เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
3 คน
Level
2
เมนูอาหารไทยสุดอร่อยที่เป็นที่โปรดปรานของใครหลายคน ความกรอบของหมูสามชั้นทอดกับรสชาติกลมกล่อมของน้ำปลา และความแซ่บของน้ำจิ้มแจ่ว เราเลยมีสูตรหมักหมูง่ายๆกับจิ้มแจ่วสูตรแซ่บซี๊ด
INGREDIENTS
หมูสามชั้นหั่นเต๋าใหญ่
400 กรัม
น้ำปลา
2 1/2 ช้อนโต๊ะ
แป้งทอดกรอบ
1/4 ถ้วย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเย็นจัด
1/4 ถ้วย
น้ำตาลทรายขาว
2 ช้อนชา
น้ำมะขามเปียก
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว
1 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น
2 ช้อนชา
ข้าวคั่ว
2 ช้อนชา
หอมแดงซอย
2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีฝรั่งซอย
1 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดซอย
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับทอด
ข้าวเหนียว ผัดสด และแตงกวาหั่นแท่ง สำหรับจัดเสิร์ฟ
METHOD
- หมักหมูสามชั้นโดยใส่หมูลงในอ่างผสม ปรุงรสด้วยน้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ ใส่แป้งทอดกรอบและน้ำลงไป ใช้มือขยำให้แป้งเคลือบหมูทั่วหมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 15-20 นาที
- ระหว่างรอหมักหมู ทำน้ำจิ้มแจ่วโดยผสมน้ำตาล น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาวและน้ำปลาที่เหลือลงในถ้วย คนให้น้ำตาลละลายดี จากนั้นใส่พริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดง ผักชีฝรั่งและใบมะกรูด คนให้เข้ากัน พักไว้
- ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางพอร้อน ใส่หมูสามชั้นที่หมักไว้ลงทอด ช่วงแรกอย่าเพิ่งคนให้แป้งเริ่มเซ็ตตัวก่อน จากนั้นค่อยๆใช้ตะหลิวคนให้สีเหลืองทั่ว ใช้เวลาทอดประมาณ 5-10 นาที (ระหว่างนั้นหมั่นคนเพื่อให้สีหมูทอดสม่ำเสมอ) พอสุกแล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
- จัดใส่ถาด พร้อมน้ำจิ้มแจ่ว ข้าวเหนียวและผักสด
Tags:
Recommended Articles

แกงขาหมูใบมะดันกรุบมะพร้าวตำรับอาหารไทยพื้นบ้านจากชุมชนทรงคนอง จังหวัดนครปฐม สมัยก่อนที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำในแม่น้ำลำคลอง จึงใช้ตะพาบน้ำทำเมนูนี้ ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้ขาหมูติดหนังเนื่องจากมีสัมผัสนุ่มหนึบคล้ายกับเชิงตะพาบน้ำ แต่เดี๋ยวนี้สิ่งที่ยากไปกว่าตะพาบน้ำคือการหากรุบมะพร้าว หรือกะลามะพร้าวอ่อน ซึ่งโดยมากหาได้ตามสวนมะพร้าวเพราะไม่ค่อยมีคนนำมาขาย กะลามะพร้าวอ่อนนำมาผ่าเอาเนื้อมะพร้าวที่ติดกับกะลามาแกง รสชาติกะลาอ่อนจะมันๆฝาดๆ แต่เวลาสุกแล้วความฝาดจะหายไปได้สัมผัสกรุบๆสมชื่อเมนู

เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน

แกงส้มรสชาติจัดจ้านมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส ถ้าหากพูดถึงแกงส้มของกินคู่กันก็น่าจะหนีไม่พ้นไข่เจียวหรือไม่ก็หมูทอด แกงส้มสูตรนี้เลือกใช้เนื้อปลาช่อนมาเป็นส่วนผสมหลักของเนื้อสัตว์ และเลือกสายบัวมาแกงรวมกัน ความฟินอยู่ที่เมื่อสายบัวดูดน้ำแกงส้มเข้าไปด้านใน พอเวลากินตักสายบัว เนื้อปลาช่อนเข้าปาก น้ำที่อยู่ในสายบัวก็จะกระจายไปทั่วทำให้ได้รสชาติแกงส้มแบบสุดๆ อย่างที่บอกกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียวหรือหมูทอดหอมๆสักจานเป็นข้าวหมดหม้อทุกครั้งไป

หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้

ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว

แกงขาหมูใบมะดันกรุบมะพร้าวตำรับอาหารไทยพื้นบ้านจากชุมชนทรงคนอง จังหวัดนครปฐม สมัยก่อนที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำในแม่น้ำลำคลอง จึงใช้ตะพาบน้ำทำเมนูนี้ ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้ขาหมูติดหนังเนื่องจากมีสัมผัสนุ่มหนึบคล้ายกับเชิงตะพาบน้ำ แต่เดี๋ยวนี้สิ่งที่ยากไปกว่าตะพาบน้ำคือการหากรุบมะพร้าว หรือกะลามะพร้าวอ่อน ซึ่งโดยมากหาได้ตามสวนมะพร้าวเพราะไม่ค่อยมีคนนำมาขาย กะลามะพร้าวอ่อนนำมาผ่าเอาเนื้อมะพร้าวที่ติดกับกะลามาแกง รสชาติกะลาอ่อนจะมันๆฝาดๆ แต่เวลาสุกแล้วความฝาดจะหายไปได้สัมผัสกรุบๆสมชื่อเมนู

เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน

แกงส้มรสชาติจัดจ้านมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส ถ้าหากพูดถึงแกงส้มของกินคู่กันก็น่าจะหนีไม่พ้นไข่เจียวหรือไม่ก็หมูทอด แกงส้มสูตรนี้เลือกใช้เนื้อปลาช่อนมาเป็นส่วนผสมหลักของเนื้อสัตว์ และเลือกสายบัวมาแกงรวมกัน ความฟินอยู่ที่เมื่อสายบัวดูดน้ำแกงส้มเข้าไปด้านใน พอเวลากินตักสายบัว เนื้อปลาช่อนเข้าปาก น้ำที่อยู่ในสายบัวก็จะกระจายไปทั่วทำให้ได้รสชาติแกงส้มแบบสุดๆ อย่างที่บอกกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียวหรือหมูทอดหอมๆสักจานเป็นข้าวหมดหม้อทุกครั้งไป

หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้

ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว

แกงขาหมูใบมะดันกรุบมะพร้าวตำรับอาหารไทยพื้นบ้านจากชุมชนทรงคนอง จังหวัดนครปฐม สมัยก่อนที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำในแม่น้ำลำคลอง จึงใช้ตะพาบน้ำทำเมนูนี้ ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้ขาหมูติดหนังเนื่องจากมีสัมผัสนุ่มหนึบคล้ายกับเชิงตะพาบน้ำ แต่เดี๋ยวนี้สิ่งที่ยากไปกว่าตะพาบน้ำคือการหากรุบมะพร้าว หรือกะลามะพร้าวอ่อน ซึ่งโดยมากหาได้ตามสวนมะพร้าวเพราะไม่ค่อยมีคนนำมาขาย กะลามะพร้าวอ่อนนำมาผ่าเอาเนื้อมะพร้าวที่ติดกับกะลามาแกง รสชาติกะลาอ่อนจะมันๆฝาดๆ แต่เวลาสุกแล้วความฝาดจะหายไปได้สัมผัสกรุบๆสมชื่อเมนู

เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน

แกงส้มรสชาติจัดจ้านมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส ถ้าหากพูดถึงแกงส้มของกินคู่กันก็น่าจะหนีไม่พ้นไข่เจียวหรือไม่ก็หมูทอด แกงส้มสูตรนี้เลือกใช้เนื้อปลาช่อนมาเป็นส่วนผสมหลักของเนื้อสัตว์ และเลือกสายบัวมาแกงรวมกัน ความฟินอยู่ที่เมื่อสายบัวดูดน้ำแกงส้มเข้าไปด้านใน พอเวลากินตักสายบัว เนื้อปลาช่อนเข้าปาก น้ำที่อยู่ในสายบัวก็จะกระจายไปทั่วทำให้ได้รสชาติแกงส้มแบบสุดๆ อย่างที่บอกกินคู่กับข้าวสวยร้อนๆและไข่เจียวหรือหมูทอดหอมๆสักจานเป็นข้าวหมดหม้อทุกครั้งไป

หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้

ต้มกะทิสายบัวถือเป็นเมนูต้มกะทิที่ได้รับความนิยมอีกเมนูนึง ด้วยรสชาติที่มีครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มนิดๆ และหากได้ความหอมมันจากกะทิคั้นสดด้วยแล้วยิ่งอร่อยเป็นพิเศษ เลือกใช้สายบัวที่ไม่อ่อนและไม่แก่จนเกินไป นำมาต้มกับกะทิใส่ปลาทู ปรุงรสแค่น้ำปลา น้ำตาลมะพร้าว และน้ำมะขามเปียก เพียงเท่านี้ก็ได้ต้มกะทิสายบัวไว้กินแล้ว
Recommended Videos