เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
4-5 คน
Level
3
พะโล้ไข่หนึบสูตรเข้มข้นคลั่กนัวเข้าเนื้อ รสชาติกลมกล่อมลงตัว ที่ใช้เวลาตุ๋นเเค่ 2 ชั่วโมงไม่ต้องรอตุ๋นนานเป็นวันๆ เคล็ดลับอยู่ที่การเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าวจนได้เป็นสีน้ำตาลเข้มเเละปริมาณหมูสามชั้นที่เยอะจะช่วยให้พะโล้มีความกลมกล่อมอูมามิเหมือนเคี่ยวมาหลายวัน พร้อมไข่พะโล้เนื้อหนึบเด้ง ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ฟินอย่าบอกใคร
INGREDIENTS
ไข่เป็ด
10 ฟอง
ซีอิ๊วดำหวาน
1 ช้อนโต๊ะ
รากผักชี
10 ราก
กระเทียมกลีบเล็กแกะเปลือก
2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำเม็ด
2 ช้อนชา
น้ำมันพืช
3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลมะพร้าว
½ ถ้วย
อบเชยแท่ง ยาว 3 นิ้ว
2 แท่ง
โป๊ยกั๊ก
3 ดอก
หมูสามชั้นหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาด 2*2 นิ้ว
700 กรัม
น้ำ
1.5 ลิตร
เกลือสมุทร
1 ช้อนชา
ผงพะโล้
1 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว
1/3 ถ้วย
น้ำปลา
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย
2 ช้อนโต๊ะ
METHOD
- ต้มไข่โดยใส่ไข่เป็ดและน้ำลงในหม้อ ยกหม้อตั้งบนไฟกลาง พอเดือด จับเวลา 5 นาที เมื่อครบเวลา ตักไข่ขึ้นแช่ในน้ำเย็นจัด ปอกเปลือกออกจนหมด เคล้าไข่กับซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนชาให้ทั่วและสีสม่ำเสมอกัน เตรียมไว้
- โขลกรากผักชี กระเทียมและพริกไทยดำให้พอแหลก เตรียมไว้
- ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืช พอเริ่มร้อน ใส่สามเกลอที่โขลกไว้ลงผัดจนหอม ตามด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนน้ำตาลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม ใส่อบเชยและโป๊ยกั๊ก ผัดจนหอม ใส่หมูสามชั้น ผัดจนสุกและน้ำตาลรัดชิ้นหมู เติมน้ำลงในกระทะให้พอท่วมหมู คนให้น้ำตาลละลายดี จากนั้นเทใส่หม้ออีกใบ ตามด้วยน้ำที่เหลือ ยกหม้อตั้งบนไฟกลาง พอเดือด ช้อนฟองออก ปรุงรสด้วยเกลือสมุทร ผงพะโล้ ซีอิ๊วขาว น้ำปลา ซีอิ๊วดำที่เหลือและน้ำมันหอย ใส่ไข่เป็ด ลดเป็นไฟอ่อน ปิดฝาแง้มๆ เคี่ยวนานประมาณ 2 ชั่วโมงจนน้ำพะโล้งวดและสีไข่เข้มขึ้น
- ตักไข่พะโล้ใส่ชาม เสิร์ฟ
Gallery








Recommended Articles

ใช้น่องไก่ส่วนสะโพกมาหมักกับตะไคร้เเละเครื่องสมุนไพรต่างๆที่ให้กลิ่นหอมเฉพาะตัวและรสชาติกลมกล่อม เมื่อนำไปทอดจนหนังกรอบนอก เนื้อในนุ่มฉ่ำ ได้รสชาติเค็มๆ มันๆ หอมกลิ่นตะไคร้และเครื่องเทศไทยเต็มๆ เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของความกรอบนอกนุ่มในและความหอมสดชื่นของสมุนไพรไทยแท้ๆ เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว จะทานเป็นกับข้าวกับข้าวสวยร้อนๆ หรือทานเล่นเป็นของว่างก็อร่อยลงตัว

แกงคั่วสับปะรดเค็มหวานมันเปรี้ยวกลมกล่อมด้วยรสสับปะรดและกระดูกหมูที่เคี่ยวจนเปื่อยได้ที่ เลือกใช้พริกแกงคั่วต่างจากพริกแกงเผ็ดตรงที่ไม่มีเครื่องเทศ ผัดพริกแกงคั่วกับหัวกะทิจนหอมให้แตกมันเล็กน้อย หลังจากนั้นใส่กระดูกหมูที่เคี่ยวกับหางกะทิจนเปื่อยแล้วลงไปเคี่ยวพร้อมกันสับปะรดที่หั่นพอดีคำ ที่สำคัญชิมปรับรสตอนที่กระดูกหมูยุ่ยได้ที่แล้ว เพราะน้ำสับปะรดที่ออกมามากน้อยไม่เท่ากันแต่ละครั้งที่เราชิม

"ข้าวขยำกากหมู" ที่อร่อยจนลืมอิ่ม! สูตรข้าวคลุกกากหมู ที่มีพระเอกเป็นกากหมูกรอบๆ เคี้ยวเสียงดังกร๊วบ คลุกกับข้าวสวยร้อนๆ ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล บีบมะนาวตัดเลี่ยนเล็กน้อย กินคู่กับผักเคียงหลายๆอย่าง เป็นความอร่อยง่ายๆ แต่สมบูรณ์แบบในทุกคำที่ตักเข้าปาก ใครได้ลองก็ต้องติดใจในรสชาติสุดคลาสสิกนี้

ใช้น่องไก่ส่วนสะโพกมาหมักกับตะไคร้เเละเครื่องสมุนไพรต่างๆที่ให้กลิ่นหอมเฉพาะตัวและรสชาติกลมกล่อม เมื่อนำไปทอดจนหนังกรอบนอก เนื้อในนุ่มฉ่ำ ได้รสชาติเค็มๆ มันๆ หอมกลิ่นตะไคร้และเครื่องเทศไทยเต็มๆ เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของความกรอบนอกนุ่มในและความหอมสดชื่นของสมุนไพรไทยแท้ๆ เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว จะทานเป็นกับข้าวกับข้าวสวยร้อนๆ หรือทานเล่นเป็นของว่างก็อร่อยลงตัว

แกงคั่วสับปะรดเค็มหวานมันเปรี้ยวกลมกล่อมด้วยรสสับปะรดและกระดูกหมูที่เคี่ยวจนเปื่อยได้ที่ เลือกใช้พริกแกงคั่วต่างจากพริกแกงเผ็ดตรงที่ไม่มีเครื่องเทศ ผัดพริกแกงคั่วกับหัวกะทิจนหอมให้แตกมันเล็กน้อย หลังจากนั้นใส่กระดูกหมูที่เคี่ยวกับหางกะทิจนเปื่อยแล้วลงไปเคี่ยวพร้อมกันสับปะรดที่หั่นพอดีคำ ที่สำคัญชิมปรับรสตอนที่กระดูกหมูยุ่ยได้ที่แล้ว เพราะน้ำสับปะรดที่ออกมามากน้อยไม่เท่ากันแต่ละครั้งที่เราชิม

"ข้าวขยำกากหมู" ที่อร่อยจนลืมอิ่ม! สูตรข้าวคลุกกากหมู ที่มีพระเอกเป็นกากหมูกรอบๆ เคี้ยวเสียงดังกร๊วบ คลุกกับข้าวสวยร้อนๆ ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล บีบมะนาวตัดเลี่ยนเล็กน้อย กินคู่กับผักเคียงหลายๆอย่าง เป็นความอร่อยง่ายๆ แต่สมบูรณ์แบบในทุกคำที่ตักเข้าปาก ใครได้ลองก็ต้องติดใจในรสชาติสุดคลาสสิกนี้

ใช้น่องไก่ส่วนสะโพกมาหมักกับตะไคร้เเละเครื่องสมุนไพรต่างๆที่ให้กลิ่นหอมเฉพาะตัวและรสชาติกลมกล่อม เมื่อนำไปทอดจนหนังกรอบนอก เนื้อในนุ่มฉ่ำ ได้รสชาติเค็มๆ มันๆ หอมกลิ่นตะไคร้และเครื่องเทศไทยเต็มๆ เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของความกรอบนอกนุ่มในและความหอมสดชื่นของสมุนไพรไทยแท้ๆ เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว จะทานเป็นกับข้าวกับข้าวสวยร้อนๆ หรือทานเล่นเป็นของว่างก็อร่อยลงตัว

แกงคั่วสับปะรดเค็มหวานมันเปรี้ยวกลมกล่อมด้วยรสสับปะรดและกระดูกหมูที่เคี่ยวจนเปื่อยได้ที่ เลือกใช้พริกแกงคั่วต่างจากพริกแกงเผ็ดตรงที่ไม่มีเครื่องเทศ ผัดพริกแกงคั่วกับหัวกะทิจนหอมให้แตกมันเล็กน้อย หลังจากนั้นใส่กระดูกหมูที่เคี่ยวกับหางกะทิจนเปื่อยแล้วลงไปเคี่ยวพร้อมกันสับปะรดที่หั่นพอดีคำ ที่สำคัญชิมปรับรสตอนที่กระดูกหมูยุ่ยได้ที่แล้ว เพราะน้ำสับปะรดที่ออกมามากน้อยไม่เท่ากันแต่ละครั้งที่เราชิม

"ข้าวขยำกากหมู" ที่อร่อยจนลืมอิ่ม! สูตรข้าวคลุกกากหมู ที่มีพระเอกเป็นกากหมูกรอบๆ เคี้ยวเสียงดังกร๊วบ คลุกกับข้าวสวยร้อนๆ ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาล บีบมะนาวตัดเลี่ยนเล็กน้อย กินคู่กับผักเคียงหลายๆอย่าง เป็นความอร่อยง่ายๆ แต่สมบูรณ์แบบในทุกคำที่ตักเข้าปาก ใครได้ลองก็ต้องติดใจในรสชาติสุดคลาสสิกนี้
Recommended Videos