ไปให้สุดทางด้วยการปั้นแป้งต๊อกบกกีเอง อร่อยได้ตามใจฉัน
ถ้าให้พูดถึงอาหารเกาหลีหนึ่งอย่าง เชื่อว่าสาวกเกาหลีทั้งหลายจะต้องนึกถึง ต๊อกบกกี (Tteokbokki) ไอต้าวแป้งสีขาวนุ่มหนึบคลุกซอสสีแดงรสเผ็ดหวานเป็นอย่างแรกแน่นอน เพราะเป็นเมนูริมทางยอดฮิตยอดนิยมที่หาซื้อได้ทั่วไปในเกาหลี ทั้งยังเห็นได้จากซีรี่ส์หลายเรื่อง รวมทั้งคลิปวิดิโอ ASMR อีกหลายคลิป จึงไม่แปลกที่เมนูนี้จะเป็นภาพจำเมื่อพูดถึงประเทศเกาหลี ด้วยเนื้อสัมผัสหนึบหนับ ของเจ้าแป้งต๊อกนี้แหละที่ทำให้คนในทวีปเอเชียหลายคนรวมทั้งคนไทยชื่นชอบและติดใจกัน
แป้งสีขาวทรงกระบอกที่ใส่ในต๊อกบกกีนี้เรียกว่า Garaetteok (가래떡 ) ซึ่ง Garae แปลว่า ทรงกระบอก และ Tteok แปลว่า ขนมแป้งข้าว เมื่อเรากินจะรู้สึกถึงความหนึบๆ นุ่มๆ เคี้ยวเพลินได้อารมณ์คล้ายแป้งโมจิของญี่ปุ่น แป้งต๊อกถือเป็นวัตถุดิบกันตายของคนเกาหลีที่ทุกบ้านต้องมีติดครัวเอาไว้ เนื่องด้วยเกาหลีเป็นประเทศแห่งเกษตรกรรมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร มีการเพาะปลูกข้าวเป็นหลัก จึงทำให้อาหารหลักของชาวเกาหลีเป็นข้าว ซึ่งเห็นได้จากเมนูอาหารหลายๆ อย่างที่มักมีข้าวหรือแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก และด้วยอากาศที่หนาวเย็นการกินแป้งหรือข้าวที่เป็นคาร์โบไฮเดรตจึงช่วยเพิ่มพลังงานความอุ่นให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดี คนเกาหลีจึงนิยมกินอาหารที่มีส่วนประกอบของข้าวหรือแป้งกัน การกินต๊อกร้อนๆในวันที่อากาศหนาวเหน็บนี้แหละให้พลังงานดีสุดๆ เจ้าแป้งต๊อกนี้นอกจากจะนำไปผัดกับซอสเป็นต๊อกบกกีแล้ว ยังสามารถนำมาใส่ในเค้กข้าว (rice cake) หรือใส่ในซุปกลายเป็นต๊อกกุก (ซุปเค้กข้าว) ซึ่งนิยมรับประทานในวันขึ้นปีใหม่อีกด้วย
แป้งต๊อกทำมาจากแป้งข้าวเจ้าเป็นหลัก บ้างก็ผสมแป้งข้าวเหนียวลงไป ขั้นตอนการทำจะใช้ข้าวสาร (ข้าวญี่ปุ่น) แช่น้ำข้ามคืนจนข้าวนิ่ม กรองน้ำออก นำไปโม่จนได้ผงแป้งข้าวมา จากนั้นนำมาผสมน้ำเล็กน้อยแล้วนึ่งจนสุก นำมานวดจนแป้งเนียนนุ่มหนึบก่อนตัดเป็นแท่งหรือรูปแบบตามต้องการ ปัจจุบันมีแป้งต๊อกสำเร็จรูปแบบแช่แข็งวางขายอย่างแพร่หลายสะดวกสบายต่อผู้บริโภคมากขึ้น จึงมีน้อยคนที่จะลุกขึ้นมาทำแป้งต๊อกเอง แต่ KRUA.CO เสียอย่าง ถ้าสามารถ เราก็อยากจะลงมือทำเองตั้งแต่ขั้นตอนแรก เลยเกิดเป็นการทำแป้งต๊อกฉบับโฮมเมดนี้ขึ้น นอกจากจะได้ความเท่และประสบการณ์สนุกๆ แล้ว ข้อดีของแป้งต๊อกทำเองคือแป้งที่ได้มีความนุ่มนาน ใช้เวลาต้มให้สุกน้อยกว่าแป้งสำเร็จรูปทั่วไป ทั้งยังครีเอทขนาดและรูปแบบของแป้งต๊อกได้ตามใจชอบอีกด้วย เห็นไหมคะ ไม่ทำไม่ได้แล้ววววว
ส่วนผสม
- แป้งข้าวเจ้าญี่ปุ่น 200 กรัม
- เกลือสมุทร ¼ ช้อนชา
- น้ำร้อน 200 กรัม
- น้ำมันงาสำหรับทาแป้งไม่ให้ติดกัน
Step 1
เริ่มจากการผสมแป้งข้าวเจ้าญี่ปุ่น เกลือสมุทร และน้ำร้อนเข้าด้วยกัน ช่วงแรกใช้ไม้พายหรือทัพพีคนให้ส่วนผสมรวมตัวกันก่อน จากนั้นค่อยใช้มือนวดจนแป้งเข้ากัน ที่เลือกใช้แป้งข้าวเจ้าญี่ปุ่นเพราะเป็นแป้งที่ทำมาจากข้าวสายพันธุ์ญี่ปุ่นเช่นเดียวกับข้าวที่ใช้ทำแป้งต๊อกในเกาหลี ทำให้ได้เนื้อสัมผัสของแป้งต๊อกที่ใกล้เคียงมากกว่าแป้งข้าวเจ้าไทยนั่นเอง
Step 2
เมื่อผสมแป้งจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ให้นำไปนึ่งในลังถึงนาน 25 นาทีด้วยไฟกลางจนสุก (รองด้วยผ้าขาวบางก่อน แป้งจะได้ไม่ติดตะแกรง) ทาน้ำมันงาบนเขียงหรือถาดเพื่อป้องกันแป้งติด นวดแป้งในขณะที่ยังร้อนอยู่เพื่อให้เนื้อแป้งเข้ากันง่ายขึ้นจนแป้งเนียนและนุ่มมีความยืดหยุ่น
Step 3
คลึงแป้งให้เป็นแท่งกลม ใช้มีดหรือที่ตัดตัดแบ่งก้อนแป้งออกเป็น 8 ส่วนเท่าๆ กัน ใช้มือคลึงก้อนแป้งให้เป็นแท่งยาวความหนาประมาณ 1 ซม. จากนั้นหั่นแป้งต๊อกเป็นท่อนยาวขนาด 3 นิ้ว แล้วทาหรือเคล้าด้วยน้ำมันงาเพื่อไม่ให้แป้งติดกัน จะหั่นเป็นท่อนเฉียง หรือคลึงเป็นแท่งใหญ่แล้วนำไปแช่เย็นให้แข็งตัวก่อนนำมาสไลซ์เป็นแว่นก็ได้ตามชอบ
แป้งต๊อกทำเสร็จใหม่ๆ นำไปทำอาหารได้เลย แป้งที่ได้จะมีความนุ่มและสดใหม่มากๆ ถ้าใช้ไม่หมดให้ใส่ถุงซิปล็อกหรือกล่อง แช่เก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้นาน 2 สัปดาห์ หรือช่องแช่แข็งได้นาน 1 เดือน เมื่อจะนำมาใช้ก็ใช้ได้เลยไม่จำเป็นต้องแช่น้ำก่อน สำหรับใครที่มีแป้งต๊อกสำเร็จรูปแช่แข็งอยู่ที่บ้าน เราก็มีเคล็ดลับในการต้มแป้งต๊อกให้ออกมามีความนุ่มหนึบแต่ไม่เละมาบอก โดยนำแป้งต๊อกแช่ในน้ำเย็นประมาณ 10 นาที ก่อนนำไปต้มหรือใช้ทำอาหารต่างๆ แค่นี้ก็ได้แป้งต๊อกนุ่มหนึบได้อรรถรสเหมือนไปนั่งกินที่เกาหลีแน่นอน
ทำต๊อกบกกีโฮมเมดเสร็จแล้ว ต้องอย่าพลาดเมนูต๊อกบกกีเด็ด ๆ อย่างต๊อกย่างซอสเปรี้ยวหวาน ซุปต๊อกกุก และทัคคาลบี้ ให้ครบตามสูตรคน ‘หาทำ’ ตั้งแต่ต้นจนจบกันด้วยนะคะ
คลิกที่นี่เพื่อดูสูตร ต๊อกย่างซอสเปรี้ยวหวาน สูตรซุปต๊อกกุก และ สูตรทัคคาลบี้
บทความเพิ่มเติม
Contributor
Recommended Articles
Recommended Videos