เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

food story

“อะบราคาดาบรา” ร่ายเวทย์แปลงเป็นแม่มดพ่อมดที่ร้านเวทย์มนต์

Story by ศรีวิการ์ สันติสุข

ชวนไปเที่ยวคาเฟ่ที่จะทำให้เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเวทย์มนต์

เหล่าสาวกพ่อมดแม่มดมาทางนี้ค่า ไม่ต้องวิ่งชนกำแพงตามหาชานชาลา 9 ¾ ให้เหนื่อย แค่เดินเข้ามาหลังห้าง ICS (ตรงข้าม ICONSIAM) เดินตามตรอกเล็กๆ ไปแค่ไม่กี่เมตร เราก็จะพบกับ ร้านเวทย์มนต์ ที่ทางเข้าลึกลับซับซ้อนสมกับการเข้าสู่โลกใหม่ และเมื่อเปิดประตูเข้าไปในร้านก็เหมือนมีมนต์เสกให้มักเกิ้ลตัวน้อยแปลงร่างเป็นพ่อมดแม่มด ที่มาสังสรรค์กันที่ร้านในตรอกไดแอกอนยังไงยังงั้นเลย เพราะที่นี่เป็นคาเฟ่ที่มากับคอนเส็ปต์โลกเวทย์มนต์ตามชื่อร้านนั่นแหละ

 

 

 

 

ต้องบอกก่อนว่าฉันผ่านตาร้านเวทย์มนต์มาสักพักหนึ่งละ ด้วยความที่ร้านดังระเบิดระบือเป็นไวรัลในโซเชียล แต่ตอนนั้นร้านเขาอยู่ที่จ.สกลนคร สาวกทม.เลยจนปัญญาจะไปเยือน จนวันนี้เขามาเปิดสาขา 2 ที่เจริญนครซอย 6 หลังห้าง ICS นี่เอง แล้วจะรอช้าอยู่ทำไม เราก็ต้องพุ่งตัวไปสัมผัสโลกพ่อมดแม่มดสักหน่อย

 

 

 

 

ร้านเวทย์มนต์

 

 

 

 

ร้านเวทย์มนต์

 

 

 

 

ร้านเวทย์มนต์

 

 

 

 

เดินมาถึงหน้าร้านก็พบกับปราสาทยอดแหลมรอต้อนรับ ฝั่งขวามือเป็นราวแขวนชุดและพร็อพต่างๆ สำหรับการแปลงร่างเป็นพ่อมดแม่มดแบบกลมกลืน (เลือกใส่ได้ฟรี) และแค่เปิดประตูเข้าไปเท่านั้นแหละ ก็อย่างที่บอกไปค่ะว่าเหมือนหลุดเข้าไปในร้านอะไรสักร้านในตรอกไดแอกอน ทั้งบรรยากาศที่จัดแสงไว้แบบสบายตา หม้อปรุงยาใบใหญ่บึ้มมีควัน (ดรายไอซ์) ลอยฉุยกระจุยกระจายเพิ่มความขลัง และเป็นจุดหมายที่ทุกคนจะต้องมาสวมวิญญาณโปรเฟสเซอร์สเนปทำพิธีปรุงยา ตรงหน้าเป็นตู้เค้กที่ละลานตาไปด้วยสารพันเค้กหน้าตาประหลาด อาทิ เค้กเห็บหมา เค้กคางคก เค้กตุ๊กแก เค้กตัวเงินตัวทอง เค้กมนุษย์ต่างดาว ฯลฯ ซึ่งเค้กเหล่านี้เองที่เป็นจุดเด่นจุดขาย และทำให้ชื่อร้านเวทย์มนต์กลายเป็นไวรัล

 

 

 

 

ร้านเวทย์มนต์เป็นการต่อยอดมาจากเพจขายของออนไลน์ชื่อเวทย์มนต์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 7 ปีก่อน โดยขายสินค้าเกี่ยวกับโลกเวทย์มนต์ทั้งโมเดล เสื้อผ้า พร็อพต่างๆ ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จนกระทั่งเจอกับช่วงโควิด จึงมีการคิดอยากทำธุรกิจให้เป็นหลักแหล่งและให้คนสามารถมาเจอแบบออฟไลน์ด้วย ร้านเวทย์มนต์แห่งแรกที่จ.สกลนครจึงเปิดตัวพร้อมคอนเส็ปต์โลกเหนือจินตนาการ ใครเข้ามาจะเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง ร้านจึงมีลักษณะเหมือนสวนสนุก มีบรรยากาศของโลกแฟนตาซี พนักงานก็แต่งตัวแฟนซี เค้กก็สร้างสรรคให้มีความแปลกใหม่ให้ตรงกับคอนเส็ปต์ และมาในรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

 

 

 

 

ร้านเวทย์มนต์

 

 

 

 

ร้านเวทย์มนต์

 

 

 

 

ซึ่งเค้กหน้าตาสุดแปลกพวกนี้ไม่ได้คิดขึ้นมาให้หน้าตาแหวกแนวอย่างเดียว แต่สามารถกินได้จริง แล้วยังอร่อยด้วย เพราะก่อนจะมาเปิดร้านเวทย์มนต์ เจ้าของร้านเขาเคยเปิดร้านเบเกอรีมาก่อน ฉะนั้น รับประกันว่ากินได้จริงทุกสิ่ง แล้วเขายังให้ความสำคัญกับรสชาติและวัตถุดิบ อาทิ ใช้เนยพรีเมียม เพราะลำพังแค่เค้กหน้าตาประหลาดก้อนหนึ่งก็ต้องใช้เวลาในการประดิษฐ์ประดอยนาน อย่างเค้กคางคกใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะได้สักก้อน หรืออย่างเค้กตัวเงินตัวทอง อันนี้งานยากของจริง เพราะต้องใช้เวลาทำ 7-20 วันกันเลยทีเดียว เมื่อประดิษฐ์เรื่องหน้าตาแล้ว เรื่องวัตถุดิบและรสชาติจึงต้องตามมาด้วยแบบไม่ให้น้อยหน้า

 

 

 

 

ร้านเวทย์มนต์

 

 

 

 

แน่นอนว่ามาเยือนทั้งที เราย่อมไม่พลาดเค้กซิกเนเจอร์อย่าง เค้กเห็บหมา (390 บาท) ที่ทางร้านใช้เวลาปั้นตัวหนึ่งๆ 10-15 นาที ออกมาเป็นเค้กหน้าตาเหมือนเห็บหมายักษ์ พร้อมเลือดและเม็ดไข่กระจายในจาน นั่งมองน้องอยู่สักพักจนทำใจได้ ก็ค้ามีดมาเฉือนกลางลำตัว แม้จะไม่มีเลือดไหลแบบเห็บจริง แต่ก็พบกับเนื้อในที่ทำจากบัตเตอร์เค้กเนื้อแน่นร่วนกับซอสสตรอว์เบอรี่สอดไส้ตรงกลาง เม็ดไข่สีส้มในจานทำมาจากบุก และส่วนหนังที่แน่นหนึบสู้ฟันนั้นคือมาร์ชเมลโล กินรวมๆ กันใน 1 คำ เห้ย อร่อยเกินหน้าตาไปเยอะเลย

 

 

 

 

ร้านเวทย์มนต์

 

 

 

 

อีกสิ่งที่ได้ลองคือ ลูกนิมิตนางฟ้ามิวกี้เบอรี่ (350 บาท) ที่หน้าตาเหมือนลูกสนิชสีทองพร้อมปีกในเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ เรียกว่าจานนี้ไม่แปลกประหลาด แต่สวยเลยแหละด้วยลูกทรงกลมสีทองและปีกที่ปั้นแต่งมาอย่างน่ารัก ด้านนอกน่าจะเป็นช็อกโกแลต ด้านในเป็นไอศครีมเย็นๆ เป็นอีกเมนูที่คิดค้นมาเป็นอย่างดีและแสนจะเข้ากัน

 

 

 

 

ร้านเวทย์มนต์

 

 

 

 

แล้วก็ใช่จะมีแต่เค้ก ที่นี่ยังมีอาหารคาวอย่าง ข้าวหน้าไก่ยมทูต (290 บาท) ชื่อน่ากลั๊ว หน้าตาก็น่ากลัว เพราะเป็นไก่สีดำสนิทท็อปมาบนข้าว เสิร์ฟมาในหม้อดิน แต่พอทำใจได้แล้วหยิบไก่ขึ้นมากัด เอาอีกแล้ว อร่อยยยยอีกแล้ว เพราะมันคือไก่ทอดซอสเกาหลีดีๆ นี่เอง ไก่กรอบนอกนุ่มในเนื้อฉ่ำกับซอสที่ออกรสเผ็ดเล็กน้อย กินกับข้าวสวยด้านล่าง อร่อยเกินหน้าตาไปเยอะ

 

 

 

 

ร้านเวทย์มนต์

 

 

 

 

ในส่วนของเครื่องดื่ม ที่ร้านก็มีให้เลือกหลากหลาย แต่ที่เป็นซิกเนอเจอร์สั่งกันทุกโต๊ะก็คือ น้ำยาสรรพรส (200 บาท) ที่ไม่แค่มากับสตอรี่ว่าดื่มแล้วจะเปลี่ยนร่างเป็นคนอื่นได้ 1 ชั่วโมง ยังมาพร้อมกิมมิคน้องๆ พนักงาน (ที่แต่งตัวเป็นแม่มดพ่อมด) จะมากระทำกรรมวิธีปรุงยา (ปรุงเครื่องดื่ม) พร้อมร่ายคาถาให้เราถึงโต๊ะ เป็นโมเมนต์ที่ใครๆ ก็ต้องแชะไปลงโซเชี่ยล รสชาติออกจะเฝื่อนๆ หน่อย บอกไม่ถูกว่าเป็นน้ำอะไรผสมกับอะไร ต้องลองมากินเอง

 

 

 

 

ร้านเวทย์มนต์

 

 

 

 

ส่วนที่ดื่มเพลิน ดื่มแล้วสดชื่น ได้แก่ น้ำยาสันติ (160 บาท) ที่เขาว่าดื่มแล้วจะผ่อนคลายความกังวล ลดความปั่นป่วนในจิตใจ ซึ่งก็จริงนะ เพราะหน้าตาสวย เวลาคนแล้วจะเห็นเป็นริ้วๆๆ วิบวับๆ รสชาติยังหวานอมเปรี้ยว ง่วงๆ ไปก็ตื่น หรือไม่ง่วงก็จะได้ความสดใสสดชื่น

 

 

 

 

ร้านเวทย์มนต์สาขากรุงเทพฯ เพิ่งเปิดไปเมื่อวันที่ 9 เดือน 9 นี่เอง ยังคงเป็นที่ฮอตฮิตเป็นจุดปักหมุดเช็คอินของชาวกรุงอยู่แบบเนืองแน่น ใครอยากไป แนะนำให้โทรหาร้านเพื่อจองโต๊ะหรือสอบถามสภาพความแน่นในร้านก่อน เพราะถ้าวอล์กอินอาจจะต้องรอนานมากกกกกก

 

 

 

 

ร้านเวทย์มนต์

 

 

 

 

ร้านเวทย์มนต์

 

 

 

 

พิกัด: ซอย เจริญนคร 6 (หลังห้าง ICS ตรงข้าม Iconsiam)

 

 

 

 

เปิด-ปิด: 11.00 – 20.00 น. (จ.-ศ.) / 10.00 – 22.00 น. (ส.-อา.)

 

 

 

 

โทร: 090 992 9414

 

 

 

 

FB: https://www.facebook.com/Mysterioustore

Share this content

Contributor

Tags:

คาเฟ่, คาเฟ่เก๋

Recommended Articles

Food Storyดื่มด่ำด้วยหัวใจกับ ‘เจ้าชายน้อย’ ที่ The Little Prince Café ซอยสวนพลู
ดื่มด่ำด้วยหัวใจกับ ‘เจ้าชายน้อย’ ที่ The Little Prince Café ซอยสวนพลู

จิบกาแฟกินขนมโฮมเมดท่ามกลางโลกแห่งประติมากรรมของเจ้าชายน้อย

 

Recommended Videos