ถึงสิ้นเดือนจะเหมือนสิ้นใจจนต้องพึ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แต่เราจะไม่ยอมกินแบบเพลนๆ ดาษดื่นเป็นอันขาด
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี่แม้ว่าจะโซเดียมสูงไปนิด สารอาหารน้อยไปหน่อย แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังเป็นอาหารมหาชนอยู่ดีนะคะ ไม่ว่าจะเป็นใคร อายุเท่าไร เราทุกคนล้วนสยบยอมให้ความอร่อย ความง่าย และรสชาติของบะหมี่กึ่งฯ กันถ้วนหน้า แหม แต่พอดันเกิดมาเป็นคนมีจริต เป็นคนเยอะสิ่ง เป็นคนมากเรื่องเนี่ย จะให้กินบะหมี่กึ่งฯ ลวกน้ำร้อนสามนาทีจบเหมือนคนอื่นเขามันก็ไม่ใช่ทางน่ะค่ะ มันไม่ลักชูฯ เอาเสียเลย
ฉันนึกถึงเมนู ‘จาปากูรี’ จากภาพหนังเรื่อง PARASITE ที่เอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 2 อย่างมาปรุงรวมกันแล้วก็สมองแล่นขึ้นมาเลยค่ะ เพื่อไว้ลายคน (พยายามจะเล่น)เป็นเชฟ เลยจับนั่นผสมนี่ จนเกิดเป็น 5 เมนูบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบใหม่แบบสับที่ไม่ใช่แค่ลวกน้ำร้อนแล้วจบ ในขณะเดียวกันก็ทำไม่ยากจนเกินไป ใช้วัตถุดิบที่มีอยู่แล้วในครัวหรือไม่ก็หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป รับรองว่าเร็ว ง่าย อร่อย แต่มีจริต ถ่ายรูปอวดชาวโลกได้แบบไม่จ่อย ไม่จม ไม่หาย ไม่ตายละติน
ทั้งนั้นทั้งนี้ นี่ก็เป็นแค่ไอเดียของฉันเองนะคะ เอาเข้าจริงแล้วบะหมี่กึ่งฯ เป็นอาหารใจกว้างมากค่ะ จะใส่โน่นเพิ่มนี่อย่างไรก็ยังอร่อย ใครที่มีจริตแต่ไม่มีสตางค์ก็ยังพอจะหยิบเอามาครีเอตเป็นเมนูใหม่ๆ ได้ตลอด ใครมีไอเดียกินบะหมี่กึ่งอื่นๆ ส่งเข้าประกวดอีกบ้าง ลองแบ่งปันมาทางนี้หน่อยนะคะ เพราะดูท่าแล้วฉันคงต้องพึ่งบะหมี่กึ่งทุกสิ้นเดือนไปอีกนานเลยค่ะ แหะๆ
Spicy Peanut Stir Fried
สูตรนี้เลือกใช้บะหมี่เผ็ดที่ออกแบบรสมาสำหรับผัดโดยเฉพาะอย่าง Shin Ramyun Stir Fry ซองแดงในตำนาน แล้วเพิ่มรสครีมมีจากเนยถั่วเข้าไปด้วย วิธีทำคือผสมผงเครื่องปรุงรสเข้ากับเนยถั่ว 2 ช้อนโต๊ะ (เลือกแบบที่ไม่ค่อยหวานนะคะ) โคชูจังและโคชูการู (พริกป่นเกาหลี) อีกอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ เสร็จแล้วนำมาคลุกกับเส้นที่เพิ่งลวกเสร็จใหม่ๆ ร้อนๆ เติมน้ำลวกเส้นลงไปด้วยสักหน่อยจะทำให้คลุกซอสได้ง่ายขึ้น เสร็จแล้วเสิร์ฟกับแฮมและไข่ดาวสักฟอง โรยด้วยต้นหอมซอยเพิ่มสีสันและประโยชน์
เส้นของ Shin Ramyun นั้นขึ้นชื่อเรื่องความเหนียวนุ่มอยู่แล้ว พอเพิ่มเนยถั่วเข้าไป ซอสก็จะมีความ Thic ขึ้น เกาะเส้นได้ทั่วและเยอะ เวลากินก็เต็มปากเต็มคำ รสนวลๆ ของถั่วยังช่วยเบรกความเผ็ดไม่ให้จี๊ดจ๊าดเกินไป เลยทำให้กินได้เรื่อยๆ แบบไม่ทรมานปากและลิ้นมากเกินด้วยค่ะ
คลิกดูสูตรบะหมี่สไปซี่พีนัทบัตเตอร์
Tomato Egg-Drop Soup
ฉันชอบกินผัดมะเขือเทศใส่ไข่แบบจีนที่สุดเลยค่ะ เป็น Comfort Food ที่กินเมื่อไรก็รู้สึกอุ่นใจอุ่นท้องทุกครั้ง เพียงแต่ว่าบางทีในตู้เย็นไม่มีข้าวสวยเหลืออยู่เลยนี่สิคะ จากผัดมะเขือเทศใส่ไข่เลยถูกเปลี่ยนมาเป็นบะหมี่ในซุปมะเขือเทศใส่ไข่ดู ซึ่งก็ไม่เลวเลยค่ะ
สูตรนี้จริงๆ จะใช้บะหมี่อะไรก็ได้ค่ะ แต่ในที่นี้ทีมอาหารแนะนำให้ใช้ Jin Ramyoen บะหมี่เผ็ดซองเหลืองที่จะเผ็ดน้อยกว่าซองแดงนิดหน่อยเพื่อให้เสริมกันกับรสเปรี้ยวอ่อนๆ จากมะเขือเทศ และมีเคล็ดลับเพิ่มความหวานกลมกล่อมโดยใช้หอมหัวใหญ่มาช่วย วิธีทำก็เริ่มจากตั้งหม้อต้มมะเขือเทศกับหอมใหญ่ก่อนราว 3 นาทีจนเริ่มนุ่ม เพิ่มรสอูมามิด้วยกระเทียมสับ ใส่เครื่องปรุงรสและโคชูการูสักช้อน พอน้ำเริ่มงวดลงก็ใส่เส้นบะหมี่ลงไปต้มราว 3 นาที
ขั้นตอนนี้สำคัญนะคะ เมื่อบะหมี่นุ่มได้ที่แล้วให้คีบเฉพาะบะหมี่ออกมาใส่ถ้วยที่จะใช้เสิร์ฟก่อนเลยค่ะ หลังจากนั้นค่อยใส่ไข่ลงไปในหม้อซุปต่อ วิธีนี้จะทำให้ไข่เราสุกนุ่มและเป็นชิ้น ส่วนบะหมี่ก็จะยังเป็นเส้นสวย ไม่อืด ไม่เละ หลังจากไข่สุกแล้วก็ใส่พริกชี้ฟ้าเขียวเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและเพิ่มสีสัน โรยต้นหอมซอยเสียหน่อยก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย กระซิบตรงนี้ว่าบะหมี่สูตรนี้กินร้อนๆ แกล้มกับกิมจิเข้ากันอย่างกะกิ่งทองใบหยกเชียวนะคะ
Chili Oil with Dumpling
วิธีทำน้ำมันพริกแบบจีนนี่เป็นอีกสิ่งที่ฉันจะต้องหยุดดูจนจบทุกครั้งไม่ว่าจะขึ้นมาใน Feeds สักกี่รอบ เพราะมันดูฟู่ฟ่าน่ากินเหลือเกิน พอได้ลองทำเองก็พบว่ามันง่ายมาก และเหมาะจะกินกับเกี๊ยวซ่าร้อนๆ สุดๆ พอเอาเรื่องนี้ไปบ่นๆ กับทีมอาหารมากเข้าเลยเกิดเป็นสูตรนี้ขึ้นมาค่ะ
เริ่มจากการทำน้ำมันพริก โดยผสมผงเครื่องปรุง พริกป่น น้ำมันงา กระเทียมสับละเอียด และต้นหอมสับละเอียด (ส่วนโคน) เข้าด้วยกัน ตั้งกระทะใส่น้ำมันบนไฟแรง พอน้ำมันร้อนจัดก็เทใส่ถ้วยเครื่องปรุงที่ผสมไว้ น้ำมันร้อนๆ จะส่งเสียงฉู่ฉ่าน่าตื่นเต้นและส่งกลิ่นหอมไปทั่วครัว
หลังจากนั้นก็ตั้งหม้อลวกเส้นบะหมี่ให้เรียบร้อย แล้วตั้งหม้ออีกทีเพื่อทำน้ำซุป โดยที่น้ำซุปก็จะใช้น้ำมันพริกที่ทำไว้นี่แหละค่ะใส่ลงไปราว 2 ช้อนโต๊ะ จัดเสิร์ฟโดยการใส่เส้นบะหมี่ลงในถ้วย คลุกด้วยน้ำมันพริกที่เหลือ เสร็จแล้วใส่เกี๊ยวซ่า (ที่ซื้อมาแบบพร้อมรับประทาน – แหม เวลาหิวๆ จะให้มานั่งปั้นเกี๊ยวซ่าเองก็ไม่น่ารอดค่ะ) ราดด้วยน้ำซุปร้อนๆ แล้วโรยต้นหอมลงไปเยอะๆ สูตรนี้ดุดันทั้งหน้าตาและรสชาติ เพราะแคปไซซินที่อยู่ในน้ำมันนั้นมันเผ็ดร้อนได้ใจเหลือเกิน ใครกินเผ็ดไม่เก่งต้องหลีกทางโดยด่วนนน
คลิกดูสูตรบะหมี่เกี๊ยวน้ำมันพริกจีน
Hot and Crispy
ทุกคนเคยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบดิบๆ ไม่ผ่านน้ำร้อนกันไหมคะ มันมีความกรุบกรอบ หอม เค็ม แบบหยุดไม่อยู่เลยค่ะ (แหม ก็มันเป็นของทอดนี่เนอะ) ทีนี้เราจะยกระดับความกรุบกรอบให้เหนือชั้นกว่าเดิมด้วยการนำไปคั่วและยำให้แซ่บซุย แม้จะหน้าตาบ้านๆ แต่รสชาตินี่แบบว่า ถ้าทำเสิร์ฟขึ้นโต๊ะกินเดิมนี่จะประดับบารมีเป็นเชฟคนชิคได้ในทันทีเลยค่ะ
วิธีทำเริ่มจากนำเส้นมาม่ารสต้มยำกุ้งซองสีเงินที่แสนคุ้นเคยมาหักให้พอคำ เสร็จแล้วนำไปคั่วในกระทะแบบไม่ต้องใส่น้ำมัน เส้นมาม่าจะกรอบและหอมขึ้น พักเส้นมาม่าไว้ไปทำน้ำยำโดยปรุงหมูสับรวนกับน้ำมะนาว น้ำตาล น้ำปลา และผงเครื่องปรุง คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วเติมผักสดอย่างมะเขือเทศ ขึ้นฉ่าย หอมใหญ่ ใส่เส้นมาม่าคั่วกรอบลงไป คนอีกสัก 2-3 รอบแล้วตักเสิร์ฟทันที
เมนูนี้เห็นหน้าตาก็คงนึกรสชาติออกเลยใช่ไหมคะ แม้จะดูเรียบๆ บ้านๆ แต่เรื่องรสชาตินี่ใครได้กินเป็นต้องติดใจเลยค่ะ ทั้งนี้ก็ขอขีดเส้นใต้ไว้หน่อยว่ากินแค่พออร่อย พอได้แซ่บได้เอยก็พอ อย่ากินครั้งละเยอะๆ เดี๋ยวท้องอืดเอานะคะ (เตือนไปอย่างนั้นแหละค่ะ ฉันทำเมนูนี้ทีไรก็กินเยอะทุกที แหะๆ)
คลิกดูสูตรยำบะหมี่คั่วกรอบหมูสับ
Tonkotsu Mayo
ปิดท้ายด้วยสูตรฮอตฮิตที่เห็นได้บ่อยๆ นั่นก็คือการใช้มายองเนสมาเพิ่มความเข้มข้นหอมมันให้กับบะหมี่ที่เป็นรสชาติทงคตสึอยู่แล้ว เราเลือก Nissin Tonkotsu Ramen ซองจิ๋วแต่แจ๋วมาเป็นตัวชูโรงเพราะน้ำซุปทงคตสึรสชาติค่อนข้างดีเลยค่ะ
แต่จริตเยอะอย่างเราๆ คำว่าค่อนข้างดี แปลว่ายังไม่พอค่ะ (ฮา) เพราะฉะนั้นเราจะอัปเลเวลให้ทงคตสึโดยการตีไข่ ผงปรุงรส และมายองเนสให้เข้ากันเตรียมไว้ หลังจากนั้นก็ลวกเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในน้ำร้อนจัด ตักเส้นขึ้นสะเด็ดน้ำไว้ แล้วเทน้ำลวกเส้นลงในเครื่องปรุงและไข่ที่ตีไว้ทันทีตอนร้อนๆ ระหว่างเทก็ให้คนเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ไข่จับตัว มายองเนสและไข่ที่เพิ่มเข้าไปจะทำให้น้ำซุปเข้มข้นขึ้น หนาขึ้น ประหนึ่งว่าเราได้เคี่ยวกระดูกหมูมาแล้วเป็นวันๆ
เมื่อได้น้ำซุปหนานวลแล้ว เราก็ใส่เส้นที่ลวกแล้วลงในชาม ราดน้ำซุป เสิร์ฟพร้อมกับสาหร่ายและไข่ต้มซีอิ๊ว โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยนิดหน่อย ถ้าใครใช้บะหมี่ยี่ห้อเดียวกันนี้ในซองก็จะมีน้ำมันกระเทียมดำมาให้ด้วย ให้ใส่เป็นขั้นตอนสุดท้ายก็จะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมได้ยอดเยี่ยม สูตรนี้ฉันไม่ได้คิด (มโน) ขึ้นมาเองแต่หยิบจับมาจากโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งก็ต้องขอยกมือไหว้งามๆ ขอบคุณในความสร้างสรรค์ไว้ ณ ที่นี้ เพราะมันอร่อยเหนือความคาดหมายเลยค่ะ
อ่านบทความเพิ่มเติม
Contributor
Tags:
Recommended Articles
Recommended Videos