เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

food story

‘อาหารบ้านฉัน’ by ทีม KRUA.CO

Story by ทีมบรรณาธิการ

อีเวนต์พิเศษ นำสาวงามสมาชิกทีม KRUA.CO มาเปิดเตา เข้าครัวลงมือทำเมนู ‘อาหารบ้านฉัน’ที่กินกันมาแต่เล็กแต่น้อย ทำไปคุยไป รำลึกความหลัง เสร็จแล้วก็ล้อมวงแบ่งกันชิม

นัยยะแฝง หรืออันที่จริงเราอยากจะบอกว่าเป็นสาระสำคัญของ ‘การทำอาหารกินเอง’ ด้วยซ้ำไป คือมันก่อให้เกิดเมนูพิเศษ เกิดรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงความทรงจำของคำว่า ‘บ้าน’ ที่เมื่อเราโตขึ้น แยกห่างจากครอบครัวไปมีชีวิตของตัวเอง ทำให้ห่างหายบรรยากาศความอบอุ่นของการรับประทานอาหารพร้อมหน้าพ่อแม่ พี่น้อง ปู่ย่าตายาย แต่เมื่อไรที่ย้อนคิดถึงเมนูคุ้นปากคุ้นลิ้นมาตั้งแต่เด็ก ภาพความทรงจำจะย้อนกลับมาชัดเจน

 

 

วันนี้เลยส่งตัวแทนทีม KRUA.CO มาแชร์เมนู ‘อาหารบ้านฉัน’ ที่แต่ละคนคุ้นชินกันมาตั้งแต่เด็ก จัดเป็นอีเวนต์ให้ได้เปิดเตาใครเตามันแล้วลงมือไปพร้อมๆ กันอย่างสนุกสนาน เสร็จแล้วก็ล้อมวงแลกกันกินอย่างเอร็ดอร่อย สมาชิกของเรามีความเก๋ไก๋อินเตอร์มากทีเดียว อาหารไทยก็มี ขนมฝรั่งก็มา อาหารมุสลิม ชาอินเดีย สารพัดจะเลือก

 

 

ดูภาพ อ่านเรื่อง แล้วหวังว่าจะทำให้ทุกคนคิดถึง ‘อาหารบ้านฉัน’ ของใครของมันขึ้นมาแล้วเข้าครัวหยิบอุปกรณ์ทำอาหารแห่งความทรงจำที่นานแค่ไหนก็อยู่ในหัวใจของเราเสมอกันบ้าง หรือถ้าอยากลองรสชาติอาหารตามแบบฉบับบ้านของ 5 สาวในบทความนี้ก็ทำตามได้ ไม่ยากเลยค่ะ

 

 

 

มาซาล่าจาย (Masala Chai Tea)

 

ครอบครัวเราถ้าได้กินข้าวกันพร้อมหน้า หลังมื้ออาหารจะต้องมีพิธีกรรมนั่งกินชาด้วยกัน คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ระหว่างจิบชาไปด้วย ถ้าวันไหนมีขนมเค้กของหวาน ก็มักจะกินชาเขียว ชาข้าว ที่ออกใสๆ และขมหน่อยตัดรสชาติ แต่บ้านเราไม่ได้มีขนมหวานกินทุกวันค่ะ นานน้านที่จะมี ตามโอกาสวันเกิด ดังนั้น ชาอีกอย่างที่กลายเป็นเครื่อมดื่มปิดมื้ออาหารเป็นประจำก็เลยเป็นชานม แต่ด้วยความที่พ่อเป็นคนคลั่งไคล้อาหารและวัฒนธรรมอินเดียมาก ชานมของที่บ้านจึงไม่ธรรมดา เป็นชา ‘มาซาล่าจาย’ แบบอินเดีย ที่หอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นคาร์ดามอมกับขิงแก่ และคนชงต้องเป็นพ่อทุกครั้ง เวลาลูกอยากกินชาก็จะร้องเรียก “พ่อชงชาให้หน่อย” เสมอไป

 

 

พอได้รับโจทย์จาก KRUA.CO ให้ทำอาหารของที่บ้านมาอวดกัน ก็เลยไปสะกิดพ่อให้ช่วยสอนหน่อย พ่อตั้งใจถ่ายทอดวิชาเต็มที่ แกคงนึกเซอร์ไพรส์ที่ลูกสาวลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนี้ได้ และแน่นอนมันไม่ยากสักนิดเลยค่ะ

 

 

แค่ทุบเม็ดคาร์ดามอมให้แหลก แกะเอาเปลือกแห้งๆ ทิ้งไป ทุบขิงแก่ให้กลิ่นออก แล้วเอาเครื่องเทศทั้งสองอย่างไปต้มในน้ำเปล่า ใช้ไฟอ่อนๆ เพื่อให้เครื่องเทศกลิ่นออก พอน้ำเดือดก็ใส่นม ใส่น้ำตาลอ้อยทรายแดง รอให้เดือดอีก แล้วก็ใส่ชาดำแบบอินเดีย คนชาจนสีของชาออก และรอให้เดือดน้อยๆ อีกครั้ง แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จแล้วค่ะ จากนั้นก็เชิญนั่งจิบชาและอัปเดตชีวิตกันไปภายในครอบครัวได้เลย

 

วรรณแวว หงษ์วิวัฒน์

 

บรรณาธิการบริหาร

 

ซี่โครงหมูตุ๋น

 

มีเรื่องหนึ่งของคนในบ้านที่มีกันอยู่แค่ 3 คน ต้องถกเถียงกันอยู่บ่อยๆ คือ “ทำอะไรกินกันดี?” เพราะเรา 3 คนกินน้อยมาก อาหารที่ทำไว้จึงเหลือเยอะ จะเก็บไว้กินก็ไม่อร่อย จะทิ้งก็เสียดาย แต่โชคดีที่มีสูตรอาหารของคุณย่ามาช่วยไว้ เพราะคุณย่ามีลูกเยอะถึง 7 คน อาหารที่ทำเตรียมไว้ให้ในปริมาณมาก เมื่อเดินทางมาถึงก้นหม้อ ลูกๆ ต่างก็เกี่ยงกันด้วยเหตุผลว่าอาหารไม่น่ากินแล้ว คุณย่าจึงต้องแก้ปัญหาด้วยการทำอาหารที่ยิ่งใกล้ก้นหม้อยิ่งอร่อย อย่างไข่พะโล้ ต้มจับฉ่าย รวมถึงซี่โครงหมูตุ๋น ที่แม้จะต้องกินนานหลายวัน แต่ก็ไม่เคยเบื่อเลย

 

 

‘ซี่โครงหมูตุ๋น’ จานนี้ คุณแม่ได้แอบเอาสูตรของคุณย่ามาประยุกต์ตามความชอบของคุณตา ด้วยการใส่ถั่วลิสงคั่วผ่าซีกเข้าไป ทำให้น้ำซอสส่งกลิ่นหอมมากขึ้น แถมยังได้ความมันคล้ายแกงมัสมั่นอีกด้วย

 

 

เวลาได้กินทีไร จึงอดคิดถึงคนในครอบครัวทุกคนไม่ได้ เพราะอาหารจานนี้รวมความชอบของทุกคนไว้ด้วยกัน ใครอยากลองทำตาม คุณแม่กระซิบมาว่าต้องใช้ซี่โครงที่ติดเนื้อเยอะๆ หน่อยนะ เดี๋ยวถึงก้นหม้อแล้วจะเหลือแต่กระดูกจ้ะ

 

มิลิน พงษ์นาวิน

 

ครีเอทีฟ

 

Bread Pudding

 

 

‘เบรดพุดดิ้ง’ เป็นขนมแห่งความทรงจำของบ้านฉัน จากฝีมือคุณยายที่จำมาจากคุณทวดที่เป็นคนอังกฤษอีกที แต่อย่าคาดหวังว่าหน้าตาพุดดิ้งจะหรูหราอะไร เพราะคนสมัยก่อนทำอะไรง่ายๆ และสัดส่วนชั่งตวงน่ะเหรอ ลืมไปเลย บ้านเราใช้ช้อน ซึ่งฉันจำได้ว่าเป็นช้อนพลาสติกเก่าๆ ที่แถมมากับซอสอะไรก็ไม่รู้เป็นช้อนตวง พอมาสมัยนี้ฉันเลยใช้ช้อนกินข้าวธรรมดานี่แหละตักแทน

 

 

วิธีทำก็สุดง่าย ตอกไข่ 4 ฟองใส่อ่างผสมใบใหญ่ ตักน้ำตาลทรายลงไป 13 ช้อนกินข้าว กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา และนมคาร์เนชั่น 1 กระป๋อง เทน้ำลงไปกรอกอีก ½ กระป๋อง แล้วเทลงใส่อ่าง ตีให้ไข่กับนมเข้ากัน โปรยลูกเกดลงไปสัก 1 กำมือใหญ่ บิเนยนุ่มๆ ใส่ลงไปอีก ½ ก้อน คนให้เข้ากัน ฉีกขนมปังฟาร์มเฮ้าส์โยนๆ ลงไป ใช้ช้อนกดๆ คนๆ ให้ขนมปังดูดของเหลวจนแห้ง เทใส่ชามอบ นำไปอบ 180 องศาจนพุดดิ้งสุกเหลือง กินกับชาหรือกาแฟร้อนๆ รับรองอร่อยเหาะ อ้อ ฉันเเอบแช่ลูกเกดในเหล้ารัมด้วยเพื่อความฟิน!

 

ณวรา เปลี่ยนบุญเลิศ

 

ทีมอาหาร

 

สลัดแขก

 

‘เด็กไม่กินผัก’ เรียกได้ว่าเป็นนิยามความเป็นฉันตอนเด็กๆ ยิ่งผักสด ผักใบเขียว หรือผักที่ไม่ผ่านการต้มให้เปื่อย แทบไม่สนิทกับฉันเอาเสียเลย แต่ทุกวันนี้เลเวลการกินผักดีกว่าแต่ก่อนมาก มานึกย้อนคิดดูแล้วเมนูนี้นี่แหละที่เป็นหนึ่งในเมนูผักที่ทำให้เด็กไม่กินผักคนนี้ได้สนิทสนมกับผักสดมากขึ้น

 

 

เมนูผักที่คนในบ้านกินเป็นประจำรองจากสลัดครีม ก็คงเป็น ‘สลัดแขก’ เนื่องด้วยที่บ้านเป็นมุสลิมจึงเป็นเมนูที่แวะเวียนให้ได้กินในบ้านอยู่บ่อยครั้ง สลัดผักกาดหอมที่มีน้ำสลัดรสหวานนำ รสเปรี้ยวนิดหน่อยจากน้ำมะขามเปียก ได้ความกลมกล่อมจากกะทิ และส่วนประกอบเด่นๆ คือถั่วลิสงป่น ทำให้กลบกลิ่นผักใบเขียวที่ไม่ชอบได้จนหมดสิ้น

 

 

นอกจากตัวน้ำสลัดแล้ว ที่ฉันชอบก็คงจะเป็นท็อปปิ้งของมัน ถึงแม้ไม่มีเนื้อสัตว์ แต่มีไข่ต้ม เต้าหู้ทอด และมันเทศแผ่นบางทอดกรอบสีเหลืองนวล คือสิ่งที่ฉันรักมากๆ เรียกได้ว่ามีเยอะเท่าไรก็เทแทบหมดถ้วย เลยไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเอ็นจอยกับการกินผัก หรือมันทอดกรอบมากกว่ากันแน่

 

วรรณวนัช วรรณเลิศศิริ

 

กราฟิกดีไซเนอร์

 

 

แกงเขียวหวานไก่หน่อไม้

 

‘แกงเขียวหวานไก่หน่อไม้’ คืออาหารประจำบ้านของเรา เราชอบกินหน่อไม้เกือบทุกชนิด เลยชอบบอกให้แม่ใส่หน่อไม้ในอาหารเป็นประจำ โดยเฉพาะแกงเขียวหวาน ฟังดูอาจจะทำยากนะ แต่จริงๆ ไม่ยากเลย โดยเคล็ดลับสูตรของที่บ้านไม่เหมือนที่อื่นๆ คือพริกแกงเขียวหวานจะใส่กะปิที่มาจากจังหวัดตราดผสมลงไปด้วย

 

 

ปั่นเครื่องแกงเข้าด้วยกันแล้วเติมน้ำนิดหน่อย นำไปผัดกับหัวกะทิสดๆ พอแตกมัน ใส่ปีกบนไก่หั่นชิ้น ตีนไก่ ผัดให้พอสุก 80% เติมหัวกะทิที่เหลือเคี่ยวให้เดือดเล็กน้อย ใส่หางกะทิ หน่อไม้ลวก เร่งไฟให้พอเดือด ใส่ตับไก่ และเลือดไก่ลงไป (ตับไก่และเลือดไก่อาจจะทำให้น้ำแกงสีคล้ำลงเล็กน้อย) ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว และน้ำปลาจากจังหวัดตราด เคี่ยวต่อสักครู่ให้น้ำแกงงวดเล็กน้อย ใส่ใบมะกรูดฉีก พริกชี้ฟ้าแดงซอย และโหระพาเด็ดใบ ปิดไฟ ตักเสิร์ฟ กินคู่กับขนมจีน อร่อยมาก ฮ่าๆ ทำทั้งหม้อ กินสามมื้อก็กินได้ กิน 2 – 3 วันติดก็กินได้

 

 

รสแกงเขียวหวานบ้านเราจะหวานเค็มกลมกล่อม ไม่หวานแหลมหรือหวานเจี๊ยบ แถมหน่อไม้ยังเป็นตัวช่วยให้น้ำแกงรสนัวมากขึ้นอีกด้วย และทั้งตับไก่ เลือดไก่ ก็เป็นสิ่งที่เราชอบมากๆ เพียงแค่เอ่ยปากลอยๆ เช้ามาแม่ก็จะทำให้ พร้อมกับขนมจีนอีก 1 กิโลกรัม ที่กินกันได้ทั้งบ้าน

 

ธัญชนก ศรียานนท์

 

ทีมอาหาร

 

 

 

Share this content

Contributor

Tags:

Cooking Therapy

Recommended Articles

Food Storyอบขนมให้หายเศร้า
อบขนมให้หายเศร้า

ขนมปังนุ่มฟูอบใหม่ ช่วยบำบัดจิตใจให้สงบกว่าที่เคย