เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
ปลาย่างนำมาโขลกให้ฟู คั่วในกระทะจนเหลืองหอม ใส่หอมเจียว น้ำตาล เกลือป่น คลุกให้เข้ากัน กินกับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวมูนแบบในสูตรนี้ก็ได้
INGREDIENTS
ข้าวเหนียวเขี้ยวงูแช่ขมิ้นโขลก 6 ชั่วโมง
500 กรัม
หัวกะทิ
1 ถ้วย
หางกะทิ
1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย
3 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร
1 ช้อนชา
ปลาช่อนแดดเดียว
250 กรัม
น้ำมันหมู
2 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงเจียว
1 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย
10 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร
2 ช้อนชา
หางกะทิ
2 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า
3 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร
2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย
1/2 ถ้วย
METHOD
1. เทข้าวเหนียวใส่ผ้าขาวบาง ใส่ลงในหวดทรงสูง ตั้งบนหม้อน้ำเดือดด้วยไฟกลาง นำข้าวเหนียวลงนึ่งประมาณ 25 นาที หรือจนสุก
2. ทำกะทิสำหรับมูนโดยผสมหัวกะทิ หางกะทิ น้ำตาล และเกลือ ตั้งไฟกลางพอุ่น และน้ำตาลละลาย ยกข้าวเหนียวที่นึ่งขณะร้อนๆเทใส่กะละมัง เทกะทิที่ตั้งไฟ คนให้เขากัน ปิดฝาครอบ พักไว้นาน 30 นาที หรือจนข้าวเหนียวดูดกะทิจนแห้ง ใช้พายไม้คนให้เข้ากัน ปิดฝาไว้
3. ย่างปลาช่อนบนเตาถ่านด้วยไฟอ่อนจนสุกแห้ง แกะเนื้อนำมาโขลกให้ละเอียด ใส่ลงในกระทะ คั่วให้เหลืองหอม ใส่น้ำมันหมู คั่วจนกรอบ ใส่หอมแดงเจียว น้ำตาล และเกลือ คั่วพอทั่ว ชิมรสให้หวานและเค็ม
4. ทำกะทิสำหรับหยอดหน้าโดยผสมหางกะทิ แป้งข้าวเจ้า เกลือ และน้ำตาล ตั้งไฟคนพอเดือดและข้น
5. ตักข้าวเหนียวมูนใส่จานหรือกระทงใบเตย หยอดหน้าด้วยกะทิ ใส่หน้าปลาแห้ง เสิร์ฟ
Tags:
กะทิ, ขนมไทย, ข้าวเหนียวมูน, น้ำตาลทราย, นึ่ง, ปลาช่อนเเดดเดียว, ปลาแห้ง, หอมแดงเจียว, อาหารว่างไทย, อาหารไทย
Recommended Articles
ข้าวคลุกปูเป็นอาหารที่แสนจะธรรมดา แต่ทุกครั้งที่ขึ้นโต๊ะ ทุกคนจะรุมตักรุมกิน ทำเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ สำคัญที่สุดก็คือวัตถุดิบ ตั้งแต่ข้าวสวยหอมมะลิใหม่ ปูสดนึ่งใหม่ๆแกะเนื้อกันตรงนั้น ปรุงรสเล็กน้อยด้วยน้ำปลาหอมๆอย่างดี แล้วก็ตัดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด เป็นอาหารง่ายๆที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ
เมนูนี้เป็นหนึ่งใน comfort foods ของบ้านเชฟน่านเลยก็ว่าได้ คอหมูเเท้ย่างหอมๆ เคล้าด้วยข้าวคั่วอย่างจุใจ ให้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเจ้าแบบเวียดนามกับผักหอมนานาชนิด จิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เติมความมันด้วยถั่ว อร่อยมากๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพประจำบ้านเชฟน่านเลย
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
ขนมปลากริมไข่เต่าเดิมเรียกว่า ขนมแชงมา หรือ แฉ่งม้า หรือคำที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า ขนมสองหม้อ จากลักษณะตัวขนมที่แยกออกเป็น 2 หม้อ 2 สี ปลากริมหม้อหวาน ไข่เต่าหม้อเค็ม ตัวปลากริมหรือ ‘ตัวหวาน’ ลักษณะเป็นเส้นยาวๆ ตรงกลางอ้วน หัวท้ายเรียวคล้ายเส้นลอดช่อง ตัวสีน้ำตาลรสหอมหวานจากน้ำตาลมะพร้าว ส่วนไข่เต่าหรือ ‘ตัวเค็ม’ ลักษณะกลมรี คล้ายไข่เต่า สีขาว รสชาติเค็มๆ มันๆ จากหัวกะทิ ส่วนเวลากินก็อยู่ที่ว่าใครชอบกินฝั่งไหนมากกว่า แต่แนะนำให้กินพร้อมกันจะอร่อยที่สุด ตักใส่ถ้วยอย่างละครึ่ง คนให้เข้ากัน หนึ่งคำได้ครบทุกรสทั้งหอม หวาน มัน เค็มกลมกล่อมลงตัวพอดี
ข้าวคลุกปูเป็นอาหารที่แสนจะธรรมดา แต่ทุกครั้งที่ขึ้นโต๊ะ ทุกคนจะรุมตักรุมกิน ทำเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ สำคัญที่สุดก็คือวัตถุดิบ ตั้งแต่ข้าวสวยหอมมะลิใหม่ ปูสดนึ่งใหม่ๆแกะเนื้อกันตรงนั้น ปรุงรสเล็กน้อยด้วยน้ำปลาหอมๆอย่างดี แล้วก็ตัดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด เป็นอาหารง่ายๆที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ
เมนูนี้เป็นหนึ่งใน comfort foods ของบ้านเชฟน่านเลยก็ว่าได้ คอหมูเเท้ย่างหอมๆ เคล้าด้วยข้าวคั่วอย่างจุใจ ให้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเจ้าแบบเวียดนามกับผักหอมนานาชนิด จิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เติมความมันด้วยถั่ว อร่อยมากๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพประจำบ้านเชฟน่านเลย
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
ขนมปลากริมไข่เต่าเดิมเรียกว่า ขนมแชงมา หรือ แฉ่งม้า หรือคำที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า ขนมสองหม้อ จากลักษณะตัวขนมที่แยกออกเป็น 2 หม้อ 2 สี ปลากริมหม้อหวาน ไข่เต่าหม้อเค็ม ตัวปลากริมหรือ ‘ตัวหวาน’ ลักษณะเป็นเส้นยาวๆ ตรงกลางอ้วน หัวท้ายเรียวคล้ายเส้นลอดช่อง ตัวสีน้ำตาลรสหอมหวานจากน้ำตาลมะพร้าว ส่วนไข่เต่าหรือ ‘ตัวเค็ม’ ลักษณะกลมรี คล้ายไข่เต่า สีขาว รสชาติเค็มๆ มันๆ จากหัวกะทิ ส่วนเวลากินก็อยู่ที่ว่าใครชอบกินฝั่งไหนมากกว่า แต่แนะนำให้กินพร้อมกันจะอร่อยที่สุด ตักใส่ถ้วยอย่างละครึ่ง คนให้เข้ากัน หนึ่งคำได้ครบทุกรสทั้งหอม หวาน มัน เค็มกลมกล่อมลงตัวพอดี
ข้าวคลุกปูเป็นอาหารที่แสนจะธรรมดา แต่ทุกครั้งที่ขึ้นโต๊ะ ทุกคนจะรุมตักรุมกิน ทำเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ สำคัญที่สุดก็คือวัตถุดิบ ตั้งแต่ข้าวสวยหอมมะลิใหม่ ปูสดนึ่งใหม่ๆแกะเนื้อกันตรงนั้น ปรุงรสเล็กน้อยด้วยน้ำปลาหอมๆอย่างดี แล้วก็ตัดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด เป็นอาหารง่ายๆที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ
เมนูนี้เป็นหนึ่งใน comfort foods ของบ้านเชฟน่านเลยก็ว่าได้ คอหมูเเท้ย่างหอมๆ เคล้าด้วยข้าวคั่วอย่างจุใจ ให้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเจ้าแบบเวียดนามกับผักหอมนานาชนิด จิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เติมความมันด้วยถั่ว อร่อยมากๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพประจำบ้านเชฟน่านเลย
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
ขนมปลากริมไข่เต่าเดิมเรียกว่า ขนมแชงมา หรือ แฉ่งม้า หรือคำที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า ขนมสองหม้อ จากลักษณะตัวขนมที่แยกออกเป็น 2 หม้อ 2 สี ปลากริมหม้อหวาน ไข่เต่าหม้อเค็ม ตัวปลากริมหรือ ‘ตัวหวาน’ ลักษณะเป็นเส้นยาวๆ ตรงกลางอ้วน หัวท้ายเรียวคล้ายเส้นลอดช่อง ตัวสีน้ำตาลรสหอมหวานจากน้ำตาลมะพร้าว ส่วนไข่เต่าหรือ ‘ตัวเค็ม’ ลักษณะกลมรี คล้ายไข่เต่า สีขาว รสชาติเค็มๆ มันๆ จากหัวกะทิ ส่วนเวลากินก็อยู่ที่ว่าใครชอบกินฝั่งไหนมากกว่า แต่แนะนำให้กินพร้อมกันจะอร่อยที่สุด ตักใส่ถ้วยอย่างละครึ่ง คนให้เข้ากัน หนึ่งคำได้ครบทุกรสทั้งหอม หวาน มัน เค็มกลมกล่อมลงตัวพอดี
Recommended Videos