เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
2 คน
Level
3
บะหมี่เกี๊ยวแห้งหมูแดง เมนูสุดโปรดของใครหลายคน เส้นบะหมี่เหลืองเหนียวนุ่ม เกี๊ยวลวกชิ้นใหญ่คำโต เสิร์ฟคู่มากับหมูแดงและกวางตุ้งลวก
INGREDIENTS
แผ่นเกี๊ยวกวางตุ้ง
6 แผ่น
บะหมี่กวางตุ้ง(ก้อนละ 45 กรัม)
2 ก้อน
ผักกวางตุ้งหั่นท่อน 1 นิ้ว
40 กรัม
หมูแดงหั่นชิ้น
70 กรัม
น้ำราดหมูแดง
½ ถ้วย
น้ำมันกระเทียมเจียวปริมาณเล็กน้อยสำหรับคลุกบะหมี่และเกี๊ยว
กระเทียมเจียว กากหมูสามชั้นเจียวและต้นหอมซอย สำหรับโรย
เครื่องปรุงรสมี น้ำส้มพริกดอง (พริกชี้ฟ้าสีเหลืองหั่นแว่นดองน้ำส้มสายชู) น้ำปลา น้ำคาลทราย พริกป่น ฯลฯ
น้ำซุปกระดูกหมูสำหรับจัดเสิร์ฟ
รากผักชี
1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทยแกะเปลือก
1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยขาวเม็ด
1 ช้อนโต๊ะ
เนื้อหมูสันนอกสับละเอียด
300 กรัม
หมูสามชั้นลอกหนังออกสับละเอียด
200 กรัม
มันหมูแข็งสับละเอียด
80 กรัม
ซีอิ๊วขาว
2 ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร
½ ช้อนชา
น้ำตาลทราย
2 ช้อนชา
แป้งมันสำปะหลัง
2 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมซอย
2 ช้อนโต๊ะ
กระดูกหมูเอียวเล้ง
½ กิโลกรัม
กระดูกหมูคาตัง
½ กิโลกรัม
น้ำ
22 ถ้วย
กระเทียมจีนแกะเปลือก
10 กลีบ
พริกไทยขาวเม็ด
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลกรวด
½ ช้อนโต๊ะ
เกลือสมุทร
1 ช้อนโต๊ะ
METHOD
1. ทำไส้หมูโดยโขลกรากผักชี กระเทียมและพริกไทย จนละเอียด ตักใส่อ่างผสม ใส่หมูสับ หมูสามชั้นสับ มันหมูแข็งสับ ซีอิ๊วขาวเกลือ น้ำตาล แป้งมัน และต้นหอมซอย ใช้มือนวดให้เข้ากัน คลี่แผ่นเกี๊ยว ตักไส้หมูใส่ตรงกลางแผ่นเกี๊ยวประมาณ 1 ช้อนชา พับครึ่งเป็นรูปสามเหลี่ยม แล้วนำปลายแผ่นเกี๊ยวมาทับกันให้ตรงกลางนูน กดริมให้แผ่นเกี๊ยวติดกัน ใส่จาน คลุมด้วยผ้าขาวบางเพื่อไม่ให้แผ่นเกี๊ยวแห้ง ทำจนหมด (ไส้หมูที่เหลือใส่ตู้เย็นไว้)
2. ทำน้ำซุปกระดูกหมูโดยล้างกระดูกหมูเอียวเล้งและกระดูกหมูคาตัง โดยขัดคราบเลือดและสิ่งสกปรกออกจนหมด ล้างให้สะอาดใส่ลงในหม้อน้ำ 6 ถ้วย ยกขึ้นตั้งบนไฟแรงต้มจนน้ำเดือด แค่พอให้กระดูกเริ่มสุก ช้อนฟองทิ้ง ปิดไฟ เทน้ำทิ้ง ล้างกระดูกหมูลวกให้สะอาดอีกครั้ง ใส่ตะแกรงพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ ห่อกระเทียมจีน พริกไทยขาว น้ำตาลกรวดและเกลือ ด้วยผ้าขาวบาง มัดให้แน่น ใส่ลงในหม้อ ใส่น้ำที่เหลือ และกระดูกหมูลวก พักไว้ประมาณ 5 นาที ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางค่อนข้างอ่อน ต้มจนน้ำเดือด ระหว่างต้มหมั่นช้อนฟองทิ้งเพื่อให้น้ำซุปใส พอเดือดลดเป็นไฟอ่อนเคี่ยวนานประมาณ 1-2 ชั่วโมง จนมีรสหวานหอมจากกระดูกหมู เมื่อต้มน้ำซุปจนได้ที่แล้ว ตักกระดูกหมูเอียวเล้งขึ้นไว้สำหรับรับประทานกับบะหมี่เกี๊ยว กรองน้ำซุปด้วยกระชอนหรือผ้าขาวบางเก็บไว้
3. ลวกบะหมี่ในหม้อน้ำเดือดพอสุก นำขึ้นสะบัดน้ำให้แห้ง ใส่ชาม คลุกน้ำมันกระเทียมเจียว นำเกี๊ยวลงลวกพอสุก ตักขึ้นใส่ชามบะหมี่ คลุกน้ำมันกระเทียมเจียวอีกครั้งเพื่อไม่ให้บะหมี่และตัวเกี๊ยวจับกันเป็นก้อนใส่ผัก กวางตุ้ง ลงลวกพอสุก ใส่ลงในชามบะหมี่วางหมูแดง ราดน้ำหมูแดงปริมาณตามชอบโรยกระเทียมเจียว กากหมู และต้นหอมเสิร์ฟกับเครื่องปรุงรสและน้ำซุปพร้อมกระดูกหมู
Recommended Articles

เมนูที่ได้เเรงบันดาลใจจากร้านอาหารชื่อดัง เส้นใหญ่นุ่มๆที่เสิร์ฟพร้อมหมูสับปรุงรส ผักกาดแก้วเเละเครื่องเคียงต่างๆ วิธีกินคล้ายเมี่ยง วางเส้นใหญ่บนใบผักกาดแก้ว ตักหมูสับปรุงรสใส่ ตามด้วยพริก กระเทียม เพื่อเพิ่มรสชาติ ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน กินเข้ากันสุดๆ เป็นเมนูที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยรายละเอียดของรสชาติและสัมผัสที่ลงตัว

ตอนรับวันตรุษจีนด้วยเมนูมงคลจากผักมงคลอย่างหัวไชเท้า ซึ่งความหมายคำว่าไช พ้องเสียงในภาษาจีนแปลงว่าโชคลาภ ซึ่งเมื่อถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนก็จะมีเมนูที่ทำจากหัวไชเท้าขึ้นโต๊ะอาหารเป็นประจำ อย่างสูตรนี้เป็นเมนู "หัวไช้เท้าผัดกุ้งแห้ง" ที่นำเอาหัวไชเท้าซอยเป็นเส้นแล้วนำมาเคล้ากับเกลือทิ้งไว้สักพักค่อยล้างน้ำออก การทำแบบนี้เป็นการทำให้หัวไชเท้าไม่เผ็ดซ่าจนเกินไป จากนั้นนำมาผัดกับกุ้งแห้งปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และพริกไทย

เมนูอาหารสไตล์จีนเลือกใช้เนื้อวัวส่วนสะโพกมาหั่นเป็นเต๋าจากนั้นนำมาหมักกับเครื่องปรุงอย่างเกลือ พริกไทย พักไว้ ก่อนจะนำไปทอดโดยก่อนทอดจะเคล้าเนื้อวัวกับแป้งสาลีให้ทั่วบางๆ แล้วนำไปทอด ก่อนจะนำมาผัดกับหอมใหญ่และกระเทียม ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศที่เตรียมไว้ ใส่แป้งมันละลายเล็กน้อยเพื่อให้ตัวซอสข้นขึ้น ราดไปบนเส้นบะหมี่ที่ลวกเตรียมไว้ เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูง่ายๆไว้กินแล้ว

เมนูนึ่งบ๊วยมักนิยมนำเนื้อปลามาทำเป็นส่วนใหญ่ อย่างสูตรนี้เลือกใช้ปลากุเลาขนาดตัวไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป นำมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย เตรียมพร้อมที่จะนำไปนึ่ง ผสมเครื่องนึ่งอย่างเนื้อหมู บ๊วยดอง ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย น้ำบ๊วย และน้ำซุป นำเนื้อปลาไปนึ่งก่อนประมาณ 10 นาที ก่อนจะราดด้วยเครื่องที่ผสมตามด้วยเห็ด ขิงอ่อน ขึ้นฉ่าย และพริกชี้ฟ้า นึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที จนส่วนผสมสุกทั่วเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เมนูทานเล่นที่รับประกันว่าอร่อยโดยใจคนชอบกินหัวไช้เท้าแน่นอน หากใครเป็นสาวกขนมผักกาดอยู่แล้วต้องไม่พลาดเมนูนี้อีกเมนูเป็นแน่ อย่างเมนู "หัวไช้เท้านึ่งทรงเครื่อง" เป็นการผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และหัวไช้เท้าขูดมาผสมกันปรุงรสด้วยเกลือและซีอิ้วขาว ใส่กุ้งแห้ง เห็ดหอม ถั่วลิสงต้ม จากนั้นตักใส่ถ้วยก่อนนำไปนึ่งให้สุกกินคู่กับจิ๊กโฉ่

เส้นสปาเกตตีต้มสุกกำลังพอดี นำไปผัดกับซอสมะเขือเทศใส่พริกหวานเหลือง แดง และไส้กรอก พร้อมด้วยหอมใหญ่และเนย ผัดให้เข้ากันจนหอม โรยด้วยพาร์มีซานชีสเล็กน้อย สปาเกตตีสูตรนี้ได้รับกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นเข้ามาทั้งรสชาติและวัตถุดิบที่ใช้ จึงทำให้เข้าถึงง่าย เหมาะกับหนูๆทั้งหลาย

เส้นลิงกุยเน่นำไปลวกให้สุกกำลังพอดี อย่างที่คำเรียกว่า "อัลเดนเต้ (Al Dente)" คือระดับความสุกของเส้นที่กำลังพอดี เคล้าน้ำมันให้เส้นเคลือบน้ำมันจนทั่ว ส่วนตัวซอสที่ราดนั้นใช้มะเขือเทศกระป๋องมาทำโดยการผัดหอมใหญ่ให้สุกใส่แล้วใส่มะเขือเทศกระป๋องลงผัด เคี่ยวให้นุ่ม ปรุงรสด้วย ซอสมะเขือเทศ เกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ได้ตัวซอสแล้ว ส่วนตัวหอยก็นำไปผัดกับกระเทียม ใส่สาเกและน้ำสต๊อกดาชิเพื่อเพิ่มความหอมหวาน จากนั้นก็ตักซอสมะเขือเทศลงผัดให้เคลือบตัวหอยจนทั่ว ก่อนนำมาราดเสิร์ฟบนเส้นลิงกุยเน่ที่เตรียมไว้

หากใครอยากกินกระเพาะปลาแต่ติดที่ว่าเป็นมังสวิรัติอยู่ แล้วละก็ สูตรนี้ช่วยคุณได้ กระเพาะปลาสมุนไพร ที่เลือกใช้เยื่อไผ่แทนกระเพาะปลาจริงๆมาทำ ใส่เครื่องสมุนไพรมากมายไม่ว่าจะเป็นลำไยแห้ง พุทราจีน แปะก้วย ให้หวานหอม แถมด้วยเห็ดอีกมากมายที่ใส่ลงใน กระเพาะปลาหม้อนี้ บอกได้คำเดียวว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้กระเพาะปลาจริงๆแน่นอน

เมนูที่ได้เเรงบันดาลใจจากร้านอาหารชื่อดัง เส้นใหญ่นุ่มๆที่เสิร์ฟพร้อมหมูสับปรุงรส ผักกาดแก้วเเละเครื่องเคียงต่างๆ วิธีกินคล้ายเมี่ยง วางเส้นใหญ่บนใบผักกาดแก้ว ตักหมูสับปรุงรสใส่ ตามด้วยพริก กระเทียม เพื่อเพิ่มรสชาติ ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน กินเข้ากันสุดๆ เป็นเมนูที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยรายละเอียดของรสชาติและสัมผัสที่ลงตัว

ตอนรับวันตรุษจีนด้วยเมนูมงคลจากผักมงคลอย่างหัวไชเท้า ซึ่งความหมายคำว่าไช พ้องเสียงในภาษาจีนแปลงว่าโชคลาภ ซึ่งเมื่อถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนก็จะมีเมนูที่ทำจากหัวไชเท้าขึ้นโต๊ะอาหารเป็นประจำ อย่างสูตรนี้เป็นเมนู "หัวไช้เท้าผัดกุ้งแห้ง" ที่นำเอาหัวไชเท้าซอยเป็นเส้นแล้วนำมาเคล้ากับเกลือทิ้งไว้สักพักค่อยล้างน้ำออก การทำแบบนี้เป็นการทำให้หัวไชเท้าไม่เผ็ดซ่าจนเกินไป จากนั้นนำมาผัดกับกุ้งแห้งปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และพริกไทย

เมนูอาหารสไตล์จีนเลือกใช้เนื้อวัวส่วนสะโพกมาหั่นเป็นเต๋าจากนั้นนำมาหมักกับเครื่องปรุงอย่างเกลือ พริกไทย พักไว้ ก่อนจะนำไปทอดโดยก่อนทอดจะเคล้าเนื้อวัวกับแป้งสาลีให้ทั่วบางๆ แล้วนำไปทอด ก่อนจะนำมาผัดกับหอมใหญ่และกระเทียม ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศที่เตรียมไว้ ใส่แป้งมันละลายเล็กน้อยเพื่อให้ตัวซอสข้นขึ้น ราดไปบนเส้นบะหมี่ที่ลวกเตรียมไว้ เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูง่ายๆไว้กินแล้ว

เมนูนึ่งบ๊วยมักนิยมนำเนื้อปลามาทำเป็นส่วนใหญ่ อย่างสูตรนี้เลือกใช้ปลากุเลาขนาดตัวไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป นำมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย เตรียมพร้อมที่จะนำไปนึ่ง ผสมเครื่องนึ่งอย่างเนื้อหมู บ๊วยดอง ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย น้ำบ๊วย และน้ำซุป นำเนื้อปลาไปนึ่งก่อนประมาณ 10 นาที ก่อนจะราดด้วยเครื่องที่ผสมตามด้วยเห็ด ขิงอ่อน ขึ้นฉ่าย และพริกชี้ฟ้า นึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที จนส่วนผสมสุกทั่วเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เมนูทานเล่นที่รับประกันว่าอร่อยโดยใจคนชอบกินหัวไช้เท้าแน่นอน หากใครเป็นสาวกขนมผักกาดอยู่แล้วต้องไม่พลาดเมนูนี้อีกเมนูเป็นแน่ อย่างเมนู "หัวไช้เท้านึ่งทรงเครื่อง" เป็นการผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และหัวไช้เท้าขูดมาผสมกันปรุงรสด้วยเกลือและซีอิ้วขาว ใส่กุ้งแห้ง เห็ดหอม ถั่วลิสงต้ม จากนั้นตักใส่ถ้วยก่อนนำไปนึ่งให้สุกกินคู่กับจิ๊กโฉ่

เส้นสปาเกตตีต้มสุกกำลังพอดี นำไปผัดกับซอสมะเขือเทศใส่พริกหวานเหลือง แดง และไส้กรอก พร้อมด้วยหอมใหญ่และเนย ผัดให้เข้ากันจนหอม โรยด้วยพาร์มีซานชีสเล็กน้อย สปาเกตตีสูตรนี้ได้รับกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นเข้ามาทั้งรสชาติและวัตถุดิบที่ใช้ จึงทำให้เข้าถึงง่าย เหมาะกับหนูๆทั้งหลาย

เส้นลิงกุยเน่นำไปลวกให้สุกกำลังพอดี อย่างที่คำเรียกว่า "อัลเดนเต้ (Al Dente)" คือระดับความสุกของเส้นที่กำลังพอดี เคล้าน้ำมันให้เส้นเคลือบน้ำมันจนทั่ว ส่วนตัวซอสที่ราดนั้นใช้มะเขือเทศกระป๋องมาทำโดยการผัดหอมใหญ่ให้สุกใส่แล้วใส่มะเขือเทศกระป๋องลงผัด เคี่ยวให้นุ่ม ปรุงรสด้วย ซอสมะเขือเทศ เกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ได้ตัวซอสแล้ว ส่วนตัวหอยก็นำไปผัดกับกระเทียม ใส่สาเกและน้ำสต๊อกดาชิเพื่อเพิ่มความหอมหวาน จากนั้นก็ตักซอสมะเขือเทศลงผัดให้เคลือบตัวหอยจนทั่ว ก่อนนำมาราดเสิร์ฟบนเส้นลิงกุยเน่ที่เตรียมไว้

หากใครอยากกินกระเพาะปลาแต่ติดที่ว่าเป็นมังสวิรัติอยู่ แล้วละก็ สูตรนี้ช่วยคุณได้ กระเพาะปลาสมุนไพร ที่เลือกใช้เยื่อไผ่แทนกระเพาะปลาจริงๆมาทำ ใส่เครื่องสมุนไพรมากมายไม่ว่าจะเป็นลำไยแห้ง พุทราจีน แปะก้วย ให้หวานหอม แถมด้วยเห็ดอีกมากมายที่ใส่ลงใน กระเพาะปลาหม้อนี้ บอกได้คำเดียวว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้กระเพาะปลาจริงๆแน่นอน

เมนูที่ได้เเรงบันดาลใจจากร้านอาหารชื่อดัง เส้นใหญ่นุ่มๆที่เสิร์ฟพร้อมหมูสับปรุงรส ผักกาดแก้วเเละเครื่องเคียงต่างๆ วิธีกินคล้ายเมี่ยง วางเส้นใหญ่บนใบผักกาดแก้ว ตักหมูสับปรุงรสใส่ ตามด้วยพริก กระเทียม เพื่อเพิ่มรสชาติ ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน กินเข้ากันสุดๆ เป็นเมนูที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยรายละเอียดของรสชาติและสัมผัสที่ลงตัว

ตอนรับวันตรุษจีนด้วยเมนูมงคลจากผักมงคลอย่างหัวไชเท้า ซึ่งความหมายคำว่าไช พ้องเสียงในภาษาจีนแปลงว่าโชคลาภ ซึ่งเมื่อถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนก็จะมีเมนูที่ทำจากหัวไชเท้าขึ้นโต๊ะอาหารเป็นประจำ อย่างสูตรนี้เป็นเมนู "หัวไช้เท้าผัดกุ้งแห้ง" ที่นำเอาหัวไชเท้าซอยเป็นเส้นแล้วนำมาเคล้ากับเกลือทิ้งไว้สักพักค่อยล้างน้ำออก การทำแบบนี้เป็นการทำให้หัวไชเท้าไม่เผ็ดซ่าจนเกินไป จากนั้นนำมาผัดกับกุ้งแห้งปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และพริกไทย

เมนูอาหารสไตล์จีนเลือกใช้เนื้อวัวส่วนสะโพกมาหั่นเป็นเต๋าจากนั้นนำมาหมักกับเครื่องปรุงอย่างเกลือ พริกไทย พักไว้ ก่อนจะนำไปทอดโดยก่อนทอดจะเคล้าเนื้อวัวกับแป้งสาลีให้ทั่วบางๆ แล้วนำไปทอด ก่อนจะนำมาผัดกับหอมใหญ่และกระเทียม ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศที่เตรียมไว้ ใส่แป้งมันละลายเล็กน้อยเพื่อให้ตัวซอสข้นขึ้น ราดไปบนเส้นบะหมี่ที่ลวกเตรียมไว้ เพียงเท่านี้ก็ได้เมนูง่ายๆไว้กินแล้ว

เมนูนึ่งบ๊วยมักนิยมนำเนื้อปลามาทำเป็นส่วนใหญ่ อย่างสูตรนี้เลือกใช้ปลากุเลาขนาดตัวไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป นำมาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย เตรียมพร้อมที่จะนำไปนึ่ง ผสมเครื่องนึ่งอย่างเนื้อหมู บ๊วยดอง ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย น้ำบ๊วย และน้ำซุป นำเนื้อปลาไปนึ่งก่อนประมาณ 10 นาที ก่อนจะราดด้วยเครื่องที่ผสมตามด้วยเห็ด ขิงอ่อน ขึ้นฉ่าย และพริกชี้ฟ้า นึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที จนส่วนผสมสุกทั่วเป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เมนูทานเล่นที่รับประกันว่าอร่อยโดยใจคนชอบกินหัวไช้เท้าแน่นอน หากใครเป็นสาวกขนมผักกาดอยู่แล้วต้องไม่พลาดเมนูนี้อีกเมนูเป็นแน่ อย่างเมนู "หัวไช้เท้านึ่งทรงเครื่อง" เป็นการผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน และหัวไช้เท้าขูดมาผสมกันปรุงรสด้วยเกลือและซีอิ้วขาว ใส่กุ้งแห้ง เห็ดหอม ถั่วลิสงต้ม จากนั้นตักใส่ถ้วยก่อนนำไปนึ่งให้สุกกินคู่กับจิ๊กโฉ่

เส้นสปาเกตตีต้มสุกกำลังพอดี นำไปผัดกับซอสมะเขือเทศใส่พริกหวานเหลือง แดง และไส้กรอก พร้อมด้วยหอมใหญ่และเนย ผัดให้เข้ากันจนหอม โรยด้วยพาร์มีซานชีสเล็กน้อย สปาเกตตีสูตรนี้ได้รับกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นเข้ามาทั้งรสชาติและวัตถุดิบที่ใช้ จึงทำให้เข้าถึงง่าย เหมาะกับหนูๆทั้งหลาย

เส้นลิงกุยเน่นำไปลวกให้สุกกำลังพอดี อย่างที่คำเรียกว่า "อัลเดนเต้ (Al Dente)" คือระดับความสุกของเส้นที่กำลังพอดี เคล้าน้ำมันให้เส้นเคลือบน้ำมันจนทั่ว ส่วนตัวซอสที่ราดนั้นใช้มะเขือเทศกระป๋องมาทำโดยการผัดหอมใหญ่ให้สุกใส่แล้วใส่มะเขือเทศกระป๋องลงผัด เคี่ยวให้นุ่ม ปรุงรสด้วย ซอสมะเขือเทศ เกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ได้ตัวซอสแล้ว ส่วนตัวหอยก็นำไปผัดกับกระเทียม ใส่สาเกและน้ำสต๊อกดาชิเพื่อเพิ่มความหอมหวาน จากนั้นก็ตักซอสมะเขือเทศลงผัดให้เคลือบตัวหอยจนทั่ว ก่อนนำมาราดเสิร์ฟบนเส้นลิงกุยเน่ที่เตรียมไว้

หากใครอยากกินกระเพาะปลาแต่ติดที่ว่าเป็นมังสวิรัติอยู่ แล้วละก็ สูตรนี้ช่วยคุณได้ กระเพาะปลาสมุนไพร ที่เลือกใช้เยื่อไผ่แทนกระเพาะปลาจริงๆมาทำ ใส่เครื่องสมุนไพรมากมายไม่ว่าจะเป็นลำไยแห้ง พุทราจีน แปะก้วย ให้หวานหอม แถมด้วยเห็ดอีกมากมายที่ใส่ลงใน กระเพาะปลาหม้อนี้ บอกได้คำเดียวว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้กระเพาะปลาจริงๆแน่นอน
Recommended Videos