เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
30 ชิ้น
Level
3
กล้วยทอดโมเลน กล้วยทอดแบบอินโดนีเซียที่ใช้กล้วยพันธุ์อะไรก็ได้ขอให้สุกเหลืองหน่อยมาพันด้วยแป้ง เนื้อแป้งจะคล้ายกะหรี่ปั๊ป นำไปทอด จิ้มกินกับนมข้นหวานหรือกินเปล่าๆก็อร่อยเพราะใช้กล้วยที่สุกงอมพอดี รสจะหวานนุ่ม กินกับแป้งหุ้มด้านนอกเวลาทอดจะกรอบ จะใส่งาขาว-ดำลงในแป้งก็ได้เช่นกัน
INGREDIENTS
แป้งสาลีอเนกประสงค์
250 กรัม
แป้งข้าวโพด
20 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง
50 กรัม
เกลือป่น
1/2 ช้อนชา
เนยสดชนิดจืดละลาย
50 กรัม
น้ำเย็น
100 กรัม
กล้วยไข่
30 ลูก (1.5 หวี)
น้ำมันพืชสำหรับทอด
นมข้นหวานสำหรับจัดเสิร์ฟ
อุปกรณ์ ผ้าขาวบางสำหรับคลุมแป้ง ที่ตัดแป้งโดว์ ไม้คลึงแป้ง
METHOD
- ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ แป้งข้าวโพด น้ำตาลไอซิ่ง และเกลือป่นลงในอ่างผสม ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน แหวกเป็นเป็นหลุมตรงกลาง เทเนยละลายและน้ำเย็นใส่ ค่อยๆใช้มือผสมให้แป้งเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน รวบแป้งเป็นก้อน ห่อด้วยพลาสติกแรป พักไว้ในตู้เย็น 1 ชั่วโมง
- นำแป้งออกจากตู้เย็นแบ่งแป้งเป็นก้อนละ 15 กรัม จะได้ประมาณ 30 ก้อน เอาผ้าขาวบางคลุมแป้งไว้ไม่ให้แป้งแห้ง คลึงแป้งเป็นเส้นยาวประมาณ 5 นิ้ว ทำจนหมด พักไว้
- ระหว่างพักแป้งปอกเปลือกกล้วยไข่เตรียมไว้จนหมด นำแป้งที่คลึงไว้เป็นเส้นวางบนเขียงตามแนวยาว ใช้ไม้คลึงแป้งคลึงให้แบนลงและแป้งกว้างประมาณ 1 นิ้ว ใช้ที่ตัดแป้งโดว์ตัดขอบแป้งให้เรียบร้อย ลอกแป้งออกจากเขียง นำมาพันกับกล้วยไข่จนมิด ใช้น้ำแตะปลายแป้งเพื่อปิดแป้งให้สนิท ทำจนหมด
- ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลาง หย่อนกล้วยโมเลนลงทอดจนแป้งสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
- จัดเสิร์ฟกล้วยทอดโมเลนกับนมข้นหวาน
Gallery
Tags:
Recommended Articles
ปารีสเบรสต์ (Paris-Brest) ขนมรูปวงล้อ ที่มีที่มาที่ไปจากเป็นขนมที่ถูกทำขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงการแข่งขันจักรยานระหว่างเมืองปารีส – เมืองเบรสต์ รูปทรงขนมจึงเป็นเหมือนวงล้อและมีรูตรงกลางคล้ายล้อรถจักรยาน และยังได้ยินมาอีกว่าขนมชนิดนี้จะเสิร์ฟให้กับนักแข่งทุกคนที่เข้าเส้นชัย ซึ่งดังเดิมจะเป็นไส้อัลมอนด์พราลีน หรืออัลมอนด์คาราเมล แล้วนำไปปั่นให้เกิดเป็นเพลส จากนั้นก็นำไปผสมกับครีมคัสตาร์ด แล้วโรยด้วยอัลมอนด์เคลือบคาราเมลอีกรอบ แต่ในสูตรที่ให้นั้นไม่ต้องทำอัลมอนด์พราลีนให้ยุ่งยาก ทำครีมคัสตาร์ดช็อกโกแลตธรรมดา จากนั้นก็อบตัวแป้ง แปะทับด้านบนแป้งด้วยแครกเกอลีน และโรยด้วยอัลมอนด์ จากนั้นก็นำเข้าอบ พอแป้งอบสุกแล้วก็พาครึ่งตามตามแนวขวางให้เป็นสองซีก บีบไส้ครีมช็อกโกแลตที่ทำไว้ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
วุ้นส้มรสหวานอมเปรี้ยวเมื่อนำมาจับคู่กับนมสดรสหวานมัน ช่างเป็นรสชาติที่แสนเข้ากัน ตัววุ้นส้มนั้น ถ้าไม่อยากใช้น้ำส้มคั้นสดที่ต้องมายุ่งยากคั้นเอง ก็ใช้น้ำส้มชนิดกล่องได้ มีหลากหลายให้เลือก ทั้งน้ำส้มแมนดาริน สายน้ำผึ้ง ส้มเขียวหวานหรือส้มนาเวล นำมาผสมกับผงวุ้นแช่ไว้สัก 5 นาที เพื่อให้ผงวุ้นดูดน้ำเข้าไป ก่อนนำไปตั้งไฟ เพราะถ้าหากใส่ผงวุ้นแล้วนำไปตั้งไฟเลย ผงวุ้นจะละลายยาก อาจทำให้วุ้นที่เราทำออกมามีลักษณะเป็นเม็ดๆ ใช้ผงวุ้นที่สามารถหาซื้อได้ตามตลาดสดหรือซูเปอร์มาร์เก็ต ราคาไม่แพง หนึ่งถุงเก็บไว้ใช้หลายครั้ง นำน้ำส้มที่ผสมผงวุ้นไปต้ม ปรุงรสด้วยน้ำตาล ชิมรสให้ได้ตามใจชอบ จากนั้นเทใส่ถ้วยหรือเทใส่แก้วง่ายๆ นำนมสดมาเทใส่แก้ววุ้นส้มที่เซตตัวแล้ว จับไปแช่เย็นยิ่งอร่อย
เราใช้ดอกไม้สดทำคุกกี้ได้จริงๆ เพราะมีดอกไม้สดหลากหลายชนิดที่รับประทานได้ อย่างที่เห็นว่าดอกไม้อยู่ในจานอาหารไทยมาแต่ไหนแต่ไร เช่นเดียวกับในวัฒนธรรมอื่นทั่วโลก แต่ย้ำนะคะว่าดอกไม้บางชนิดเท่านั้นที่กินได้ เพื่อความปลอดภัย นอกจากจะตรวจสอบว่าดอกไม้นั้นกินได้จริงๆ หรือไม่ ก็ควรควรตรวจสอบแหล่งที่มาของดอกไม้ ถ้าจะให้ดีก็ใช้ดอกไม้ที่เราปลูกเองนี่แหละ เพราะมั่นใจได้ว่าไม่มีสารเคมี สำหรับคนไทยเลือกใช้ดอกไม้ที่คุ้นเคยในประเทศอย่างอัญชัน กุหลาบมอญ มะลิ เฟื่องฟ้า ดอกโสน ดอกขจร มาทำขนม โดยเคล็ดลับของการเตรียมดอกไม้กินได้คือ ควรเก็บดอกไม้ภายในวันที่จะใช้ และควรเก็บในตอนเช้าตรู่ เพราะดอกไม้ยังไม่ถูกรบกวนจากแสงอาทิตย์ หากยังไม่ใช้ทันที ให้นำไปใส่กล่องพลาสติกแล้วเก็บในตู้เย็นโดยไม่ต้องล้าง ไม่ควรเก็บนานเกิน 3 วัน เมื่อพร้อมใช้ให้นำไปล้างโดยการหย่อนลงในภาชนะใบเล็กทีละน้อย สะเด็ดน้ำ ผึ่งให้แห้งสนิท จากนั้นค่อยนำเป็นส่วนผสมในการประกอบอาหารหรือขนม
ปารีสเบรสต์ (Paris-Brest) ขนมรูปวงล้อ ที่มีที่มาที่ไปจากเป็นขนมที่ถูกทำขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงการแข่งขันจักรยานระหว่างเมืองปารีส – เมืองเบรสต์ รูปทรงขนมจึงเป็นเหมือนวงล้อและมีรูตรงกลางคล้ายล้อรถจักรยาน และยังได้ยินมาอีกว่าขนมชนิดนี้จะเสิร์ฟให้กับนักแข่งทุกคนที่เข้าเส้นชัย ซึ่งดังเดิมจะเป็นไส้อัลมอนด์พราลีน หรืออัลมอนด์คาราเมล แล้วนำไปปั่นให้เกิดเป็นเพลส จากนั้นก็นำไปผสมกับครีมคัสตาร์ด แล้วโรยด้วยอัลมอนด์เคลือบคาราเมลอีกรอบ แต่ในสูตรที่ให้นั้นไม่ต้องทำอัลมอนด์พราลีนให้ยุ่งยาก ทำครีมคัสตาร์ดช็อกโกแลตธรรมดา จากนั้นก็อบตัวแป้ง แปะทับด้านบนแป้งด้วยแครกเกอลีน และโรยด้วยอัลมอนด์ จากนั้นก็นำเข้าอบ พอแป้งอบสุกแล้วก็พาครึ่งตามตามแนวขวางให้เป็นสองซีก บีบไส้ครีมช็อกโกแลตที่ทำไว้ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
วุ้นส้มรสหวานอมเปรี้ยวเมื่อนำมาจับคู่กับนมสดรสหวานมัน ช่างเป็นรสชาติที่แสนเข้ากัน ตัววุ้นส้มนั้น ถ้าไม่อยากใช้น้ำส้มคั้นสดที่ต้องมายุ่งยากคั้นเอง ก็ใช้น้ำส้มชนิดกล่องได้ มีหลากหลายให้เลือก ทั้งน้ำส้มแมนดาริน สายน้ำผึ้ง ส้มเขียวหวานหรือส้มนาเวล นำมาผสมกับผงวุ้นแช่ไว้สัก 5 นาที เพื่อให้ผงวุ้นดูดน้ำเข้าไป ก่อนนำไปตั้งไฟ เพราะถ้าหากใส่ผงวุ้นแล้วนำไปตั้งไฟเลย ผงวุ้นจะละลายยาก อาจทำให้วุ้นที่เราทำออกมามีลักษณะเป็นเม็ดๆ ใช้ผงวุ้นที่สามารถหาซื้อได้ตามตลาดสดหรือซูเปอร์มาร์เก็ต ราคาไม่แพง หนึ่งถุงเก็บไว้ใช้หลายครั้ง นำน้ำส้มที่ผสมผงวุ้นไปต้ม ปรุงรสด้วยน้ำตาล ชิมรสให้ได้ตามใจชอบ จากนั้นเทใส่ถ้วยหรือเทใส่แก้วง่ายๆ นำนมสดมาเทใส่แก้ววุ้นส้มที่เซตตัวแล้ว จับไปแช่เย็นยิ่งอร่อย
เราใช้ดอกไม้สดทำคุกกี้ได้จริงๆ เพราะมีดอกไม้สดหลากหลายชนิดที่รับประทานได้ อย่างที่เห็นว่าดอกไม้อยู่ในจานอาหารไทยมาแต่ไหนแต่ไร เช่นเดียวกับในวัฒนธรรมอื่นทั่วโลก แต่ย้ำนะคะว่าดอกไม้บางชนิดเท่านั้นที่กินได้ เพื่อความปลอดภัย นอกจากจะตรวจสอบว่าดอกไม้นั้นกินได้จริงๆ หรือไม่ ก็ควรควรตรวจสอบแหล่งที่มาของดอกไม้ ถ้าจะให้ดีก็ใช้ดอกไม้ที่เราปลูกเองนี่แหละ เพราะมั่นใจได้ว่าไม่มีสารเคมี สำหรับคนไทยเลือกใช้ดอกไม้ที่คุ้นเคยในประเทศอย่างอัญชัน กุหลาบมอญ มะลิ เฟื่องฟ้า ดอกโสน ดอกขจร มาทำขนม โดยเคล็ดลับของการเตรียมดอกไม้กินได้คือ ควรเก็บดอกไม้ภายในวันที่จะใช้ และควรเก็บในตอนเช้าตรู่ เพราะดอกไม้ยังไม่ถูกรบกวนจากแสงอาทิตย์ หากยังไม่ใช้ทันที ให้นำไปใส่กล่องพลาสติกแล้วเก็บในตู้เย็นโดยไม่ต้องล้าง ไม่ควรเก็บนานเกิน 3 วัน เมื่อพร้อมใช้ให้นำไปล้างโดยการหย่อนลงในภาชนะใบเล็กทีละน้อย สะเด็ดน้ำ ผึ่งให้แห้งสนิท จากนั้นค่อยนำเป็นส่วนผสมในการประกอบอาหารหรือขนม
ปารีสเบรสต์ (Paris-Brest) ขนมรูปวงล้อ ที่มีที่มาที่ไปจากเป็นขนมที่ถูกทำขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงการแข่งขันจักรยานระหว่างเมืองปารีส – เมืองเบรสต์ รูปทรงขนมจึงเป็นเหมือนวงล้อและมีรูตรงกลางคล้ายล้อรถจักรยาน และยังได้ยินมาอีกว่าขนมชนิดนี้จะเสิร์ฟให้กับนักแข่งทุกคนที่เข้าเส้นชัย ซึ่งดังเดิมจะเป็นไส้อัลมอนด์พราลีน หรืออัลมอนด์คาราเมล แล้วนำไปปั่นให้เกิดเป็นเพลส จากนั้นก็นำไปผสมกับครีมคัสตาร์ด แล้วโรยด้วยอัลมอนด์เคลือบคาราเมลอีกรอบ แต่ในสูตรที่ให้นั้นไม่ต้องทำอัลมอนด์พราลีนให้ยุ่งยาก ทำครีมคัสตาร์ดช็อกโกแลตธรรมดา จากนั้นก็อบตัวแป้ง แปะทับด้านบนแป้งด้วยแครกเกอลีน และโรยด้วยอัลมอนด์ จากนั้นก็นำเข้าอบ พอแป้งอบสุกแล้วก็พาครึ่งตามตามแนวขวางให้เป็นสองซีก บีบไส้ครีมช็อกโกแลตที่ทำไว้ เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
วุ้นส้มรสหวานอมเปรี้ยวเมื่อนำมาจับคู่กับนมสดรสหวานมัน ช่างเป็นรสชาติที่แสนเข้ากัน ตัววุ้นส้มนั้น ถ้าไม่อยากใช้น้ำส้มคั้นสดที่ต้องมายุ่งยากคั้นเอง ก็ใช้น้ำส้มชนิดกล่องได้ มีหลากหลายให้เลือก ทั้งน้ำส้มแมนดาริน สายน้ำผึ้ง ส้มเขียวหวานหรือส้มนาเวล นำมาผสมกับผงวุ้นแช่ไว้สัก 5 นาที เพื่อให้ผงวุ้นดูดน้ำเข้าไป ก่อนนำไปตั้งไฟ เพราะถ้าหากใส่ผงวุ้นแล้วนำไปตั้งไฟเลย ผงวุ้นจะละลายยาก อาจทำให้วุ้นที่เราทำออกมามีลักษณะเป็นเม็ดๆ ใช้ผงวุ้นที่สามารถหาซื้อได้ตามตลาดสดหรือซูเปอร์มาร์เก็ต ราคาไม่แพง หนึ่งถุงเก็บไว้ใช้หลายครั้ง นำน้ำส้มที่ผสมผงวุ้นไปต้ม ปรุงรสด้วยน้ำตาล ชิมรสให้ได้ตามใจชอบ จากนั้นเทใส่ถ้วยหรือเทใส่แก้วง่ายๆ นำนมสดมาเทใส่แก้ววุ้นส้มที่เซตตัวแล้ว จับไปแช่เย็นยิ่งอร่อย
เราใช้ดอกไม้สดทำคุกกี้ได้จริงๆ เพราะมีดอกไม้สดหลากหลายชนิดที่รับประทานได้ อย่างที่เห็นว่าดอกไม้อยู่ในจานอาหารไทยมาแต่ไหนแต่ไร เช่นเดียวกับในวัฒนธรรมอื่นทั่วโลก แต่ย้ำนะคะว่าดอกไม้บางชนิดเท่านั้นที่กินได้ เพื่อความปลอดภัย นอกจากจะตรวจสอบว่าดอกไม้นั้นกินได้จริงๆ หรือไม่ ก็ควรควรตรวจสอบแหล่งที่มาของดอกไม้ ถ้าจะให้ดีก็ใช้ดอกไม้ที่เราปลูกเองนี่แหละ เพราะมั่นใจได้ว่าไม่มีสารเคมี สำหรับคนไทยเลือกใช้ดอกไม้ที่คุ้นเคยในประเทศอย่างอัญชัน กุหลาบมอญ มะลิ เฟื่องฟ้า ดอกโสน ดอกขจร มาทำขนม โดยเคล็ดลับของการเตรียมดอกไม้กินได้คือ ควรเก็บดอกไม้ภายในวันที่จะใช้ และควรเก็บในตอนเช้าตรู่ เพราะดอกไม้ยังไม่ถูกรบกวนจากแสงอาทิตย์ หากยังไม่ใช้ทันที ให้นำไปใส่กล่องพลาสติกแล้วเก็บในตู้เย็นโดยไม่ต้องล้าง ไม่ควรเก็บนานเกิน 3 วัน เมื่อพร้อมใช้ให้นำไปล้างโดยการหย่อนลงในภาชนะใบเล็กทีละน้อย สะเด็ดน้ำ ผึ่งให้แห้งสนิท จากนั้นค่อยนำเป็นส่วนผสมในการประกอบอาหารหรือขนม
Recommended Videos