เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

food story

Kintaam ร้านไอศกรีมแซนด์วิชที่ทั้งคนทำและคนกินสนุกได้ ‘ตามอัธยาศัย’

Story by ศรีวิการ์ สันติสุข

สองสาวจากเชียงใหม่กับไอเดียดีๆ ต่อยอดสิ่งที่รักสู่ร้านไอศกรีมแซนด์วิชสุดฮอต

แค่ได้ยินชื่อร้าน kintaam หรือ กินตาม ฉันเชื่อว่าทุกคนต้องมีความรู้สึกเอ๊ะ อะไรคือกินตาม กินตามอะไร เฉลย kintaam คือชื่อร้านไอศกรีมแซนด์วิช ถึงตรงนี้คำถามต่อไปน่าจะตามมาติดๆ แล้วไอศกรีมแซนด์วิชมันคืออะไร เอาละ มาไขข้อข้องใจไปด้วยกันค่ะ

 

 

 

 

เริ่มจากชื่อร้านก่อน ‘กินตาม’ ย่อมาจาก ‘กินตามอัธยาศัย’ ที่เป็นทั้งคำพูดติดปากและปรัชญาประจำใจในครอบครัวของเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นพี่น้องสองสาวจากเชียงใหม่ น้ำอบ และ น้ำทิพย์ ไชยจินดา ผู้เติบโตมาในบ้านที่ทำอาหารและขนม ตัวน้ำทิพย์เองก็ชอบทำอาหารและขนมเองที่บ้าน กระทั่งเธอเรียนจบทางด้านภาพยนตร์ พอดีกับที่เป็นช่วงล็อคดาวน์โควิด ความที่อยากหาอะไรทำ เธอจึงชวนน้ำอบ-พี่สาวที่เรียนจบทางด้านกราฟิกมาร่วมด้วยช่วยกันทำไอศกรีมแซนด์วิชขายออนไลน์ โดยตั้งใจเพียงแค่ทำในสิ่งที่ชอบ

 

 

 

 

“เริ่มฝึกทำขนม คุกกี้ บราวนี่ เรียนเองจากเว็บครัวนี่แหละค่ะ” น้ำทิพย์บอกว่าเธอและพี่สาวเป็นแฟนตัวยงของ KRUA.CO ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นสำนักพิมพ์โน่นเลย “แล้วก็ดูวิดีโอ ยูทูป ของต่างชาติบ้าง ไทยบ้าง เรียนด้วยตัวเอง ไม่ได้เทคคอร์สที่ไหนเลย อันนี้ต้องขอบคุณครัว ถือว่ามีคุณูปการกับเรามาก”

 

 

 

 

kintaam

 

 

 

 

kintaam

 

 

 

 

น้ำทิพย์เริ่มต้นด้วยของแรงอย่างขนมปัง เธอชอบทำซาวโดว์และวาฟเฟิล แต่เมื่อถึงจุดที่คิดจะทำขาย เธอมาพร้อมไอเดียที่ไม่ต้องการถูกจำกัดด้วยรูปแบบและรสชาติ ขนมปังที่มีลักษณะเป็นก้อน หรือบราวนี่เป็นถาดจึงไม่ตอบโจทย์ คิดไปคิดมา มาลงตัวที่ไอศกรีมแซนด์วิช ด้วยเหตุผลว่าสามารถใส่ลูกเล่นลงไปได้เยอะ จากคอนเส็ปต์คือเพียงแค่การใช้ไอศกรีมเป็นแกนกลางแล้วประกบด้วยคุกกี้หรือสิ่งอื่นใด โดยมีตัวแซนด์วิชที่เป็นคุกกี้เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อยอดไอเดีย

 

 

 

 

“ตั้งต้นจากความคิดว่าเอาคุกกี้มากินกับไอศกรีมน่าจะอร่อย แล้วเราสามารถปรับเปลี่ยนตัวแซนด์วิชได้หมดเลย จะเป็นคุกกี้ วาฟเฟิล บิสกิต ขนมปัง เลยทำให้คิดอะไรได้กว้างขึ้น เพราะมันหลากหลายสุดๆ แล้วตัวไอศกรีมเองก็เป็นอะไรที่ใส่ไอเดียลงไปได้เยอะมาก เรามองมันเป็นก้อนน้ำตาลที่เป็นไขมันเปล่าๆ ที่สามารถเติมทั้งรสชาติทั้งเนื้อสัมผัสอะไรได้หมด อยากได้รสชาติแบบไหน ใส่ส่วนผสมอะไร ใส่กับอะไร ผิวสัมผัสแบบไหน มันเป็นได้เยอะ เลยเอามาเป็นแกนกลาง”

 

 

 

 

kintaam

 

 

 

 

kintaam

 

 

 

 

การเรียนสาขาภาพยนตร์ทำให้เธอใช้วิธีคิดต่อจากไอเดียเหมือนเวลาจะทำภาพยนตร์สักเรื่อง และ Kintaam ก็เปิดตัวคอลเลกชั่นแรกแบบออนไลน์เมื่อ 3 ปีก่อน มากับคอนเส็ปต์เกี่ยวกับการเมือง เพราะ ‘สตอรี่’ เป็นอีกหนึ่งความครีเอทีฟที่เกิดจากการที่เธอมีเรื่องที่อยากพูดอยากบอก ผลลัพธ์คือการออกแบบไอศกรีมแซนด์วิชจากสิ่งที่เธออยากนำมาเล่า กลายเป็นหลากหลายคอลเลกชั่นหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไป

 

 

 

 

“สิ่งที่เราเอามาพูดผ่านไอศกรีมมันอาจจจะไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็จริง แต่อย่างน้อยก็ขอพูดในสิ่งที่อยากพูด” น้ำทิพย์ย้ำพร้อมเล่าถึงหนึ่งในคอลเลกชั่นที่ภูมิใจ นั่นคือฝุ่น PM 2.5 “ทุกคนรู้ว่าช่วงเดือนเมษาฯ-พฤษภาฯ เชียงใหม่มีแต่ฝุ่น PM 2.5 เรารู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่าง ร้านขนมที่อยากพูดอะไรบ้างก็เลยทำไอศกรีมฝุ่นออกมา ตัวไอศกรีมเป็นสีเทาสื่อถึงสีฝุ่น เอาคอนเฟล็กมาทุบๆ ใส่ลงไป เพราะอุตสาหกรรมข้าวโพดคือต้นตอของ PM 2.5 แล้วก็เอาคาราเมลมาเคลือบ หน้าตาดูเหมือนก้อนฝุ่นแต่รสชาติออกนมๆ”

 

 

 

 

“ข้าวปุกงาก็เป็นอีกคอลเลกชั่นที่เราชอบ เพราะมันสื่อถึงความเป็นเชียงใหม่ได้ชัดเจน” น้ำอบเพิ่มเติม “ช่วงหน้าหนาวภาคเหนือเป็นฤดูเก็บเกี่ยว เขาจะเอาข้าวใหม่มาตำใส่น้ำตาลโรยหน้าด้วยงาขี้ม่อน เป็นข้าวปุกงาที่เรากินเล่นมาแต่เด็ก เลยเอามาพลิกแพลง ทำเป็นโมจิจากข้าวเหนียวดำ ห่อไอศกรีมน้ำตาลมะพร้าวคลุกด้วยงาขี้ม่อน เอาส่วนประกอบหลักทั้งหมดมาดัดแปลงให้อยู่ในรูปของไอศกรีมแซนด์วิช”

 

 

 

 

kintaam

 

 

 

 

kintaam

 

 

 

 

เหล่านี้คือตัวอย่างการครีเอทไอศกรีมในแบบของ kintaam ที่สองพี่น้องบอกว่าครีเอททั้งหัวข้อและช่วงเวลา ‘ตามอัธยาศัย’ เหมือนชื่อร้าน ขึ้นอยู่กับว่าพวกเธอจะไปเจอประเด็นหรือวัตถุดิบน่าสนใจใดเข้า แต่โดยเฉลี่ยก็อาจจะมีการครีเอทคอลเลกชั่นใหม่ๆ ประมาณ 3 เดือนครั้ง หรือบางอย่างก็มีเป็นฤดูกาล อย่างข้าวปุกงาที่ต้องมาลิ้มรสกันในช่วงหน้าหนาวเท่านั้น เป็นเมนูพิเศษนอกเหนือไปจากเมนูยืนพื้น 14 รสเบสิกที่มีเป็นประจำ อาทิ กล้วยหอมเนยถั่ว สตรอวเบอร์รีเจลลี่ ซอลต์คาราเมล นมเย็น

 

 

 

 

แอบกระซิบว่าในส่วนของคอลเลกชั่นใหม่ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด (เพราะตอนที่คุยกันยังอยู่ในช่วงทดลอง) เดือนตุลาคมนี้จะได้พบกับไอศกรีมแซนด์วิชในรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์! ที่น้ำทิพย์ได้แรงบันดาลใจมาจากร้านขายเฟอร์นิเจอร์มือสองของพี่ชายที่อยู่ข้างๆ กัน ฉะนั้น เราอาจจะได้พบกับไอศกรีมที่มีหน้าตาเป็นเก้าอี้ คู้ โคมไฟ อาร์มแชร์ พร้อมรสชาติใหม่ๆ ที่ผ่านการคิดมาแล้วอย่างเข้มข้น ที่แต่ละวัตถุดิบผ่านการคัดสรรเลือกซื้อเลือกใช้จากเกษตรกรท้องถิ่นรายย่อยในเชียงใหม่ ทั้งวิปครีมจาก Dacheeso ผู้ประกอบการชีสเจ้าดั้งเดิม นมจากคณะอุตสาหกรรมการเกษตรที่มช. ด้วยความตั้งใจว่าต้องใช้วัตถุดิบที่ดีและช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อยไปพร้อมกันให้ได้มากที่สุด

 

 

 

 

ความครีเอทที่ไม่สิ้นสุดยังทำให้ kintaam ขยายสู่ธุรกิจแคเทอริ่ง ที่ไม่ใช่แค่นำไอศกรีมที่มีไปวางในงาน แต่เป็นการออกแบบสร้างสรรค์ทั้งรสชาติและรูปทรงใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์แบรนด์ต่างๆ ที่มีทั้งยาสีฟัน ร้านขายเครื่องสำอางค์ ไปจนถึงสกินแคร์เคาน์เตอร์แบรนด์ ที่สองพี่น้องบอกว่าสนุกมากๆ กับการทำไอศกรีมของพวกเธอให้หน้าตาเหมือนแปรงสีฟัน ใช้วิธีบีบเหมือนบีบยาสีฟัน แถมเทกเจอร์ยังเหมือนขนแปรงสีฟันอีกต่างหาก หรือกระทั่งการทำไอศกรีมให้เหมือนขวดเซรั่ม และมีรสชาติแบบที่ได้มาจากส่วนประกอบหลักของเซรั่ม

 

 

 

 

สำหรับแบรนด์อายุเพียง 3 ปีที่เริ่มต้นง่ายๆ จากความชอบและการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ถือว่าสองสาวมาไกลอยู่ไม่น้อย ซึ่งพวกเธอบอกว่าเพราะการเป็นตัวของตัวเองนี่แหละที่ทำให้มาถึงวันนี้

 

 

 

 

“ซื่อสัตย์กับตัวเอง ทำในสิ่งที่เป็นตัวเอง แล้วมันจะชัดเจนในแคแรกเตอร์แบรนด์ ถ้าเราเป็นตัวเองมากที่สุด มันจะเป็นตัวเราและไชน์ในแบบที่ไม่เหมือนคนอื่น”

 

 

 

 

kintaam

 

 

 

 

kintaam

 

 

 

 

ปัจจุบัน kintaam มีหน้าร้าน 2 สาขา ที่เชียงใหม่และกรุงเทพฯ สองปีแห่งการก้าวเข้าสู่โลกธุรกิจเต็มตัวทำเอาสองพี่น้องปวดหัวอยู่เหมือนกัน เพราะไหนจะต้องบริหารจัดการทั้งหน้าร้านหลังร้าน ไหนจะปัญหาต่างๆ ที่มีมาไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งพวกเธอบอกว่าเป็นความท้าทายที่ต้องเรียนรู้และจัดการกันไป แม้จะเหนื่อยแต่การได้พบเจอลูกค้าแบบตัวเป็นๆ ได้พูดคุยกันก็ถือเป็นอีกหนึ่งความสุข ซึ่ง kintaam ยินดีต้อนรับทุกคน ไม่ว่าจะรู้จักพวกเธอมาก่อนหรือไม่ จะสนใจคอนเสปต์หรือเปล่า ขอเพียงแวะเข้ามาสนุกกับการได้กินของอร่อยแล้วมีความสุขกลับไปก็เพียงพอแล้ว

 

 

 

 

“ถ้าไม่รู้จักร้านเรามาก่อน มันก็คือของหวาน 1 ชิ้น ไอศกรีม 1 ก้อน ที่ทุกคนสามารถเอนจอยกับการจับคู่ การดีไซน์ ที่เลือกเองได้ จะไอศกรีมรสไหน แซนด์วิชแบบไหน เลือกได้ตามชอบ สนุกกับการจับคู่ กินแล้วแฮปปี้ วันนี้กินแบบนี้ พรุ่งนี้เปลี่ยนเป็นแบบอื่น ได้หมดตามอัธยาศัย”

 

 

 

 

KRUA’s recommend

 

 

 

 

kintaam

 

 

 

 

โชคุปัง (55 บาท)

 

 

 

 

เมนูล่าสุดที่น้ำทิพย์ลองผิดลองถูกมานาน จนสำเร็จในที่สุด ออกมาเป็นโชคุปังแผ่นหนากำลังดี ผิวหน้าเป็นน้ำผึ้งเนยที่เบิร์นมา โรยด้วยไอซิ่งเป็นชื่อร้านแบบคิ้วต์ๆ ดี เนื้อขนมปังหนึบเนียนเหนียวนุ่มผสานกับความเกรียมนิดๆ บนผิว ให้ผัสสะที่ดีมาก ไม่รวมความหอมของทั้งขนมปังและเนยน้ำผึ้ง เสิร์ฟมาแบบอุ่นๆ อร่อยมาก ห้ามพลาด!

 

 

 

 

kintaam

 

 

 

 

โชคุปัง + ไอศกรีมมัทฉะชาเขียวเยลลี่ (115 บาท)

 

 

 

 

โชคุปังหั่นครึ่งประกบไอศกรีมมัทฉะชาเขียวเยลลี่ ที่ได้ความหอมและรสชาติเข้มข้นของชาเขียวชัดเจน ตัวไอศกรีมเนื้อเนียนละมุนมีเยลลี่เป็นกิมมิคให้เคี้ยวเพลินๆ เข้ากับเนื้อเหนียวหนึบของโชคุปังหอมๆ

 

 

 

 

kintaam

 

 

 

 

บิสกิตโกโก้ + กล้วยผ่อง (75 บาท)

 

 

 

 

เมนูซิกเนเจอร์ที่จับคู่บิสกิตโกโก้เนื้อแน่นกรุบกรอบกำลังดีกับไอศกรีมกล้วยหอมเนยถั่ว ทำจากถั่วลิสงลายเสือบดหยาบ 100% ไม่เติมน้ำตาล ไม่ใส่น้ำมัน กินคู่กันแล้วได้รสหวานนิดๆ ขมปลายลิ้นหน่อยๆ ของบิสกิตกับความหวานหอมมันของกล้วยกับถั่ว เข้าใจได้เลยว่าทำไมเป็นเมนูที่ใครๆ ก็เลิฟ

 

 

 

 

kintaam

 

 

 

 

ชาใสออร์แกนิก (65 บาท)

 

 

 

 

ชาใสหอมเย็นจาก Monsoon Tea ไร่ชาออร์แกนิกในเชียงใหม่ที่เน้นเรื่องความยั่งยืน ทางร้านใช้เป็น tropical sunset flavor blend ของชาเขียวและชาดำ หอมชื่นใจด้วยกลิ่นเสาวรสกับมะม่วง พร้อมรสฝาดเบาๆ เหมาะสำหรับดื่มตัดเลี่ยนสำหรับใครที่อาจจะกินไอศกรีมเพลินไปหน่อย

 

 

 

 

Kintaam

 

 

 

 

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/sVxtMeNi7TWfXp1B6

 

 

 

 

เปิด-ปิด: 11:00 – 20:00 น. (ทุกวัน)

 

 

 

 

FB: kintaam กินตาม

 

 

 

 

IG: kintaam

Share this content

Contributor

Tags:

คุยกับผู้ผลิต, ร้านอร่อยกรุงเทพ, รีวิว, ไอศกรีม

Recommended Articles

Food Storyอั้งม้อ ร้านเหลา-bistro ที่ทำให้อาหารกวางตุ้งถูกใจคนทุกวัย
อั้งม้อ ร้านเหลา-bistro ที่ทำให้อาหารกวางตุ้งถูกใจคนทุกวัย

ร้านอร่อยในย่านสุขุมวิท 38 ที่ถูกใจทั้งอากงอาม่าและอาตี๋อาหมวย

 

Recommended Videos