตรสลัดไก่อบวอลนัทใส่แครนเบอร์รี

 

 

 

 

มินซ์พาย หรือมินซ์มีทพาย (mince pie or mincemeat pie) พายผลไม้แห้งสไตล์อังกฤษ หอมกลิ่นบรั่นดีและเครื่องเทศอย่างอบเชย กานพลู และลูกจันทน์ ประกอบกับเนื้อผลไม้แห้งอันหลากหลาย นำมาเคี่ยวรวมกันจนนุ่ม นิยมกินกันในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ถ้าแบบสมัยก่อนจะใส่เนื้อวัวและมันวัวลงไปด้วย แต่ลดความนิยมลงแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คลิกดูสูตรมินซ์พาย

 

 

 

 

เมนูสุดท้ายง่ายที่สุดคือฟรุตคอมโพท นำผลไม้แห้งมากวนรวมกันกับน้ำแอปเปิลและเครื่องเทศ ใช้กินตักราดกับโยเกิร์ตเป็นอาหารเช้าหรือของว่างแบบสุขภาพได้เป็นอย่างดี 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คลิกดูสูตรฟรุตคอมโพท

 

 

 

 

Share this content

Contributor

Tags:

COOKING ESSENTIAL, ผลไม้, พาย, สลัด

Recommended Articles

Cookingจากน้ำซุปสู่ซอสเข้มข้นแสนอร่อย
จากน้ำซุปสู่ซอสเข้มข้นแสนอร่อย

เคล็ดลับในการเคี่ยวสต๊อกจนกลายเป็นซอส พร้อม 3 สูตรซอสยอดนิยม

 

Recommended Videos