เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
8 คน
Level
2
INGREDIENTS
รากผักชี
1 ราก
กระเทียมจีนแกะเปลือก
5 กลีบ
พริกไทยขาวเม็ด
10 เม็ด
เนื้อหมูส่วนสันคอหั่นชิ้น
250 กรัม
ปลาอินทรีหรือปลากุเราเค็ม
30 กรัม
มันหมูแข็งหั่นลูกเต๋าแช่เย็น
30 กรัม
ไข่ไก่
1 ฟอง
ซีอิ๊วขาว
1 ช้อนโต๊ะ
นํ้าตาลทราย
1 ช้อนชา
เต้าหู้อ่อนญี่ปุ่น (ก้อนละ 300 กรัม)
2 ก้อน
ไข่แดงเค็ม
8 ฟอง
กระเทียมดอง
2 หัว
นํ้าสต๊อกหมู
½ ถ้วย
ผักชี ขิงซอย รากผักชี และกระเทียมเจียว สำหรับตกแต่ง
METHOD
1. ทำหมูบ๊ะฉ่อโดยโขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เข้าด้วยกันจนละเอียด พักไว้ สับเนื้อหมูและปลาเค็มเข้าด้วยกันจนละเอียดใส่ลงในอ่างผสม ใส่มันหมูแข็ง ไข่ไก่ ซีอิ๊วขาว นํ้าตาล และเครื่องที่โขลกไว้ ลงผสมกับหมูบ๊ะฉ่อนวดจนส่วนผสมเข้ากันดี พักไว้ประมาณ 10 นาที จากนั้นนวดตีหมูบ๊ะฉ่ออีกครั้งเพื่อให้เนื้อหมูมีความนุ่มหยุ่นปั้นหมูบ๊ะฉ่อเป็น 2 ก้อนเท่าๆกัน วางบนเต้าหู้ทั้ง 2 ก้อน แล้วโปะหน้าด้วยไข่แดงเค็ม ทำจนหมด จัดใส่ภาชนะ ใส่นํ้าสต๊อกหมูและ กระเทียมดอง นำไปนึ่งในชั้นลังถึงบนหม้อนํ้าเดือดด้วยไฟกลางนานประมาณ 15-20 นาที หรือจนสุก
2. จัดใส่จาน ตกแต่งด้วยผักชี ขิงซอย รากผักชี และกระเทียมเจียวเสิร์ฟ
สูตรอาหารโดย บุปผา กิิตติกุล
Gallery
Recommended Articles
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง เราขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น
ปลาเค็มคุณภาพดีอย่างเช่นปลากุเลาเค็มเป็นทางเลือกที่ดีของเมนูนี้ แต่ถ้าหาไม่ได้ก็ใช้ปลาอินทรีย์เค็มได้เช่นกัน เลือกเจ้าที่สะอาด เค็มไม่มาก นำมาใช้ให้ล้างน้ำสักรอบหนึ่ง ซับให้แห้ง แล้วนำไปอบให้เนื้อปลาสุก แกะเอาแต่เนื้อปลาไว้ มีหลักอยู่ว่าได้ปลาเค็มเท่าไหร่ใส่หมูสับไปอีกเท่าตัว นำหมูสับกับปลาเค็มมาคั่วจนสุกแห้ง นำไปโขลกให้ละเอียดจนเนื้อปลาและหมูสับเป็นปุยๆ ใส่ลงกระทะไปคั่วอีกครั้งกับเครื่องปรุงได้แก่ ผงสามเกลอ (รากผักชี กระเทียม พริกไทย) และน้ำตาลทรายเอาไว้ตัดเค็ม หายร้อนแล้วเก็บใส่ขวดเข้าตู้เย็น เก็บไว้กินคลุกกับข้าวสวยร้อนๆ บีบมะนาวใส่หอมแดง พริกซอย รับรองอร่อยถูกใจ
โมโม่ (momo) เกี๊ยวนึ่งสอดไส้ อาหารจานเด็ดของชาวเนปาล กินเป็นอาหารว่างหรืออาหารจานหลัก รูปลักษณ์ของโมโม่คล้ายเสี่ยวเหลาเปาหรือติ่มซำของจีน ตัวไส้มีการปรุงคล้ายไส้เกี๊ยวซ่า มีทั้งไส้ผักล้วน ไส้ผักผสมชีสและไส้เนื้อสัตว์บดผสมผัก ในไทยจะเจอเนื้อไก่ หมู แกะ ส่วนออริจินอลจะเป็นเนื้อควายหรือเนื้อจามารี เสิร์ฟได้หลายเเบบทั้งเเบบนึ่ง ทอด ราดน้ำแกงเเละเกี๊ยวน้ำ สูตรนี้เป็น โจล โมโม่ (Jhol momo) เกี๊ยวนึ่งสอดไส้ไก่เเละผัก เนื้อชุ่มฉ่ำ ราดด้วยน้ำแกงข้นๆ หอมเครื่องเทศ รสเปรี้ยว หวาน มัน
ข้าวผัดคะน้าปลาเค็ม เป็นเมนูที่มีกลิ่นหอมหวลชวนน้ำลายสอมากๆ ถ้าใครชอบปลาเค็มก็ชอบเลย แต่ถ้าใครไม่ชอบ ก็คงจะเบียดหน้าหนีเลย จริงๆแล้วปลาเค็มเป็นวัฒธรรมการกินสมัยก่อนที่ปลานั้นจะเน่าเสียไว้ คนสมัยก่อนก็อยากจะเก็บปลาไว้กินนานๆ โดยการหมักดองเนื้อปลาด้วยเกลือ ทำให้อยู่ได้นาน และสามารถนำเอามาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูอีกด้วย
จริงแล้วการที่จะให้เด็กเริ่มกินผัก ควรเริ่มจากผักใบเขียวก่อนตั้งแต่ลูกยังเป็นเบบี๋ เพราะผักใบเขียวมีรสขมกว่า ถ้าลูกยอมกินผักใบเขียวตั้งแต่เล็ก ๆ ก็ทำให้กินผักได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าปล่อยเวลาล่วงเลยจนลูกเริ่มโตขึ้นแล้ว ไม่ยอมกินผัก อาจจะลองเปลี่ยนมาเริ่มด้วยผักรสหวาน ๆ ก่อน เช่น ผักสีส้ม ฟักทอง จะช่วยให้ลูกกินผักได้ง่ายขึ้น เมนูจากซุปวันนี้คือซุปสองสี แค่บอกว่าเป็นซุปจากผัก เด็กน้อยบางคนคือส่ายหัวมาแต่ไกล ผักที่นำมาทักซุปของเราคือฟักทอง เพราะเป็นผักที่กินง่ายมีรสชาติหวาน และยังเสริมด้วยผักโขม ซุปจะมีสีเหลืองจากฟักทองปนเขียวจากผักโขมมีสันที่สวยงาม ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยตามชอบ กินง่าย อร่อยและมีประโยช์น และแท้จริงแล้วพ่อแม่ต้องเป็นต้นแบบ วิธีนี้ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญเลย เพราะลูกนั้นเป็นเหมือนกระจกสะท้อนของพ่อแม่ ถ้าลูกกินข้าวกับพ่อแม่เป็นประจำ แล้วในแต่ละมื้อของพ่อแม่ มีผักอยู่ด้วย ลูกก็จะซึมซับมาเป็นเหมือนเรื่องธรรมดา แต่ถ้าพ่อแม่ไม่กินผัก หรือ ชอบสั่งเมนูเด็กพิเศษ ไม่ผัก ไม่ใส่นั่น ไม่ใส่นี่ เวลาออกไปกินข้าวนอกบ้าน ก็จะเป็นการสร้างนิสัยกินยาก ไม่กินผักให้ลูกไปโดยไม่รู้ตัว
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง เราขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น
ปลาเค็มคุณภาพดีอย่างเช่นปลากุเลาเค็มเป็นทางเลือกที่ดีของเมนูนี้ แต่ถ้าหาไม่ได้ก็ใช้ปลาอินทรีย์เค็มได้เช่นกัน เลือกเจ้าที่สะอาด เค็มไม่มาก นำมาใช้ให้ล้างน้ำสักรอบหนึ่ง ซับให้แห้ง แล้วนำไปอบให้เนื้อปลาสุก แกะเอาแต่เนื้อปลาไว้ มีหลักอยู่ว่าได้ปลาเค็มเท่าไหร่ใส่หมูสับไปอีกเท่าตัว นำหมูสับกับปลาเค็มมาคั่วจนสุกแห้ง นำไปโขลกให้ละเอียดจนเนื้อปลาและหมูสับเป็นปุยๆ ใส่ลงกระทะไปคั่วอีกครั้งกับเครื่องปรุงได้แก่ ผงสามเกลอ (รากผักชี กระเทียม พริกไทย) และน้ำตาลทรายเอาไว้ตัดเค็ม หายร้อนแล้วเก็บใส่ขวดเข้าตู้เย็น เก็บไว้กินคลุกกับข้าวสวยร้อนๆ บีบมะนาวใส่หอมแดง พริกซอย รับรองอร่อยถูกใจ
โมโม่ (momo) เกี๊ยวนึ่งสอดไส้ อาหารจานเด็ดของชาวเนปาล กินเป็นอาหารว่างหรืออาหารจานหลัก รูปลักษณ์ของโมโม่คล้ายเสี่ยวเหลาเปาหรือติ่มซำของจีน ตัวไส้มีการปรุงคล้ายไส้เกี๊ยวซ่า มีทั้งไส้ผักล้วน ไส้ผักผสมชีสและไส้เนื้อสัตว์บดผสมผัก ในไทยจะเจอเนื้อไก่ หมู แกะ ส่วนออริจินอลจะเป็นเนื้อควายหรือเนื้อจามารี เสิร์ฟได้หลายเเบบทั้งเเบบนึ่ง ทอด ราดน้ำแกงเเละเกี๊ยวน้ำ สูตรนี้เป็น โจล โมโม่ (Jhol momo) เกี๊ยวนึ่งสอดไส้ไก่เเละผัก เนื้อชุ่มฉ่ำ ราดด้วยน้ำแกงข้นๆ หอมเครื่องเทศ รสเปรี้ยว หวาน มัน
ข้าวผัดคะน้าปลาเค็ม เป็นเมนูที่มีกลิ่นหอมหวลชวนน้ำลายสอมากๆ ถ้าใครชอบปลาเค็มก็ชอบเลย แต่ถ้าใครไม่ชอบ ก็คงจะเบียดหน้าหนีเลย จริงๆแล้วปลาเค็มเป็นวัฒธรรมการกินสมัยก่อนที่ปลานั้นจะเน่าเสียไว้ คนสมัยก่อนก็อยากจะเก็บปลาไว้กินนานๆ โดยการหมักดองเนื้อปลาด้วยเกลือ ทำให้อยู่ได้นาน และสามารถนำเอามาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูอีกด้วย
จริงแล้วการที่จะให้เด็กเริ่มกินผัก ควรเริ่มจากผักใบเขียวก่อนตั้งแต่ลูกยังเป็นเบบี๋ เพราะผักใบเขียวมีรสขมกว่า ถ้าลูกยอมกินผักใบเขียวตั้งแต่เล็ก ๆ ก็ทำให้กินผักได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าปล่อยเวลาล่วงเลยจนลูกเริ่มโตขึ้นแล้ว ไม่ยอมกินผัก อาจจะลองเปลี่ยนมาเริ่มด้วยผักรสหวาน ๆ ก่อน เช่น ผักสีส้ม ฟักทอง จะช่วยให้ลูกกินผักได้ง่ายขึ้น เมนูจากซุปวันนี้คือซุปสองสี แค่บอกว่าเป็นซุปจากผัก เด็กน้อยบางคนคือส่ายหัวมาแต่ไกล ผักที่นำมาทักซุปของเราคือฟักทอง เพราะเป็นผักที่กินง่ายมีรสชาติหวาน และยังเสริมด้วยผักโขม ซุปจะมีสีเหลืองจากฟักทองปนเขียวจากผักโขมมีสันที่สวยงาม ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยตามชอบ กินง่าย อร่อยและมีประโยช์น และแท้จริงแล้วพ่อแม่ต้องเป็นต้นแบบ วิธีนี้ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญเลย เพราะลูกนั้นเป็นเหมือนกระจกสะท้อนของพ่อแม่ ถ้าลูกกินข้าวกับพ่อแม่เป็นประจำ แล้วในแต่ละมื้อของพ่อแม่ มีผักอยู่ด้วย ลูกก็จะซึมซับมาเป็นเหมือนเรื่องธรรมดา แต่ถ้าพ่อแม่ไม่กินผัก หรือ ชอบสั่งเมนูเด็กพิเศษ ไม่ผัก ไม่ใส่นั่น ไม่ใส่นี่ เวลาออกไปกินข้าวนอกบ้าน ก็จะเป็นการสร้างนิสัยกินยาก ไม่กินผักให้ลูกไปโดยไม่รู้ตัว
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง เราขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น
ปลาเค็มคุณภาพดีอย่างเช่นปลากุเลาเค็มเป็นทางเลือกที่ดีของเมนูนี้ แต่ถ้าหาไม่ได้ก็ใช้ปลาอินทรีย์เค็มได้เช่นกัน เลือกเจ้าที่สะอาด เค็มไม่มาก นำมาใช้ให้ล้างน้ำสักรอบหนึ่ง ซับให้แห้ง แล้วนำไปอบให้เนื้อปลาสุก แกะเอาแต่เนื้อปลาไว้ มีหลักอยู่ว่าได้ปลาเค็มเท่าไหร่ใส่หมูสับไปอีกเท่าตัว นำหมูสับกับปลาเค็มมาคั่วจนสุกแห้ง นำไปโขลกให้ละเอียดจนเนื้อปลาและหมูสับเป็นปุยๆ ใส่ลงกระทะไปคั่วอีกครั้งกับเครื่องปรุงได้แก่ ผงสามเกลอ (รากผักชี กระเทียม พริกไทย) และน้ำตาลทรายเอาไว้ตัดเค็ม หายร้อนแล้วเก็บใส่ขวดเข้าตู้เย็น เก็บไว้กินคลุกกับข้าวสวยร้อนๆ บีบมะนาวใส่หอมแดง พริกซอย รับรองอร่อยถูกใจ
โมโม่ (momo) เกี๊ยวนึ่งสอดไส้ อาหารจานเด็ดของชาวเนปาล กินเป็นอาหารว่างหรืออาหารจานหลัก รูปลักษณ์ของโมโม่คล้ายเสี่ยวเหลาเปาหรือติ่มซำของจีน ตัวไส้มีการปรุงคล้ายไส้เกี๊ยวซ่า มีทั้งไส้ผักล้วน ไส้ผักผสมชีสและไส้เนื้อสัตว์บดผสมผัก ในไทยจะเจอเนื้อไก่ หมู แกะ ส่วนออริจินอลจะเป็นเนื้อควายหรือเนื้อจามารี เสิร์ฟได้หลายเเบบทั้งเเบบนึ่ง ทอด ราดน้ำแกงเเละเกี๊ยวน้ำ สูตรนี้เป็น โจล โมโม่ (Jhol momo) เกี๊ยวนึ่งสอดไส้ไก่เเละผัก เนื้อชุ่มฉ่ำ ราดด้วยน้ำแกงข้นๆ หอมเครื่องเทศ รสเปรี้ยว หวาน มัน
ข้าวผัดคะน้าปลาเค็ม เป็นเมนูที่มีกลิ่นหอมหวลชวนน้ำลายสอมากๆ ถ้าใครชอบปลาเค็มก็ชอบเลย แต่ถ้าใครไม่ชอบ ก็คงจะเบียดหน้าหนีเลย จริงๆแล้วปลาเค็มเป็นวัฒธรรมการกินสมัยก่อนที่ปลานั้นจะเน่าเสียไว้ คนสมัยก่อนก็อยากจะเก็บปลาไว้กินนานๆ โดยการหมักดองเนื้อปลาด้วยเกลือ ทำให้อยู่ได้นาน และสามารถนำเอามาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูอีกด้วย
จริงแล้วการที่จะให้เด็กเริ่มกินผัก ควรเริ่มจากผักใบเขียวก่อนตั้งแต่ลูกยังเป็นเบบี๋ เพราะผักใบเขียวมีรสขมกว่า ถ้าลูกยอมกินผักใบเขียวตั้งแต่เล็ก ๆ ก็ทำให้กินผักได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าปล่อยเวลาล่วงเลยจนลูกเริ่มโตขึ้นแล้ว ไม่ยอมกินผัก อาจจะลองเปลี่ยนมาเริ่มด้วยผักรสหวาน ๆ ก่อน เช่น ผักสีส้ม ฟักทอง จะช่วยให้ลูกกินผักได้ง่ายขึ้น เมนูจากซุปวันนี้คือซุปสองสี แค่บอกว่าเป็นซุปจากผัก เด็กน้อยบางคนคือส่ายหัวมาแต่ไกล ผักที่นำมาทักซุปของเราคือฟักทอง เพราะเป็นผักที่กินง่ายมีรสชาติหวาน และยังเสริมด้วยผักโขม ซุปจะมีสีเหลืองจากฟักทองปนเขียวจากผักโขมมีสันที่สวยงาม ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยตามชอบ กินง่าย อร่อยและมีประโยช์น และแท้จริงแล้วพ่อแม่ต้องเป็นต้นแบบ วิธีนี้ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญเลย เพราะลูกนั้นเป็นเหมือนกระจกสะท้อนของพ่อแม่ ถ้าลูกกินข้าวกับพ่อแม่เป็นประจำ แล้วในแต่ละมื้อของพ่อแม่ มีผักอยู่ด้วย ลูกก็จะซึมซับมาเป็นเหมือนเรื่องธรรมดา แต่ถ้าพ่อแม่ไม่กินผัก หรือ ชอบสั่งเมนูเด็กพิเศษ ไม่ผัก ไม่ใส่นั่น ไม่ใส่นี่ เวลาออกไปกินข้าวนอกบ้าน ก็จะเป็นการสร้างนิสัยกินยาก ไม่กินผักให้ลูกไปโดยไม่รู้ตัว
Recommended Videos