เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

food story

กาแฟดำสุดที่ปิ๊ง

Story by นัดดา ศรีทองดี

ทำความรู้จักกับเสน่ห์ของกาแฟดำที่ปราศจากสิ่งปรุงรสอื่น ๆ ผ่านมุมมองของแม่บ้านผู้รักกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ

หลังจากที่ฉันพบว่าตัวเองสามารถดื่มกาแฟดำที่ชงด้วยกรรมวิธีเทน้ำร้อนแล้วกรองผ่านกระดาษ กาแฟก็พาฉันออกเดินทางเลยค่ะ สายตาของฉันจะมองหาร้านกาแฟที่มีเมนูกาแฟประเภท Drip, Pour over, filter เสมอ แต่ฉันไม่ได้เป็น café hopper หรอกนะคะ เพราะทุกวันฉันจะดื่มกาแฟแค่วันละ 1-2 แก้วเท่านั้น และมักจะลืมถ่ายรูปเป็นประจำเลยค่ะ อีกอย่างคือฉันมีลูกชายสองคน เขาคงจะไม่สนุกแน่ถ้าฉันเอาแต่พาเขาย้ายร้านกาแฟนั่งไปเรื่อยๆ ทั้งวัน

 

ช่วงเวลากาแฟของฉันคือ 10 โมงเช้าหลังจากพาลูกๆ อาบน้ำ ทานอาหารเช้า ไปโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว กับบ่าย 3 ก่อนอาหารเย็น และก่อนไปรับลูกกลับจากโรงเรียนค่ะ ช่วงเวลาที่เปิดร้านคือช่วงทดลองสูตรต่างๆ ชิมกาแฟและชงกาแฟให้ลูกค้า แต่การนั่งดื่มสบายๆ ค่อยชิมไปทุกอุณหภูมิ ตั้งแต่ร้อน จนอุ่น จนเย็น คือความเพลินใจในการใช้ชีวิตคู่กับกาแฟของฉัน ที่ครอบครัวของฉันจะยกช่วงเวลาพิเศษนี้ให้กับฉันวันละ 1 แก้วทุกวันค่ะ

 

 

 

แรกเริ่มฉันไม่ได้หมกหมุ่นอยู่กับการชงอย่างเดียว ฉันหมกหมุ่นอยู่กับการชิมมากกว่า เหมือนกับเวลาที่เราปิ๊งใครสักคน มันจะมีความรู้สึกพิเศษบางอย่างที่รบกวนจิตใจ แบบจู่ๆ ความสนใจทั้งหมดของเราก็ถูกดึงไปที่เขาทันทีที่เราเห็น หรือได้ยินเรื่องของเขา ความสัมพันธ์ของฉันกับกาแฟดำเริ่มต้นแบบนั้นค่ะ

 

ฉันดื่มกาแฟดำร้อนอย่างเดียวมาสองปีแล้ว ถ้าร้านไหนที่ฉันไปแล้วไม่มีดริป ฉันถึงจะดื่มกาแฟนมร้อนค่ะ แต่ฉันไม่ชอบดื่มกาแฟเย็น แม้ว่าวันนั้นอากาศจะร้อนแค่ไหนก็ตาม เพราะฉันอยากชิมรสชาติของกาแฟที่ไม่มีน้ำแข็ง การที่มีน้ำแข็งค่อยๆ ละลายไปเรื่อยๆ ในแก้วนั้น ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกจับเวลา ช่วงเวลาเพลินใจของฉันจะสั้นลงไปอย่างน่าเสียดาย เพราะยามที่ฉันค่อยจิบไปเรื่อย ถึงฉันจะไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย แต่ฉันกำลังคุยกับกาแฟอยู่น่ะค่ะ อาจจะฟังดูเพี้ยนๆ แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

 

 

 

ฉันชอบที่จะนั่งดื่มเงียบๆ จริงๆจะคุยกับทุกคนไปด้วยก็ได้ แต่ส่วนใหญ่ฉันจะไม่ได้คุยเกี่ยวกับกาแฟในแก้วที่ดื่มอยู่ ยกเว้นมีคนถาม ฉันก็จะบอกว่ารอแป๊บนึง ฉันไม่สามารถที่จะบอกได้ตั้งแต่จิบแรกว่ากาแฟแก้วนี้อร่อยรึเปล่าน่ะค่ะ เพราะว่ารสชาติของกาแฟที่ถูกเสิร์ฟมาใหม่ๆ มักจะไม่ค่อยมีรสที่ชัดเจน มันจะร้อนจนลิ้นชา ได้แต่กลิ่น รสขม และบอดี้ที่เหมือนน้ำ เริ่มดมกลิ่นก่อน หลังจากนั้นฉันจะเป่าเบาๆ แล้วจิบในขณะที่ร้อนนั้นแค่จิบเดียว แล้วก็ทิ้งมันไว้สักครู่ หันไปขอบคุณคนที่ชงให้ ทักทายคนรอบๆ ตัว มือขวาถือแก้วไว้ ในขณะที่ผิวหนังอ่อนๆ ตรงข้อมือซ้ายของฉันจะถูกใช้เป็นเทอร์โมมิเตอร์ในการวัดอุณหภูมิจากข้างแก้ว ว่าอุ่นพอสำหรับจิบต่อไปหรือยัง

 

ฉันเคยวัดอุณหภูมิกาแฟที่อร่อยที่สุดทุกแก้วที่ตัวเองชงแล้วจดบันทึกไว้ ตามสถิติของฉันตัวเลขมันคือ 60-65c ค่ะ แต่ไปข้างนอกไม่เคยวัดนะ มันจะเป็นการเอิกเกริกเกินเหตุน่ะค่ะ ฉันก็เลยใช้ข้อมือของฉันแอบวัดไปเรื่อยๆ พออุ่นได้ที่ ฉันจะดื่มหลายจิบหน่อย ช่วงนี้จะได้รสผลไม้ ดอกไม้ มาเต็มไปหมด ยิ่งถ้ามีรสทิ้งค้างในคอหวานๆ นานๆ เหมือนยามที่เราอมบ๊วยเค็ม แล้วพอกลืนหมดน้ำลายจะหวาน นี่ยิ่งเพลิน ช่วงนั้นจะไม่พูดกับใครเลยค่ะ จิบไปยิ้มไปคนเดียวจนถึงครึ่งค่อนแก้วใกล้หมด ฉันถึงจะวางมันไว้อีกรอบ ฉันรอให้มันเย็น พอถึงตอนนี้สำหรับฉันมันคือการพิสูจน์คุณภาพเมล็ด ว่าเมล็ดตัวนี้อร่อยทุกอุณหภูมิไหม นี่เป็นส่วนหนึ่งของการเลือกเมล็ดกาแฟมาชงที่ร้านของฉันด้วยค่ะ

 

 

ถ้าเมล็ดไหนที่ชงมาแล้วอร่อยทุกอุณหภูมิ ฉันจะเลือกตัวนั้นมา ถ้าตัวไหนที่เริ่มต้นมาเปรี้ยวมาก ยิ่งเย็นก็มักจะเปรี้ยวขึ้นไปอีก แบบนี้ฉันมักจะแนะนำลูกค้าให้เป็นกาแฟเย็น เพราะความเปรี้ยวพอรวมกับความเย็นแล้วมันจะสดชื่น  ส่วนเมล็ดที่เลือกมาดื่มเป็นกาแฟร้อน ชงร้อน ฉันชอบเมล็ดที่เริ่มต้นด้วยความหวาน ซึ่งรสจะออกช้าหน่อย ต้องรออุณหภูมิที่พอดี แล้วพออุณหภูทิต่ำลงถึงจะค่อยๆ เผยรสอมเปรี้ยวมา จนถึงเย็นที่สุดแล้วยังอร่อยดี นั่นก็คือเมล็ดที่ดีสำหรับฉัน น่าชง น่าชิม ถ้าชิมแล้วเจอ ถ้าเขาขายเมล็ด แน่นอนว่าเมล็ดนั้นฉันจะเลือกเข้ามาอยู่ในร้านค่ะ

 

 

ฉันว่าการดื่มกาแฟดำมันสนุกตรงนี้แหละ ตรงประสบการณ์ที่เราได้รับจากแต่ละแก้ว กระบวนการดื่มของฉันทั้งหมดที่เล่ามา ระยะเวลาปฏิบัติมันจบภายใน 5 นาทีค่ะ คุณลองทำอะไรที่เป็น 5 นาทีที่มีความสุขจริงๆ คุณจะพบว่ามันเป็น 5 นาทีที่ทำให้หัวใจแข็งแรง ไม่ใช่เพราะกาแฟนะคะ เป็นเพราะคุณได้ใช้ชีวิตเพลินไปกับสิ่งที่รักและมีความสุข แม้มันจะแค่ชั่วเวลากาแฟอุ่นแก้วเดียว ก็ถือเป็นเรื่องที่ทำให้การมีชีวิตอยู่นั้นมีความหมาย ถ้าถามว่า.. หากกาแฟที่ดื่มแก้วเดียววันนั้นไม่อร่อยล่ะ ฮ่าๆๆ แน่นอนค่ะว่าต้องเซ็ง กาแฟที่ไม่อร่อย มักจะมีปัจจัยอยู่แค่ 2 อย่างค่ะ คือเมล็ดไม่ดี กับ ชงไม่อร่อย ถ้าเป็นเพราะเมล็ดคุณภาพไม่ดี อันนี้สามารถระมัดระวังได้จากการขอดูเมล็ดก่อน ขอดมก่อน แต่ไม่ต้องถึงกับขอเอาเมล็ดคั่วมาเคี้ยวดูก่อนนะคะ อันนั้นจะสร้างความกดดันให้ทางร้านเขาเปล่าๆ ฮ่าๆๆ ที่สำคัญถ้ามันติดฟันละก็ ถึงจะเมล็ดดีก็กินอะไรไม่อร่อยแล้วล่ะค่ะ เมล็ดกาแฟที่เก่า มันก็เหมือนอาหารเก่าทั่วไปที่จะมีกลิ่นไม่น่าอภิรมย์ แต่บางที ย้ำว่าบางทีฉันก็เคยเจอเมล็ดกาแฟเก่าที่รสชาติยังดีอยู่เหมือนกันนะคะ และก็มีหลายที ที่กลิ่นหอมฟุ้งตอนดมนั้นตรงกันข้ามกับรสชาติ

 

 

ตรงจุดนี้ทำให้การดื่มกาแฟทุกแก้วเป็นเรื่องตื่นเต้น บางคนอาจจะบอกว่านี่คือการมองในแง่บวกเกินไป ทำไมไม่มองในแง่ของการเสียเวลาหรือเสียเงิน ขอกล่าวด้วยความสัตย์จริงเลยว่า ฉันไม่เคยมองประสบการณ์ชีวิตสักเรื่อง เป็นเรื่องเสียเวลา หรือเสียเงิน กาแฟทุกแก้วคือประสบการณ์เล็กๆ ประจำวันที่ฉันซื้อเพื่อเรียนรู้ แบบนี้ไม่ได้ก็ได้รู้ว่ามันไม่ดี เราไม่ชอบ ถ้าเจออันไหนดี ก็ได้รู้ว่าเราชอบแบบนี้ เราก็จะจดจำ เรื่องความไม่แน่นอนของรสชาติมันคือเรื่องธรรมดาของโลกที่เราเจอในทุกอย่างไม่ใช่เฉพาะในกาแฟ กาแฟที่อร่อยบ้าง ไม่อร่อยบ้าง แต่ละวันมันจะคอยเตือนให้เรายอมรับความจริงที่ว่าไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ทุกสิ่งไม่มีอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ว่าวันนี้ร้านนี้อร่อย ชอบ อีกวันหนึ่งไม่อร่อย ไม่ชอบแล้ว สำหรับฉันนะคะ การดื่มกาแฟดำทุกวัน  มีส่วนช่วยฝึกให้ตัวเองใจกว้างขึ้น และไม่ตัดสินอะไรให้ใครเสียใจ ให้โอกาส ยอมรับและแบ่งปัน

 

 

ถ้าคุณเลือกดื่มกาแฟ ก็เหมือนคุณเลือกคบเพื่อน ถ้าคนที่ชงเป็นคนที่มีความรู้ดี เขาจะแนะนำสิ่งที่ดีให้กับเรา ถ้าเขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์ เขาจะบอกความจริงกับเราค่ะ มีบางร้านที่ฉันรักการนั่งดื่มที่นั่นมาก ไม่ใช่เพราะกาแฟรสชาติเยี่ยมยอดที่สุดในปฐพี แต่เพราะรสชาติของบรรยากาศในนั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น ถ้าร้านนั้นมีเจ้าของร้านที่น่ารัก ทุกคนในร้านเป็นมิตร กาแฟก็เป็นเครื่องดื่มที่ให้ความอบอุ่นได้แม้ว่าคุณจะดื่มกาแฟใส่น้ำแข็งเย็นๆ ก็ตาม

Share this content

Contributor

Tags:

กาแฟ, เครื่องดื่ม

Recommended Articles

Food Storyแจกสูตร สาโททำง่าย หมัก 12 วันพร้อมชนแก้ว
แจกสูตร สาโททำง่าย หมัก 12 วันพร้อมชนแก้ว

วิธีทำสาโท หรือน้ำขาว น้ำหมักจากข้าวแบบไทยๆ สูตรพื้นฐานสุดๆ

 

Recommended Videos