เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

food story

ริมฝีปากปลอดพิษกับลิปสติกออร์แกนิก

Story by สุริวัสสา กล่อมเดช

ต่อกรกับภัยเงียบที่คืบคลานคุณผู้หญิงจากการกลืนกินลิปสติกขณะรับประทานอาหาร และเผลอเลียปากวันละนิดละหน่อย ด้วยลิปสติกออร์แกนิก สีสันเสริมความงามจากธรรมชาติ

7.3 วินาที คือพลังอำนาจของลิปสติกสีแดงที่ดึงดูดสายตาชายหนุ่มให้จับจ้องมายังเรียวปาก ด้วยสีแดงเป็นสีที่เซ็กซี่ มีเสน่ห์ เย้ายวน โดดเด่นแต่ก็ดูลึกลับอันตรายชวนให้ค้นหา คือผลการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์อธิบายไว้ตามหลักจิตวิทยา แม้แต่พระนางคลีโอพัตรา ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีที่งดงามสุดองค์หนึ่งของโลกก็คิดค้นสีทาปากด้วยการบดแมลงปีกแข็งสีแดงกับไข่มดให้ได้สีแดงดังปรารถนา กระนั้นสีทาปากเมื่อราว 6 พันปีก่อนนี้ก็ยังมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายจนทำให้เกิดการเจ็บป่วยล้มตายของหญิงสาวในยุคเมโสโปเตเมีย จนมีคำกล่าวเรียกว่า “จุมพิตมรณะ”

 

 

แม้วิวัฒนาการด้านความงามจะล้ำหน้าไปไกลจนผู้หญิงยุคใหม่ไม่ต้องเสี่ยงตายลองผิดลองถูกผสมสีทาปากด้วยตัวเอง แต่กับผลการตรวจสอบสารเจือปนในลิปสติกของ FDA สำนักงานคณะกรรมการแห่งอาหารและยา กลับพบสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายในลิปสติกจากทุกเฉดสีกว่า 400 แบบ มากสุดในสีแดง ครั้งมีการสุ่มตรวจเมื่อปี 2012 ซึ่งอาจหยิบยืมคำว่าจุมพิตมรณะมาใช้ได้เหมือนกัน

 

หนึ่งในนั้นคือ ‘สารตะกั่ว’ ที่ซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทางผิวหนัง ส่งผลเสียร้ายแรงต่อระบบประสาท เกิดการสะสมในตับ ปอด เข้าสู่กระแสเลือดเกิดอันตรายเฉียบพลัน เป็นอัมพาตไปจนถึงขั้นเสียชีวิต แม้สารตะกั่วที่พบในลิปสติกนั้นมีปริมาณน้อยจนไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายทันที แต่มีข้อถกเถียงถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการสะสมในระยะยาว เมื่อหลายคนทาลิปสติกทุกวัน เติมระหว่างวันอีกนับครั้งไม่ถ้วน สำหรับผู้หญิงลิปสติกจึงอาจเป็นภัยเงียบไม่แพ้การรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารตกค้าง เพราะนอกจากซึมเข้าสู่ผิวหนังโดยตรงเรายังกลืนกินลิปสติกขณะกินอาหาร ดื่มน้ำ กระทั่งเผลอเลียปากเอาลิปสติกเข้าไปมากถึง 24-87 มิลลิกรัมต่อวัน

 

 

ลิปสติกเคาน์เตอร์แบรนด์ดังก็เคยตรวจพบการปนเปื้อนสารตะกั่ว ยังไม่นับสินค้า copy brand ที่พ่วงสาร ‘ปรอท’ เพิ่มความคงทนให้สีลิปสติกแน่น ติดยาวนานเข้ามาด้วย หากได้รับเจ้าสารนี้เข้าไปในปริมาณมากก็อาจเกิดอันตรายเฉียบพลันต่อระบบทางเดินหายใจ ปวดท้องรุนแรง อาเจียน เป็นแผลบวมในปากและเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง คุณแม่ตั้งครรภ์จึงได้รับคำแนะนำจากคุณหมอให้ระวังการเลือกใช้เครื่องสำอางเป็นพิเศษ และงดทาลิปสติกไปก่อนเพื่อป้องกันสารพิษสู่ลูกน้อยในครรภ์

 

ลิปสติกออร์แกนิก

 

ลิปสติกนั้นทำมาจาก 3 ส่วนผสมหลักๆ อย่าง ‘แวกซ์’ ที่ช่วยให้ส่วนผสมของเหลวเกาะตัวกันเป็นแท่ง ‘น้ำมัน’ เพิ่มความชุ่มชื้น นุ่มลื่น และ ‘สีย้อม’ ที่เป็นหัวใจของความสวยความงาม ทั้งสามล้วนเป็นส่วนผสมที่หาได้จากธรรมชาติ แต่ในกระบวนการผลิตลิปสติกทั่วไปที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็มีการเพิ่มสารกันเสียกลุ่มพาราเบน เช่น เมทิลพาราเบน (Methylparaben), โพรพิลพาราเบน (Propylparaben) และ BHA สารกันหืนเพื่อช่วยยืดระยะเวลาการเก็บรักษาให้นานขึ้น

 

ลิปสติกออร์แกนิกที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติปราศจากสารเคมีเจือปน จึงเป็นอีกทางเลือกของผู้หญิงรักตัวกลัวอันตรายเลือกใช้ได้ หรือสาวที่ทาลิปสติกเป็นชีวิตจิตใจจะพักผิวริมฝีปากจากสารเคมีมาใช้ลิปสติกออร์แกนิกเป็นครั้งคราว เพื่อลดความเสี่ยงที่จะสะสมสารเคมีที่ทำให้เกิดโทษในระยะยาวได้เหมือนกัน ซึ่งปัจจุบันในไทยก็หาลิปสติกออร์แกนิกได้ไม่ยากนัก

 

 

pumi pure ลิปสติกออร์แกนิกสัญชาติไทยเป็นแบรนด์หนึ่งที่ใช้ส่วนผสมเนื้อลิปจากธรรมชาติ และใช้สีจากพืชสมุนไพร เช่น สีส้มจากแครอท สีแดงจากข้าวแดง นอกจากความปลอดภัยต่อผู้บริโภคยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วยการผลิตปลอกลิปสติกที่ทำจากพลาสติกชีวภาพย่อยสลายได้

 

 

Calantha Enchanting Organic Vegan เป็นลิปสติกเซมิแมทท์ให้สีแน่นแต่บางเบา ใช้สีสกัดจากพืช ผลไม้และดอกไม้ ผสมสารกันแดดจากธรรมชาติ ทั้ง UVA และ UVB (SPF15) นอกจากจะให้สีสวยปลอดภัยยังเน้นบำรุง เพิ่มความชุ่มชื้นและฟื้นฟูริมฝีปากที่แห้งเสียด้วยส่วนผสมจากเชียบัตเตอร์ และน้ำมันอัลมอนด์

 

ปิดท้ายที่ลิปบาล์ม Puffguin Organic สูตรอ่อนโยนเป็นพิเศษใช้ได้ทั้งเด็กวัยเยาว์และผู้ใหญ่ ปราศจากสารเคมีและน้ำหอม มีเชียร์บัตเตอร์ น้ำมันอัลมอนด์และน้ำมันมะพร้าวเป็นส่วนผสมมอบความชุ่มชื้นพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากPeppermint

 

 

Tips การใช้ลิปสติกให้ปลอดภัย

 

     

  • ไม่ใช้ลิปสติกปลอมเด็ดขาด ลิปสติกที่ไม่ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยอาจมีสารพิษปนเปื้อนอย่างตะกั่วที่ผู้ผลิตผสมเข้ามาเพื่อเพิ่มความแน่นติดทนของสีและลดต้นทุนการผลิต
  •  

  • อย่าใช้ลิปสติกหมดอายุ ลิปสติกหลังเปิดใช้งานแล้วจะมีอายุการใช้งานอยู่ได้ 1.5-2 ปี ขึ้นอยู่กับการเก็บรักษา และควรตัดใจโยนทิ้งทันทีเมื่อหมดอายุเพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงปฏิกิริยาทางเคมีในลิปสติก
  •  

  • เช็ดปากทุกครั้งก่อนเติมลิปสติก หากจะเติมสีปากหลังรับประทานอาหารควรเช็ดทำความสะอาดปากทุกครั้ง เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรียที่อาจติดไปกับลิปสติกและเจริญเติบโตต่อ เมื่อนำมาใช้อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในลำคอ เจ็บคอ ไอ โดยเฉพาะลิปสติกออร์แกนิกยิ่งต้องเช็ดทำความสะอาดปากทุกครั้ง เพราะอาจเสียง่ายเนื่องจากเป็นส่วนผสมธรรมชาติ และปราศจากสารกันเสีย
  •  

Share this content

Contributor

Tags:

อาหารออร์แกนิก

Recommended Articles

Food StoryLemon Farm ธุรกิจที่เชื่อในมนตราของอาหาร คนทำชีวิตดี คนกินมีความสุข
Lemon Farm ธุรกิจที่เชื่อในมนตราของอาหาร คนทำชีวิตดี คนกินมีความสุข

หัวใจในการขับเคลื่อนธุรกิจคือโอบอุ้มความอยู่รอดของผู้ผลิตอาหาร และสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค