สายบัว แม่เอ๊ยยยยยย

 

บัวกรอบฉ่ำ หอมน้ำ แม่เอ๊ยยยย

 

ใครหนอช่างว่า ‘สายบัวแต่งตัวเก้อ’ แต่ขนมหวานจากสายบัวอร่อยชื่นใจ ไม่เก้อนาจา…

 

‘บัว’ พืชมงคล คู่ไทยเมืองพุทธ แม้ ‘สายบัว’ ที่เรารับประทานกัน จะเป็นคนละพันธุ์กับที่ใช้บูชาพระ แต่บัวคือพืชมงคลในหัวใจคนไทย เมนูจากสายบัวที่เราคุ้นเคยคือแกงกะทิสายบัวหอมมัน สายบัวผัดกุ้งสด หรือสายบัวสดๆ จิ้มกับน้ำพริก แต่นอกจากเมนูคาว รุ่นปู่ย่ายังมีขนมหวานที่ทำจากสายบัวแสนอร่อยไฟเบอร์สูง (คล้ายขนมมัน และขนมกล้วย) ปัจจุบันหารับประทานยากเต็มที

 

ผู้เขียนเคยนำสายบัว มาทำขนมหวานหลากหลายอย่าง ทั้งสายบัวชีสเค้ก กราโนลาบาร์สายบัว ขนมปังไส้สายบัว หวานอร่อยหอมชุ่มฉ่ำ จนในปีล่าสุดคือไอศกรีมสายบัว หากสนใจอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร โปรดติดตาม ทาง KRUA.CO นี้ค่ะ

 

วันนี้จะคุยกันถึงของหวานที่เป็นเครื่องดื่มจากสายบัวเป็นเมนูแรก จึงนำเมนูทำง่ายทันใจไม่ซับซ้อนมาฝาก เครื่องดื่มแก้วนี้เย็นชื่นใจ หอมอร่อยนาม ‘ลั่นบึง’ และใครที่กำลังสงสัยว่าจะเหม็นเขียวพืชผักไหม ขอตอบว่าหอมกว่านี้ ก็ต้องใบเตยแล้วค่ะ

 

ส่วนผสม

 

 

• สายบัวสด จากตลาด 1 กำ (ประมาณครึ่งกิโลกรัม) จะใช้ทำเครื่องดื่ม ‘ลั่นบึง’ ได้ 6 ถึง 8 แก้ว

 

• น้ำตาลสด ดีสุด คือน้ำตาลสดจากชาวไร่ชาวสวน หากหาไม่ได้ หรือไม่สะดวก ขอแนะนำยี่ห้อโคฟี่ค่ะ หอมหวานพอดี หาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านท่าน นำมาแช่เย็นเตรียมไว้

 

• นมสดจืด

 

• ผงอบเชยป่น (เพื่อความหอมอร่อยสุดขั้ว ขอให้ซื้อสดใหม่อยู่เสมอนะคะ)

 

• น้ำแข็งหลอดเล็ก หรือน้ำแข็งยูนิตทุบให้ละเอียดหน่อย

 

 

 

วิธีทำ

 

1. นำสายบัว 1 กำ (ประมาณครึ่งกิโลฯ) ล้างน้ำให้สะอาด (ส่วนมากแม่ค้าจะลอกใยมาให้แล้ว หากยัง ให้ลอกใยออกให้หมด) จากนั้นบิเป็นท่อนสั้นๆ ประมาณ 1 เซนติเมตร นำใส่ภาชนะ เติมน้ำสะอาดลงพอขลุกขลิก (พอท่วมเนื้อสายบัวแต่ไม่ต้องมาก) ต้มจนเดือด เมื่อเดือด 5 นาที จึงปิดไฟ ปิดฝาภาชนะ ปล่อยให้ระอุสัก 1 ชั่วโมง แล้วต้มซ้ำให้เดือดอีกครั้ง

 

วิธีนี้จะช่วยให้สายบัวเปื่อยนิ่มโดยไม่เปลืองพลังงานหรือแก๊ส ไม่เหมือนการต้มจนเดือดแล้วเคี่ยวให้เปื่อยไปทีเดียวที่จะใช้เวลานาน และสิ้นเปลืองพลังงาน จากนั้นเมื่อปล่อยไว้ให้เย็นลงแล้ว นำไปแช่เย็นเตรียมไว้ (ขั้นตอนนี้ ทำเตรียมไว้ล่วงหน้าได้ สายบัวต้มเปื่อย อายุเก็บเป็นสัปดาห์ค่ะ)

 

มีบางท่านถามว่านำไปปั่นละเอียดแล้วค่อยต้มได้ไหม จะได้สุกเปื่อยเร็ว  ดิฉันเรียนว่าหากถนัดก็ยินดีค่ะ แต่มันจะเลอะเทอะ และทำให้การตักนำมาใช้ยุ่งยากค่ะ

 

2. เมื่อจะปรุงเป็นเครื่องดื่ม ให้ใช้ช้อนตักเนื้อสายบัว สะเด็ดน้ำได้เนื้อสายบัว 45 กรัม นำใส่ลงในน้ำตาลสด 150 กรัม นำไปปั่น พอให้สายบัวแหลก เทลงแก้ว เติมน้ำแข็งจนเต็มส่วน

 

สำหรับท่านที่ไม่ต้องการปั่นให้ยุ่งยาก เพียงตักเนื้อสายบัว เติมน้ำตาลสด แล้วใช้ช้อนยีและคนให้ทั่วกัน ก็ได้ความอร่อยอีกแบบค่ะ เวลาดื่มส่วนที่เป็นน้ำหมดแล้ว จะเหลือสายบัวติดเกล็ดน้ำแข็ง รับประทานกรุบๆ เพลินๆ ค่ะ

 

3. ทำฟองนม ด้วยเครื่องตีฟองนมแบบมือถือ (เครื่องมือนี้ขอแนะนำให้ท่านที่ชอบเครื่องดื่ม ซื้อติดบ้านไว้ ดีงามค่ะ) ตีฟองนมจนเป็นยอดแห้ง เทใส่แก้ว ใช้ช้อนตักส่วนที่เป็นฟองข้นนิ่มลงก่อน ให้ฟองฟูเบาแห้งอยู่ด้านบน  ระหว่างนี้เนื้อฟองนมบางส่วนจะละลายเจือไปกับน้ำสายบัว ทำให้ได้มิติรสชาติมากขึ้น

 

4. ก่อนเสิร์ฟ โรยผงอบเชยหอมๆ ค่ะ เป็นอันเสร็จพิธี

 

5. เคล็ดลับ อย่าเพิ่งชิมรสน้ำตาลสดทันทีตอนเติมน้ำแข็งนะคะ ระหว่างรอทำฟองนม จนกระทั่งเสิร์ฟให้บรรดาแขกร้องกรี๊ดกร๊าด น้ำแข็งจะค่อยๆ ละลายลดทอนความหวานอย่างพอดี

 

6. อย่าลืมแนะนำวิธีรับประทาน จิบน้ำสายบัวเบาๆ ใช้หลอดจิ้มฟองนมและละเลียดความหอมของอบเชย…

 

 

พระเจ้า! แต่ละสิ่งแต่ละอย่างในแก้วนี้ ช่างเกิดมาเพื่อกันและกัน!

 

ขนมไทยจงเจริญ เป็นอันเสร็จพิธี จริงๆ

 

หมายเหตุ: ผงอบเชยควรซื้อใหม่เสมอ ไม่เก็บในที่ชื้นมากไป ร้อนมากไปค่ะ