เมื่อโรคระบาดทำให้เราเห็นคุณค่าของอาหารอีกครั้ง
มจ.สิธิพร กฤดากร บิดาแห่งการเกษตรแผนใหม่ ปราชญ์กสิกรรมธรรมชาติ ได้พูดถึงความสำคัญของ ‘ข้าวปลาอาหาร’ ไว้จนอาจกล่าวได้ว่าเป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์บทหนึ่งที่ชาวกสิกรรมธรรมชาติในบ้านเรายึดเป็นแนวทางในการเป็นอยู่ดำรงชีพ
ผู้คนนอกสาย หลากหลายอาชีพในสังคม ผู้คนที่ใช้ชีวิตตามสภาวะปกติอาจเถียงในใจ เงินสิสำคัญ มีเงินซะอย่าง หาซื้อทุกอย่างได้ ซึ่งนั่นก็ถูกต้องในสภาวะในสถานการณ์ที่ปกติ ไม่มีวิกฤต มีผู้ผลิต มีผู้บริโภค เป็นห่วงโซ่
แต่ยามนี้ ล่ะ? สภาวะอันไม่ปกติ เกิดวิกฤตโรคระบาด
โควิด ๑๙ สภาวะที่โรคระบาดคุกคามโลก ทั้งโลกตกอยู่ภายใต้การระบาดอย่างหนักของไวรัสมรณะนี้ สภาวะอันเป็นบทตัดสินถึงความสำคัญที่แท้จริงของสิ่งต่างๆ ที่คนเราต้องพึ่งพิงและพึ่งพา สถานการณ์บังคับให้ต้องเลือก
ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบด้านบริหารจัดการในประเทศ ต่างออกนโยบายมากมายมาเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวคือ ป้องกันชีวิตของพลเมือง ไม่ให้ต้องเสียชีวิตจากโรคระบาด ไม่ติดโรคระบาดจนเป็นพาหะ ทางรอดในท่ามกลางวิกฤตที่มีทางเลือกเพียงไม่กี่ทาง ด้วยสิ่งที่พบคือเชื้อโรคที่ไม่เคยเกิดขึ้นในโลกนี้
อยู่บ้าน ปิดเมือง หยุดการรวมกลุ่ม เคอร์ฟิว ปิดร้านรวง ร้านค้า หยุดการเดินทาง ทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เกิดการลุกลาม ภายใต้ความเชื่อว่าการระบาดติดต่อกันจากคนสู่คน มาตรการจึงต้องแยก หรือเว้นระยะห่างของคนในสังคมให้มากที่สุดจนกว่าจะมีมาตรการที่ดีกว่า ซึ่งยังไม่มี
‘กักตัวเพื่อชาติ’ วลีสั้นๆ กลายเป็นหลักปฎิบัติสำคัญเป็นยอดกลยุทธ์การต่อสู้ในสงครามครั้งนี้ เราพากันกักตัวเองอยู่กับบ้าน ออกจากบ้านให้น้อยที่สุดและเมื่อจำเป็นที่สุด ใครจะไปคาดคิดบ้านเราต้องยกเลิกสงกรานต์ ร้านหลายร้าน ตลาดขึ้นชื่อหลายตลาดไม่เคยปิดก็ต้องมาปิดในครั้งนี้ นี่คือความจริงที่ธรรมชาติกำลังบอกสอนให้เราใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท
สถานการณ์บางอย่างมักทำให้เราค้นพบเรื่องราวมากมายที่จะพบได้ยากในสภาวะปกติ ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องของวิธีการคิดของแต่ละผู้คนซึ่งไม่เหมือน ไม่ตรงกัน แตกต่างไปตามอายุ ตามกระบวนการคิดบวกหรือลบ ตามสภาวะการเป็นอยู่ภูมิฐานะ
แต่ไม่ว่ามนุษย์จะอยู่ในฐานะหรือเป็นแบบไหน ทุกคนก็ต้อง ‘กิน’ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างไร?
เราเห็นในข่าวไหมครับ ผู้คนพากันแย่งซิ้ออาหาร กักตุน หลังมีข่าวต่างๆ ออกมา เกิดวิกฤตไข่ขาดตลาด เห็นไหมว่ายามวิกฤตเช่นนี้ ข้าวปลา อาหาร มันสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เลยละ ไอ้วลีที่ว่า ‘เงินทองคือมายา ข้าวปลาคือของจริง’ ที่กล่าวในตอนต้นเริ่มศักดิ์สิทธิ์จริงละทีนี้เห็นไหม?
กลับมาถึงการกักตัวอยู่บ้านเพื่อชาติและการค้นพบวิถีบางอย่างที่ไม่สามารถพบได้ในสภาวะปกติ แน่นอน การสั่งอาหารผ่านบริการส่งถึงบ้านเป็นวิธีการที่ฮอตฮิตที่สุดยามนี้ แต่ในอีกด้าน ที่มาแรงแซงทางโค้งไม่แพ้กันตัดสินได้จากรีวิวมากมายในสื่อต่างๆ ทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูบ บล็อกส่วนตัว ก็คือ ‘การทำอาหารกินเอง’ หลายคนเพิ่งพบลายแทงขุมทรัพย์แห่งความสุขก็ตอนวิกฤตโควิดนี่ละ เดินทางค้นหาความสุขมารอบโลก มาพบความสุขที่แท้อยู่ในครัวหลังบ้านนี่เอง บางคนถึงกับนิพพานบนกระทะกันเลยก็ว่าได้
‘ความสุข ทำให้อาหารอร่อย’ เพื่อนๆ พี่ๆ เคยมีความรู้สึกเช่นนี้กันไหม เชื่อไหม ยามกักตัวนี้หลายๆ บ้านค้นพบเมนูใหม่มากมายที่ปรุงแบบง่ายๆ วัตถุดิบพื้นๆ บ้านๆ และที่สำคัญบางอย่างไม่ได้ซื้อหา เก็บเอาริมรั้ว กวาดของเหลือๆ ค้างตู้เย็นมารังสรรค์จนกลายเป็นเมนูอร่อย มันอร่อยเพราะได้ทำด้วยตัวเอง ได้ทำร่วมกับครอบครัว พ่อแม่ลูก นั่งล้อมวงปั้นจกกันอย่างอบอุ่น ซึ่งในยามปกติวิถีของสังคมเร่งรีบในสภาวะปกติไม่สามารถทำได้ เงินมันดึงเวลา มันชิงนาทีสุขนี้ไปจากเราหมด ยามนี้ซิ ยามที่ทุกอย่างถูกบังคับให้ต้อง ‘หยุด’ หยุดมาทบทวนตัวเอง หยุดมาขบคิดถึงความเป็นจริง และมายาที่เกิดขึ้น
ยังไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าวิกฤตไวรัสมรณะนี้จะจบลงเมื่อใด และจะจบลงอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่เราทำได้คือการอยู่กับปัจจุบัน อย่างมีสติ ให้กำลังใจแก่กันและกัน เพื่อผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันให้ได้ มองบวกให้มากๆ เราได้ความสุขมากมายกลับคืนมา โลก ธรรมชาติ ได้พักและเยียวยาตัวเอง เราได้มีเวลาอยู่กับตัวเองกับครอบครัวมากขึ้น
และที่สำคัญ เราค้นพบลายแทงแห่งความสุขที่ซ่อนสมบัติที่แท้จริงไว้ในก้นครัวเรานี่เอง
ปล. เย็นนี้ลองตักแกงไส่ปิ่นโต ไปแขวนไว้ประตูรั้วเพื่อนบ้านข้างๆ ดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่า…
‘เงินทองคือมายา ข้าวปลาสิ ของจริง’
เรื่องและภาพโดย ซาไก (ทัดดอกฝิ่น) ตัวตลกบิดลูกโป่งจากเชียงใหม่
Contributor
Tags:
Recommended Articles
Recommended Videos