ร้านบุฟเฟ่ต์หมูย่างเกาหลีที่มีหมูดรายเอจและสารพัดเมนูหาไม่ได้ที่ร้านอื่น
เดือนแห่งการกินเนื้อทั้งทีจะขาด ‘หมูย่างเกาหลี’ ไปได้ยังไง เพราะเป็นหนึ่งในอาหารสุดป๊อป ฮอตฮิตจนมีร้านหมูย่างเกาหลีอยู่ทั่วทุกหนแห่งจนบางทีก็สงสัยว่าเอ๊ะ นี่เราอยู่ไทยหรือเกาหลี แหม ก็อาหารปิ้งย่างล้อมวงมันแสนจะฮีลใจ ปิ้งไปเม้าท์ไป บอกเล่าสารทุกข์สุกดิบกับเพื่อนไป เรียกว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการกินที่เหมือนทั้งได้บำบัดจิตและปาร์ตี้ไปด้วยพร้อมๆ กัน แล้วหมูย่างเกาหลีเองก็มีความน่ากินในตัวเองอยู่แล้ว ไหนจะหมูหมักเนื้อฉ่ำๆ ซอสซัมจังรสชาติเฉพาะตัว กิมจิ และถ้าจะเกาหลีแท้ต้องมีใบงาด้วย กินเมื่อไหร่ก็ฟิน
มองเผินๆ ร้านหมูย่างเกาหลีก็คล้ายๆ กัน ใช้วัตถุดิบแบบเดียวกัน และมักจะมาในแนวบุฟเฟ่ต์เหมือนๆ กัน แต่หมูย่างเกาหลีก็เหมือนหมูกระทะนั่นละค่ะ มีความไม่เหมือนในความเหมือน ทั้งการเลือกสรรวัตถุดิบ เครื่องปรุง กรรมวิธี ไปจนถึงสูตรหมัก สูตรน้ำจิ้ม ที่แต่ละร้านมีสูตรของตัวเอง ซึ่งฉันไปสะดุดตากับคำว่า ‘หมูดรายเอจ 360 ชั่วโมง’ ของร้าน KBBQ เข้าให้ ตระเวนกินหมูย่างมาก็มาก ไม่เคยเจอร้านไหนใช้หมูดรายเอจเลย แถมดรายเอจ 360 ชั่วโมงไปอีก มันจะนุ่มขนาดไหนกันนะ ว่าแล้วก็ต้องไปลอง
ร้าน KBBQ มีหลายสาขา แต่ฉันเลือกมาสาขาสุขุมวิท ซึ่งอยู่บนชั้น 2 ของคอนโดสุขุมวิทเรสซิเดนท์ ได้ฟีลเกาหลีเชียวค่ะ เพราะร้านอาหารที่เกาหลีส่วนมากต้องเดินขึ้นบันไดเล็กๆ ไปที่ชั้นสองหรือชั้นสามถึงจะเจอร้าน พ้นบันไดไปก็เจอแล้ว… หน้าร้านอาจจะดูไม่ใหญ่ แต่เดินเข้าไปเท่านั้นแหละ ใหญ่โตกว้างขวางมากๆ ใหญ่แค่ไหน ก็แค่นอกจากโซนปกติที่กว้างกว่าร้านหมูย่างเกาหลีหลายๆ ร้าน ยังมีโซนไพรเวทที่สามารถรองรับผู้คนได้ถึง 50 คน จะยกกันมากระชับสัมพันธ์ปิ้งย่างทั้งบริษัทหรือเลี้ยงรุ่นก็มาได้
และที่ว้าวคือไลน์บุฟเฟ่ต์ที่ต้องใช้คำว่าอลังการ ฉันลืมบอกไปว่าที่นี่เป็นหมูย่างเกาหลีแบบบุฟเฟ่ต์ มีหลายราคาให้เลือก โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 399+ ราคามาตรฐานทั่วไปของบุฟเฟ่ต์หมูย่างเกาหลี แต่ไลน์บุฟเฟ่ต์เขาเกินมาตรฐานไปมาก กินพื้นที่ไปทั้งแถบแบบเต็มความยาวร้านไปเลย เอาแค่เดินเลือกดูสารพัดเนื้อหมูและเครื่องเคียงที่ละลานตาก็หมดไปหลายนาที และแค่เฉพาะกิมจิก็มีให้เลือกเพียบทั้งกิมจิผักกาดที่ฉันชอบมากเพราะไม่ได้มาเป็นแผ่นซอยเล็กๆ เน้นคีบใส่ปากสะดวกแบบทั่วไป แต่มาแบบเป็นใบใหญ่ๆ เต็มใบ เวลาจะกินก็เอาลงไปย่างพร้อมหมู โห้ยยย เกาหลีมั่ก! กิมจิแตงกวา กิมจิมะละกอ มีทั้งรสเปรี้ยวนำ เผ็ดนำ ให้เลือกกันตามชอบ
ไหนจะไชเท้าดอง ซุปกิมจิ บิบิมบับ คิมบับ จูม็อกบับ (ข้าวปั้นเกาหลีลูกกลมๆ ให้เราคลุกเคล้าแล้วปั้นเอง) ต๊อกบกกี (ต๊อกที่นี่อร่อยมาก แนะนำมาก) โอเด้ง รามยอนก็มี เก๋ไก๋ตรงเราสามารถต้มได้เองกับเครื่องต้มแบบเดียวกับที่เกาหลีเปี๊ยบ และจริงๆ แล้วรามยอนจะมาในถ้วยฟอยล์แบบเกาหลีเลยด้วย แต่ช่วงโควิดทำให้หาถ้วยฟอยล์ไม่ได้ เลยต้มใส่ถ้วยสแตนเลสแทน แต่ได้ฟีลและอร่อยเหมือนกัน
เครื่องเคียงเยอะมากจริงๆ แนะนำให้ไปเดินเลือกเอาได้ตามชอบ ผักสดก็สดส้ดดดดสด ผักกาดหอมพันธุ์เกาหลีแท้ ใบใหญ่ แข็ง กรอบ ไม่มีรสขมเลยสักนิด แครอท ฟักทอง หอมหัวใหญ่ พริก กระเทียม และมีใบงาด้วยจ้า แถมแกะมาให้แล้ว ไม่ต้องง้อแฟนมานั่งแยกใบงาให้นะเออ
ในส่วนของไลน์เนื้อ ก็มากมายชวนตาลายไม่แพ้กัน หมูสดชิ้นใหญ่ๆ เนื้อเน้นๆ หมูสไลด์แผ่นบางเฉียบ หมูหมักมีทั้งหมักซีอิ๊วสูตรลับเฉพาะของทางร้าน รสออกเค็มๆ หวานๆ หมักซอส และมีให้เลือกทั้งแบบสามชั้น สันคอ ไหนจะเบคอน เบคอนพันเห็ดเข็มทอง เบคอนพันต๊อก (อันนี้อร่อยมากกกกกแบบกอไก่ล้านตัว ต๊อกเขาแน่นหนึบแต่นุ่มกำลังดี ธิดาคาร์โบอย่างฉันเลิฟที่สุด) หนังหมูแผ่นหนาย่างแล้วกรึบสุดๆ ก็มี แต่ของดีของเด่นก็คือหมูดรายเอจ 360 ชั่วโมง ซึ่งคุณแนน-ผู้จัดการร้านบอกว่าจริงๆ แล้วเรียกว่าหมูเวทเอจจะถูกกว่า อีกอย่างที่ต้องว้าวคือไซซ์เนื้อหมูของที่นี่ ทั้งหมูธรรมดาและเวทเอจมาในชิ้นขนาดใหญ่กว่าร้านหมูย่างเกาหลีทั่วไปในไทย เรียกว่าชิ้นบึ้ม เนื้อหนาปึ้กแบบเดียวกับที่กินที่เกาหลียังไงยังงั้น คนกินน้อยอย่างฉันคีบมา 4 ชิ้นก็อิ่มแล้ว ><
ด้วยความที่หมูชิ้นใหญ่ ชิ้นหนา พอปิ้งย่างเสร็จ ตัดฉับๆๆๆ แยกส่วนออกมา มันเลยเป็นชิ้นเป็นอัน กินแล้วได้เนื้อได้หนัง เต็มปากเต็มคำ อันนี้เป็นความเริ่ดเช่นกัน เพราะร้านหมูย่างเกาหลีในไทยส่วนมากหั่นหมูมาให้อย่างบาง พอย่างเสร็จก็แทบจะไม่เหลืออะไร ตรงนี้เข้าใจว่ารสนิยมการกินของไทยกับเกาอาจจะไม่เหมือนกัน คนไทยเน้นชิมหลายอย่าง อย่างละนิดละหน่อย ก็เหมาะแล้วกับหมูชิ้นไม่ใหญ่จะได้ไม่อิ่มตั้งแต่ตักมาจานแรก แต่พอมาเจอหมูชิ้นบึ้ม เคี้ยวเต็มปากมันฟินมาก ยิ่งหมูเวทเอจ 360 ชั่วโมงคือชิ้นใหญ่จริงแต่นุ่มแบบนู้มมมมม เคี้ยวสบาย เคี้ยวเพลิน เคี้ยวสนุก ไม่เหนียว ไม่แข็ง ไม่ติดฟัน ย่างมาแบบฉ่ำๆ มันหยดติ๋งๆ คือดีงามจริง อ้อ นอกจากหมู กุ้งก็มีนะ หมึกก็มา
และแน่นอนว่าจะขาดเรื่องน้ำจิ้มไปไม่ได้ น้ำจิ้มซัมจังที่ดูเหมือนเบสิกแต่ไม่เบนาจา สูตรของที่นี่รสชาติจัดจ้านแต่กลมกล่อม เป็นรสชาติแบบไม่ซ้ำซัมจังร้านไหน ชอบมากกกกอีกเช่นกัน แล้วยังมีน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบเกาหลีรสชาติเปรี้ยวนำเผ็ดตาม แปลกดี แต่กินกับหมูย่างแล้วเข้ากันอยู่นะ และที่ชอบอีกตัวคือน้ำจิ้มน้ำมันงากับเกลือ อันนี้จิ้มแล้วได้ฟีลเบาๆ ไลท์ๆ เหมาะกับเป็นตัวเปิดก่อนขยับไปจิ้มตัวที่เข้มข้นกว่า
เชื่อว่ามาถึงตอนนี้ทั้งคนเขียนและคนอ่านน่าจะเหนื่อยพอกัน แต่ยังค่ะ ยังเหลือของหวาน ที่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์เลยทีเดียว เพราะหากินที่ร้านอื่นไม่ได้ (อีกแล้ว) มีตั้งแต่มันเชื่อม มันเนื้อแน่นเหนียวหนึบเชื่อมมาแบบฉ่ำๆ หวานหอม ไอศกรีมที่ไม่ใช่ไอศกรีมถังทั่วไป แต่คือไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ สานฝันคนอยากขายไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟด้วยการให้โยกคันไอศกรีมเอง แล้วไอศกรีมวานิลลา/ ช็อกโกแลต หรือจะวานิลลาผสมช็อกโกแลตก็จะไหลลงมาเป็นเกลียวสวยงาม แล้วยังมีพุงออปังหรือขนมปังปลาไส้คัสตาร์ดที่อร่อยจัดมากคุณขา แป้งเหนียวหนึบสู้ฟันกับไส้คัสตาร์ดหวานน้อยๆ มาแบบอุ่นๆ โอ้ยยย และสุดท้ายคือข้าวโพดชีสเสียบไม้ ข้าวโพดหวานๆ ผสานเนย คลุกผงชีสเค็มๆ อร่อยแบบขอเตือนเลยว่าอย่ากินคาวจนแน่นเกินไป เพราะของหวานทั้งสี่อย่างนี้คือต้องกิน ต้องกิน ต้องกินเท่านั้น ย้ำ!
และทั้งหมดนี้คือรวมอยู่ในราคา 399+ เท่านั้น ส่วนถ้าใครอยากกินเนื้อหรือสายแอลก็สามารถขยับไปที่ราคาสูงขึ้นไปได้ที่ 699+ และ 999+ ส่วนฉันนั้นแค่ 399+ ก็อิ่มแปล้ อร่อยมาก พุงกางไม่ไหวแล้วจ้า
KBBQ สุขุมวิท
พิกัด คอนโด 15 สุขุมวิท เรสซิเดนซ์ ชั้น 2 ซอยสุขุมวิท 13 (ใกล้ BTS นานา)
เปิด-ปิด 11.30-22.00 น. (ทุกวัน)
โทร 096 771 1000
FB https://www.facebook.com/KBBQSUKHUMVIT/
บทความเพิ่มเติม
‘Chimaek’ ทำไมคนเกาหลีต้องกินไก่ทอดกับเบียร์
ทำไมเกาหลีมีเครื่องเคียงเยอะแยะในมื้ออาหาร?
8 เส้นเกาหลีที่สายกินเส้นต้องลอง
ทำไมคนเกาหลีถึงดื่มเก่ง? เขาดื่มไปเพื่ออะไรกัน?
Contributor
Recommended Articles
Recommended Videos