เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
1-2 คน
Level
2
ของว่าง ทำง่าย กินเพลินสำหรับสายมังสวิรัติ นำเอาเทมเป้มาหั่นเป็นชิ้นบางๆ ย่างให้เกรียมนิดๆ ทาเคลือบด้วยซอสบาร์บีคิวรสเปรี้ยวหวานลงตัวเป็นเมนูที่น่าลองมาก
INGREDIENTS
เทมเป้ (ชิ้นละ 150 กรัม )
1 ชิ้น
น้ำมันมะกอกสำหรับย่าง
พาร์สเลย์สับสำหรับโรย
ซอสมะเขือเทศ
1/3 ถ้วย
น้ำตาลทรายแดง
1 ช้อนโต๊ะ
ดิจองมัสตาร์ด
1 ½ ช้อนชา
ซอสทาบัสโก้
1 ช้อนชา
พริกคาเยน
½ ช้อนชา
เกลือสมุทร
¼ ช้อนชา
METHOD
1. ทำซอสบาร์บีคิวโดยผสมซอสมะเขือเทศ น้ำตาลทรายแดง ดิจองมัสตาร์ด ซอสทาบัสโก้ พริกคาเยนและเกลือสมุทรเข้าด้วยกัน พักไว้
2. หั่นเทมเป้ตามขวางเป็นชิ้นหนาประมาณ 0.5 ซม. เตรียมไว้
3. ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อย พอร้อน วางเทมเป้ลงย่างให้พอสีเกรียมสวย ย่างจนครบทั้งสองด้าน ทาซอสบาร์บีคิวให้ทั่ว ย่างต่อจนซอสเคลือบชิ้นเทมเป้ดี
4. คีบเทมเป้ใส่จาน โรยด้วยพาร์สเลย์สับ เสิร์ฟ
Recommended Articles
ใครชอบกินเมนูติ๋มซำแบบนึ่ง นึ่ง ตุ๋น ตุ๋น แล้วละก็ต้องไม่พลาดเมนูนี้เป็นแน่ ไส้กุ้งที่ผสมทั้งเนื้อกุ้ง เนื้อหมู มันหมู ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่างๆ ใส่แป้งมันเพื่อให้ตัวไส้เกาะตัวกัน ใส่น้ำมันงาลงไปเล็กน้อยเพิ่มความหอม นวดเคล้าให้ส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง นำไปใส่ในพิมพ์หรือภาชนะสี่เหลี่ยม ทาน้ำมันลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำไปนึ่งให้สุกแล้วตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม นำไข่ที่ทอดเป็นแผ่นมาห่อ เสิร์ฟกับน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่
ขนมเทียนบ้านเชฟน่าน เป็นอาหารสัญชาติไหนก็ยากจะบอกได้ แต่รูปลักษณ์คล้ายกับขนมเทียนไหว้เจ้าของชาวจีน เป็นรูปสามเหลี่ยมปีระมิด ใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นหลักมีผสมแป้งข้าวเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไส้ด้านในเป็นไส้คาว คือ หมูสับผัดกับกุ้งแห้ง เห็ดหูหนูดำ และต้นหอม กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ค่อนข้างซับซ้อน มีขั้นตอนในการทำมาก ดังนั้นจึงได้กินเมนูนี้ก็ในช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่มีวาระรวมญาติๆ มาล้อมวงช่วยกันปั้นขนมเทียน
อาหารว่างโบราณที่นับว่าหากินอยากอีกชนิดหนึ่งคือกระทงทอง นับวันจะยิ่งไม่ค่อยนิยมทำตามร้านอาหารเพราะต้องละเมียดในการทอดกระทงทีละชิ้น ทีละคำเพื่อใส่ไส้ อีกทั้งจะทอดทิ้งไว้ก็กลัวจะไม่อร่อย กระทงทองจึงเป็นอาหารที่นิยมทำกินเองที่บ้านหรือแจกจ่ายให้เพื่อนสนิทมิตรสหายรักเสียมากกว่า เมื่อได้แป้งกระทงทองที่กรอบบาง ไม่อมน้ำมันแล้ว ไส้กระทงทองก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ เช่น ไส้ยำส้มโอ ไส้เมี่ยงลาว ไส้ปู ไส้ซอสขาว
ใครชอบกินเมนูติ๋มซำแบบนึ่ง นึ่ง ตุ๋น ตุ๋น แล้วละก็ต้องไม่พลาดเมนูนี้เป็นแน่ ไส้กุ้งที่ผสมทั้งเนื้อกุ้ง เนื้อหมู มันหมู ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่างๆ ใส่แป้งมันเพื่อให้ตัวไส้เกาะตัวกัน ใส่น้ำมันงาลงไปเล็กน้อยเพิ่มความหอม นวดเคล้าให้ส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง นำไปใส่ในพิมพ์หรือภาชนะสี่เหลี่ยม ทาน้ำมันลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำไปนึ่งให้สุกแล้วตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม นำไข่ที่ทอดเป็นแผ่นมาห่อ เสิร์ฟกับน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่
ขนมเทียนบ้านเชฟน่าน เป็นอาหารสัญชาติไหนก็ยากจะบอกได้ แต่รูปลักษณ์คล้ายกับขนมเทียนไหว้เจ้าของชาวจีน เป็นรูปสามเหลี่ยมปีระมิด ใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นหลักมีผสมแป้งข้าวเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไส้ด้านในเป็นไส้คาว คือ หมูสับผัดกับกุ้งแห้ง เห็ดหูหนูดำ และต้นหอม กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ค่อนข้างซับซ้อน มีขั้นตอนในการทำมาก ดังนั้นจึงได้กินเมนูนี้ก็ในช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่มีวาระรวมญาติๆ มาล้อมวงช่วยกันปั้นขนมเทียน
อาหารว่างโบราณที่นับว่าหากินอยากอีกชนิดหนึ่งคือกระทงทอง นับวันจะยิ่งไม่ค่อยนิยมทำตามร้านอาหารเพราะต้องละเมียดในการทอดกระทงทีละชิ้น ทีละคำเพื่อใส่ไส้ อีกทั้งจะทอดทิ้งไว้ก็กลัวจะไม่อร่อย กระทงทองจึงเป็นอาหารที่นิยมทำกินเองที่บ้านหรือแจกจ่ายให้เพื่อนสนิทมิตรสหายรักเสียมากกว่า เมื่อได้แป้งกระทงทองที่กรอบบาง ไม่อมน้ำมันแล้ว ไส้กระทงทองก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ เช่น ไส้ยำส้มโอ ไส้เมี่ยงลาว ไส้ปู ไส้ซอสขาว
ใครชอบกินเมนูติ๋มซำแบบนึ่ง นึ่ง ตุ๋น ตุ๋น แล้วละก็ต้องไม่พลาดเมนูนี้เป็นแน่ ไส้กุ้งที่ผสมทั้งเนื้อกุ้ง เนื้อหมู มันหมู ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่างๆ ใส่แป้งมันเพื่อให้ตัวไส้เกาะตัวกัน ใส่น้ำมันงาลงไปเล็กน้อยเพิ่มความหอม นวดเคล้าให้ส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง นำไปใส่ในพิมพ์หรือภาชนะสี่เหลี่ยม ทาน้ำมันลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำไปนึ่งให้สุกแล้วตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม นำไข่ที่ทอดเป็นแผ่นมาห่อ เสิร์ฟกับน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่
ขนมเทียนบ้านเชฟน่าน เป็นอาหารสัญชาติไหนก็ยากจะบอกได้ แต่รูปลักษณ์คล้ายกับขนมเทียนไหว้เจ้าของชาวจีน เป็นรูปสามเหลี่ยมปีระมิด ใช้แป้งข้าวเหนียวเป็นหลักมีผสมแป้งข้าวเจ้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไส้ด้านในเป็นไส้คาว คือ หมูสับผัดกับกุ้งแห้ง เห็ดหูหนูดำ และต้นหอม กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน เป็นเมนูที่ค่อนข้างซับซ้อน มีขั้นตอนในการทำมาก ดังนั้นจึงได้กินเมนูนี้ก็ในช่วงเวลาพิเศษจริง ๆ เช่น สงกรานต์ หรือ ปีใหม่ ที่มีวาระรวมญาติๆ มาล้อมวงช่วยกันปั้นขนมเทียน
อาหารว่างโบราณที่นับว่าหากินอยากอีกชนิดหนึ่งคือกระทงทอง นับวันจะยิ่งไม่ค่อยนิยมทำตามร้านอาหารเพราะต้องละเมียดในการทอดกระทงทีละชิ้น ทีละคำเพื่อใส่ไส้ อีกทั้งจะทอดทิ้งไว้ก็กลัวจะไม่อร่อย กระทงทองจึงเป็นอาหารที่นิยมทำกินเองที่บ้านหรือแจกจ่ายให้เพื่อนสนิทมิตรสหายรักเสียมากกว่า เมื่อได้แป้งกระทงทองที่กรอบบาง ไม่อมน้ำมันแล้ว ไส้กระทงทองก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ เช่น ไส้ยำส้มโอ ไส้เมี่ยงลาว ไส้ปู ไส้ซอสขาว
Recommended Videos