เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
4-6 คน
Level
3
ปาท่องโก๋สูตรกรอบนอกนุ่มใน ไร้แอมโมเนีย แถมทำได้เองที่บ้านแค่หมักแป้งพักไว้ในตู้เย็นข้ามคืนค่อยๆให้แป้งฟูอย่างช้าๆ รุ่งขึ้นเอามาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ หนีบให้ติดกันเป็นคู่แล้วลงทอด กินอุ่นๆจิ้มกินกับสังขยา หรือนมข้นหวานเป็นอาหารเช้า
INGREDIENTS
น้ำอุ่น
165 กรัม
น้ำตาลทราย
10 กรัม
ยีสต์
3 กรัม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ ตราว่าว
250 กรัม
เกลือป่น
2 กรัม
ผงฟู
9 กรัม
นมสดชนิดจืด
50 กรัม
น้ำมันพืช
7 กรัม
น้ำมันพืชสำหรับทากล่อง แป้งสาลีอเนกประสงค์สำหรับโรยตอนขึ้นรูป
น้ำมันพืชสำหรับทอด
อุปกรณ์ พายยาง กล่องมีฝาปิด ผ้าสะอาดไว้คลุมแป้ง ที่ตัดแป้งหรือมีด ตะเกียบไม้สำหรับคีบ
METHOD
- ใส่น้ำอุ่นและน้ำตาลลงในถ้วยแก้ว คนให้น้ำตาลละลาย พอน้ำหายอุ่นแล้วโปรยยีสต์ลงไป คนให้เข้ากัน ตั้งทิ้งไว้ 10 นาทีจนยีสต์ฟู
- ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ เกลือป่น และผงฟู คนให้เข้ากัน เทน้ำยีสต์ลงในอ่างแป้ง ตามด้วยนมสด ผสมให้เข้ากัน พอเริ่มเข้ากันดีเป็นก้อน แล้วใส่น้ำมันพืช ใช้พายยางผสมให้เข้ากัน เทแป้งปาท่องโก๋ลงในกล่องแก้วที่ทาน้ำมันพืชบางๆ ปิดฝา พักไว้ 1 ชั่วโมงที่อุณหภูมิห้อง
- เมื่อครบพักแป้ง 1 ชั่วโมงให้ใช้พายยางตะลบแป้งซ้ายขวา บนล่างเข้าหาตรงกลาง แล้วพลิกกลับแป้งบนลงล่างอีกรอบ ปิดฝาเข้าตู้เย็นช่องธรรมดา 1 คืน หรือประมาณ 12-18 ชั่วโมงไม่เกินจากนี้ เพราะยิ่งทิ้งไว้นานรสหวานในปาท่องโก๋จะน้อยลง
- เมื่อต้องการจะทอดปาท่องโก๋ ให้นำแป้งปาท่องโก๋ออกจากตู้เย็นอย่างน้อย 10 นาที โรยแป้งสาลีอเนกประสงค์ให้ทั่วพื้นโต๊ะ ใช้พายยางแซะแป้งปาท่องโก๋ทั้งสี่ด้านให้ร่อนออกจากกล่อง คว่ำกล่องลงให้แป้งตกลงมาตามแรงโน้มถ่วง โรยแป้งสาลีทับให้ทั่วด้านบนแป้งปาท่องโก๋ ตัดแบ่งเป็นสองชิ้น ค่อยๆใช้สองมือประคองให้แป้งยืดออกให้ได้ความหนา 1 ซม. ใช้ที่ตัดแป้งตัดปาท่องโก๋ออกเป็นเส้นหนา 1-1.5 ซม. ใช้นิ้วจุ่มน้ำแตะตรงกลางชิ้นแป้งทุกอัน วางแป้งอีกชิ้นประกบกันโดยเอาด้านที่ทาน้ำชนกัน น้ำจะช่วยให้แป้งสองชิ้นติดกัน ใช้มือจับปาท่องโก๋ดึงยืดออกเล็กน้อย
- หย่อนปาท่องโก๋ลงทอดในน้ำมันไฟกลางค่อนอ่อน ถ้าไฟแรงด้านในจะไม่สุกในขณะที่ด้านนอกจะแห้งกรอบไป ระหว่างทอดใช้ตะเกียบหนีบย้ำตรงกลางให้ปาท่องโก๋เป็นทรงและติดกัน พอได้ที่แล้วคีบขึ้นพักบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน รับประทานปาท่องโก๋ร้อนๆจิ้มสังขยา
Gallery
Recommended Articles
ขนมเทียนบ้านเชฟน่าน เป็นอาหารสัญชาติไหนก็ยากจะบอกได้ แต่รูปลักษณ์คล้ายกับขนมเทียนไหว้เจ้าของชาวจีน เป็นรูปสามเหลี่ยมปีระมิด ใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นหลักมีผสมแป้งข้าวเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไส้ด้านในเป็นไส้คาว คือ หมูสับผัดกับกุ้งแห้ง เห็ดหูหนูดำ และต้นหอม กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ค่อนข้างซับซ้อน มีขั้นตอนในการทำมาก ดังนั้นจึงได้กินเมนูนี้ก็ในช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่มีวาระรวมญาติๆ มาล้อมวงช่วยกันปั้นขนมเทียน
อาหารว่างโบราณที่นับว่าหากินอยากอีกชนิดหนึ่งคือกระทงทอง นับวันจะยิ่งไม่ค่อยนิยมทำตามร้านอาหารเพราะต้องละเมียดในการทอดกระทงทีละชิ้น ทีละคำเพื่อใส่ไส้ อีกทั้งจะทอดทิ้งไว้ก็กลัวจะไม่อร่อย กระทงทองจึงเป็นอาหารที่นิยมทำกินเองที่บ้านหรือแจกจ่ายให้เพื่อนสนิทมิตรสหายรักเสียมากกว่า เมื่อได้แป้งกระทงทองที่กรอบบาง ไม่อมน้ำมันแล้ว ไส้กระทงทองก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ เช่น ไส้ยำส้มโอ ไส้เมี่ยงลาว ไส้ปู ไส้ซอสขาว
ขนมเทียนบ้านเชฟน่าน เป็นอาหารสัญชาติไหนก็ยากจะบอกได้ แต่รูปลักษณ์คล้ายกับขนมเทียนไหว้เจ้าของชาวจีน เป็นรูปสามเหลี่ยมปีระมิด ใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นหลักมีผสมแป้งข้าวเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไส้ด้านในเป็นไส้คาว คือ หมูสับผัดกับกุ้งแห้ง เห็ดหูหนูดำ และต้นหอม กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ค่อนข้างซับซ้อน มีขั้นตอนในการทำมาก ดังนั้นจึงได้กินเมนูนี้ก็ในช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่มีวาระรวมญาติๆ มาล้อมวงช่วยกันปั้นขนมเทียน
อาหารว่างโบราณที่นับว่าหากินอยากอีกชนิดหนึ่งคือกระทงทอง นับวันจะยิ่งไม่ค่อยนิยมทำตามร้านอาหารเพราะต้องละเมียดในการทอดกระทงทีละชิ้น ทีละคำเพื่อใส่ไส้ อีกทั้งจะทอดทิ้งไว้ก็กลัวจะไม่อร่อย กระทงทองจึงเป็นอาหารที่นิยมทำกินเองที่บ้านหรือแจกจ่ายให้เพื่อนสนิทมิตรสหายรักเสียมากกว่า เมื่อได้แป้งกระทงทองที่กรอบบาง ไม่อมน้ำมันแล้ว ไส้กระทงทองก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ เช่น ไส้ยำส้มโอ ไส้เมี่ยงลาว ไส้ปู ไส้ซอสขาว
ขนมเทียนบ้านเชฟน่าน เป็นอาหารสัญชาติไหนก็ยากจะบอกได้ แต่รูปลักษณ์คล้ายกับขนมเทียนไหว้เจ้าของชาวจีน เป็นรูปสามเหลี่ยมปีระมิด ใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นหลักมีผสมแป้งข้าวเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไส้ด้านในเป็นไส้คาว คือ หมูสับผัดกับกุ้งแห้ง เห็ดหูหนูดำ และต้นหอม กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ค่อนข้างซับซ้อน มีขั้นตอนในการทำมาก ดังนั้นจึงได้กินเมนูนี้ก็ในช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่มีวาระรวมญาติๆ มาล้อมวงช่วยกันปั้นขนมเทียน
อาหารว่างโบราณที่นับว่าหากินอยากอีกชนิดหนึ่งคือกระทงทอง นับวันจะยิ่งไม่ค่อยนิยมทำตามร้านอาหารเพราะต้องละเมียดในการทอดกระทงทีละชิ้น ทีละคำเพื่อใส่ไส้ อีกทั้งจะทอดทิ้งไว้ก็กลัวจะไม่อร่อย กระทงทองจึงเป็นอาหารที่นิยมทำกินเองที่บ้านหรือแจกจ่ายให้เพื่อนสนิทมิตรสหายรักเสียมากกว่า เมื่อได้แป้งกระทงทองที่กรอบบาง ไม่อมน้ำมันแล้ว ไส้กระทงทองก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ เช่น ไส้ยำส้มโอ ไส้เมี่ยงลาว ไส้ปู ไส้ซอสขาว
Recommended Videos