
3 ร้านเนื้อต้มบ้านสิงห์ระดับตำนาน กับตำรับเนื้อต้มหอมสมุนไพรที่คนรักเนื้อไม่ควรพลาด
ราชบุรีเต็มไปด้วยของอร่อย โดยเฉพาะสายเนื้อ มาเยือนถิ่นฟาร์มวัวทั้งทีแล้วไม่ได้กิน เนื้อต้มบ้านสิงห์ อาหารท้องถิ่นราชบุรีนั้นน่าเสียดาย เพราะร้านเนื้อต้มทักทายเราตั้งแต่เข้าเขตราชบุรี ริมทางจะเห็นร้านเนื้อต้มบ้านสิงห์ขายอยู่ประปราย ร้านโน้นก็บ้านสิงห์ ร้านนี้ก็บ้านสิงห์ คนพื้นที่หลายคนเลยแนะนำร้านให้เราตามไปลอง เป็น 3 ร้านเนื้อต้มบ้านสิงห์ที่อยู่คู่ราชบุรีมานาน
ตำรับเนื้อต้มบ้านสิงห์นี้มีมาไม่ต่ำกว่า 80 ปี โดยร้านหนึ่งในตำบลบ้านสิงห์ อำเภอโพธาราม ทำเนื้อต้มขายเป็นตำรับที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน คือเอาเนื้อมาต้มกับเครื่องสมุนไพรอย่างข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ส้มมะขาม ต้มจนเนื้อและเครื่องในเปื่อย หอม กินคู่กับข้าวสวย ภายหลังเพิ่มรสชาติน้ำต้มปรุงให้คล้ายต้มแซ่บ ต้มยำ เติมรสเปรี้ยวจากมะขามหรือมะนาว เพิ่มเผ็ดจากพริกขี้หนู โรยใบกะเพราสดเข้ามาด้วย จนกลายเป็นที่จดจำของผู้คน ใครทำเนื้อต้มสมุนไพรแล้วปรุงอย่างต้มยำ ต้มแซ่บก็จะเรียกว่าเนื้อต้มบ้านสิงห์ จนกลายเป็นอาหารท้องถิ่นที่พบเห็นได้ทั่วไปเมื่อมาราชบุรี 3 ร้านเนื้อต้มบ้านสิงห์ที่เราได้ไปลองตามคำแนะนำของคนพื้นที่ แต่ละร้านมีคาแรกเตอร์ต่างกันอยู่ อยู่ที่ว่าใครชอบแบบไหนก็เลือกจิ้มไปร้านนั้นได้เลย แต่ถ้าพอมีเวลาได้แวะชิมทั้งสามร้านเพื่อหาเนื้อต้มที่ถูกจริตตัวเองก็จะดีไม่น้อย

1. เจ๊ติ๊ม เนื้อต้มบ้านสิงห์
เริ่มกันที่ร้านแรก เจ๊ติ๊ม เนื้อต้มบ้านสิงห์ อยู่ใกล้กับเขางู ทางเข้าวัดดอนตลุง ขายมากว่า 40 ปี ได้สูตรมาจากพ่อแม่สามีที่เปิดร้านอยู่ก่อนแล้ว และเอามาปรับปรุงให้เป็นรสมือของตัวเอง ร้านเจ๊ติ๋มเป็นร้านใหญ่ มีที่นั่งอยู่หลายโต๊ะพร้อมที่จอดรถไว้บริการ


เราสั่งไปสองอย่างคือเนื้อต้มบ้านสิงห์แบบต้มแซ่บ กับเนื้อลวกจิ้ม ไม่นานก็มาเสิร์ฟ ในชามเนื้อต้มมีทั้งเนื้อ เครื่องใน รวมถึงเนื้อสดลวกหั่นมาชิ้นเล็กพอดีคำ ซดน้ำไปคำแรกได้กลิ่นหอมสมุนไพร ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด น้ำออกเปรี้ยวเค็มกลมกล่อม เผ็ดพริกขี้หนูที่สับใส่มาด้วย เนื้อทำมาได้ดีเปื่อย เคี้ยวง่าย ไม่มีเหนียวหรือกลิ่นสาบคาวมากวนใจ เครื่องในพวกไส้เปื่อยนุ่ม เอ็นแก้วนุ่มหนึบ
ตัวเนื้อลวกจิ้มเป็นเนื้อรวมกับเครื่องในเปื่อยดี ผ้าขี้ริ้วกรุบกรอบ ไม่มีกลิ่นสาบคาวเนื้อหรือเครื่องในเลย ไส้เปื่อยนุ่ม ตับ ลวกมาดีหมด จิ้มกับน้ำจิ้มพริกกระเทียม ออกหวานเปรี้ยว เผ็ดเบาๆ
ปัจจุบันร้านลูกเจ๊ติ๋มรับช่วงต่อเป็นรุ่นที่ 2 ส่วนเจ๊ติ๊มวัยเก๋าก็ยังเข้าร้านอยู่ทุกวัน นั่งหั่นเนื้ออยู่ในครัว วันที่เราไปเช้าตรู่แทบจะเป็นลูกค้ารายแรกเลยมีโอกาสได้คุยกับป้าติ๋มเล็กน้อยถึงตำรับเนื้อต้มบ้านสิงห์


“แต่ก่อนเขาทำกันจะต้มเป็นกะละมัง ทั้งเนื้อทั้งเครื่องในรวม แล้วก็ใส่ส้มมะขามต้มไปด้วย จะไม่มีปรุงเป็นต้มแซ่บกันเหมือนอย่างทุกวันนี้ ก็จะกินเป็นเกาเหลา แล้วหลังๆ ก็มาดัดแปรงปรุงรสเป็นต้มแซ่บ
“พวกเนื้อเครื่องในก็จะซื้อสดทุกวัน เนื้อมันดีทั้งนั้นที่เอามาเพราะว่าแขก (คนมุสลิม) เขาทำ ไทยทำเนื้อสู้แขกไม่ได้นะ คนแขกเขามีวิธีทำ วิธีแล่ของเขาเราก็ไม่รู้เขาทำแบบไหน ก็ซื้อเขามาตลอดตั้งแต่เริ่มขายมา เนื้อจะไม่มีเหม็นคาวเหม็นสาบ แล้วก็ต้มไว้ตั้งแต่กลางคืนเช้ามาก็เปื่อยพอดี ต้มกับเครื่องสมุนไพรข่า ตระไคร้ ใบมะกรูด แต่ละเจ้าสูตรก็ต่างกันไป ตัวต้มแซ่บเราจะปรุงรสทีละถ้วย ใช้พริกหอมก็จะได้กลิ่นหอมแต่ถ้าไหนพริกหอมแพงมากก็ใช้พริกขี้หนูสวน ส่วนในหม้อที่ต้มเนื้อไว้น้ำซุปมันก็อร่อยอยู่แล้ว อร่อยแบบเกาเหลา”
ป้าติ๋มบอกว่า ที่ร้านยังมีเมนูเด็ดๆ อีกมาก อย่างกะเพรา และโดยเฉพาะไข่เจียวกรอบ ป้าติ๋มทำอร่อยสุดๆ อยากให้ทุกคนมาลอง
เปิดเวลา: 8:00 – 14:00 น. หยุดวันจันทร์ (ต.เกาะพลับพลา อ.เมืองราชบุรี)
Map: https://maps.app.goo.gl/rUcDeUQAK1LMycmX6

2. เนื้อต้มบ้านสิงห์โกเหลียงเจ้าเก่า
กินเนื้อต้มบ้านสิงห์จะไม่มาตำบลบ้านสิงห์ถิ่นเนื้อต้มเห็นทีคงไม่ได้ ร้านถัดมาเลยไปที่ร้านเนื้อต้มบ้านสิงห์โกเหลียงเจ้าเก่า ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านสิงห์ โพธาราม ไม่ไกลจากอุทยานเขางู สำหรับคนต่างถิ่นไม่ชินทางอาจดูเหมือนอยู่ในแดนสนธยาหน่อยๆ เพราะไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่เหมือนเจ้าอื่น แต่เปิดแมพตามมาได้สบายๆ ร้านโกเหลียงเป็นร้านเล็กๆ ที่มีโต๊ะนั่งอยู่ 5-6 โต๊ะ มีลูกค้าเข้า-ออกไม่ขาดช่วง ซื้อกลับบ้านบ้าง นั่งกินที่ร้านบ้าง
โกเหลียงคือเจ้าของสูตรที่เสียชีวิตไปแล้ว ปัจจุบันเป็นญาติโกเหลียงรับช่วงต่อเป็นรุ่นที่ 4 ขายมากว่า 50 ปี เราสั่งไป 2 อย่างคือสูตรต้นตำรับเนื้อต้มบ้านสิงห์ ซึ่งทุกร้านมักจะเรียกว่า ‘เกาเหลา’ คือไม่ปรุงรส เป็นเนื้อต้มใส่มาในน้ำซุป กับเนื้อต้มบ้านสิงห์แบบต้มแซ่บ ปรุงรสให้จัดจ้าน ซึ่งเป็นแบบสมัยนิยมที่คนกินกัน

เกาเหลา (เนื้อต้มบ้านสิงห์แบบดั้งเดิม) น้ำซุปรสกลมกล่อม มีพวงเครื่องปรุงให้ปรุงรสเอง พร้อมมะนาวสดฝานชิ้น ตัวน้ำซุปกลมกล่อมพอดี หอมกระเทียมเจียว ใครชอบรสนวลๆ เชงๆ จะไม่ปรุงก็ได้ ซดคล่องคอ หรือจะเติมมะนาวนิด ใส่พริกป่นอีกหน่อยก็ได้อีกรสชาติหนึ่ง เหมือนเรากินต้มเลือดหมู ทว่าทุกอย่างในจานนี้เป็นเนื้อวัวกับเครื่องในวัว

ต้มแซ่บ รสเผ็ดร้อน จัดจ้าน จากเครื่องสมุนไพร หอมใบกะเพรา เนื้อหั่นชิ้นเล็กพอดีคำ ทั้งเนื้อและเครื่องในไม่เจอเหนียวเลยสักชิ้น กินได้แบบไม่มีสะดุด ชามนี้เบสน้ำซุปเดียวกันกับชามเกาเหลา แค่เอามาปรุงใส่เครื่องสมุนไพรข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดทีหลัง พวกเครื่องสมุนไพรจะหั่นมาชิ้นเล็กๆ ที่ร้านเขาปรุงชามต่อชาม

ถึงร้านจะอยู่ลึกแต่อยากให้เข้ามาลองกันค่ะ พี่เจ้าของร้านใจดี แม้จะง่วนขายของอยู่แต่ก็แวะมาพูดคุยกับเราเป็นพักๆ เนื้อนุ่ม น้ำซุปหอมถึงเครื่องสุดๆ

เปิดเวลา: 7:30 – บ่าย 2:30 น. (ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอโพธาราม)
Map: https://maps.app.goo.gl/Z4QQZwwp3AWfZMjRA

3. เนื้อต้มแม่สมร (เนื้อต้มสะพานขาว)
ร้านสุดท้ายที่อยู่ในลิสต์ชาวราชบุรีแนะนำคือร้าน เนื้อต้มแม่สมร เรียกอีกชื่อว่าเนื้อต้มสะพานขาว โพธาราม เปิดมาราว 50 ปีแล้ว เป็นร้านอยู่ติดถนนใหญ่ ร้านนี้รถจอดเต็ม คนแน่นร้าน เรียกว่าได้เปรียบเรื่องทำเลที่ตั้ง ใครผ่านไปมาก็ต้องเห็นร้านแม่สมร อย่างน้อยๆ ก็ต้องเอ๊ะบางแหละว่าเขาจอดรถกินอะไรกัน
ยังไม่ทันนั่งโต๊ะก็มีคนมารอรับออร์เดอร์เร็วไว เราสั่งเกาเหลา (ต้มเนื้อแบบดั้งเดิม) กับต้มเนื้อต้มแซ่บไป ระหว่างรอจะมีคนมาเสิร์ฟข้าวที่ตักใส่ถ้วยไว้แล้ว หยิบได้เท่าที่ต้องการกิน มีน้ำมะพร้าวสดใส่ขวดของทางร้านเดินขายลูกค้าถึงโต๊ะ ลองหยิบมาชิมขวดหนึ่งระหว่างรอต้มเนื้อ น้ำมะพร้าวสดแช่เย็น หวานหอม ดื่มแล้วสดชื่น

ครู่หนึ่งต้มเนื้อก็มาเสิร์ฟ กลิ่นสมุนไพรลอยปะทะจมูกมาเลย ที่แตกต่างจากร้านอื่นๆ คือ เนื้อและเครื่องในหั่นมาชิ้นใหญ่ หนา ส่วนเครื่องสมุนไพรจะซอยมาบางๆ ชิ้นเล็กสุดๆ แต่ปะโคมใส่มาเต็มชาม พอได้ซดแล้วน้ำต้มแซ่บจัดจ้านทุกทาง เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดร้อน หอมสมุนไพร สไตล์ลูกทุ่งโจ๊ะๆ เลย ส่วนเนื้อต้องออกแรงเคี้ยวมากกว่าร้านอื่นๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะชิ้นมันหนาใหญ่ไปหรือเปล่า เคี้ยวนานอยู่พอควร แต่เครื่องในโดยรวมทำดีหมด ไส้นุ่ม ปอดนุ่ม ผ้าขี้ริ้วกรอบ ไม่มีกลิ่นสาบคาว


อีกชามเป็นเกาเหลา รสชาติน้ำซุปหวาน หอมพริกไทย กินแล้วนึกถึงต้อมเลือดหมู รสแบบนั้นเลย เนื้อเหมือนกันชิ้นใหญ่ ยังต้องออกแรงเคี้ยวสักหน่อย
เปิดปิดเวลา: เปิดทุกวัน 7:00-17:00น. (สะพานขาว อ.โพธาราม)
Map: https://maps.app.goo.gl/9cor5NmDa8EaDvgS6
สรุปทั้ง 3 ร้านรสชาติดีสมคำร่ำลือ แค่คาแรกเตอร์ต่างกันอยู่ที่จริตคนกินว่าชอบแบบไหน ขมวดมาให้คร่าวๆ ตามนี้เลยค่ะ
เจ๊ติ๋ม: เนื้อชิ้นเล็กบาง เปื่อย เคี้ยวง่าย มีเนื้อสดลวกใส่มาให้ด้วย น้ำต้มแซ่บ เปรี้ยวเค็มกลมกล่อม เผ็ดร้อนจากพริกขึ้หนูสดและเครื่องสมุนไพรแบบกำลังดี ซดได้เรื่อยๆ
เนื้อต้มบ้านสิงห์โกเหลียงเจ้าเก่า: เนื้อชิ้นเล็กพอดีคำ เปื่อย เครื่องในทำมานุ่ม สิ่งไหนที่ควรกรอบก็ทำมากรอบดีอย่างผ้าขี้ริ้ว น้ำซุปสูตรดั้งเดิมกลมกล่อมแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม ซดอร่อยคล่องคอ / สูตรต้มแซ่บก็จัดจ้านครบรส หอมเครื่องสมุนไพร
เนื้อต้มแม่สมร: เนื้อและเครื่องในหั่นมาชิ้นหนา ใหญ่ ตัวเนื้อไม่ได้เปื่อยมากทำให้ต้องออกแรงเคี้ยวพอควร รสเผ็ดร้อนจัดจ้านสไตล์ลูกทุ่ง โจ๊ะๆ ติดขมปลายลิ้นจากความเผ็ดพริกหน่อยๆ / ตัวเกาเหลาน้ำซุปหวานหอมกลิ่นพริกไทย คล้ายต้มเลือดหมู
Contributor
Recommended Articles
Recommended Videos