เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

recipe

ปลาเทโพซอสต้มยำ

Recipe by สำนักพิมพ์แสงแดด

Serves

1 คน

Level

2

ปลาเทโพซอสต้มยำ ปลาเทโพป็นปลาน้ำจืดที่ปัจจุบันเหลือน้อยลงมาก มักจับได้ตามแม่น้ำสายหลัก อาทิ แม่น้ำมูล แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำโขง เป็นต้น ซึ่งพบการจับเพียงบางฤดูกาล และมีปริมาณน้อย ทำให้มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 80-150 บาท และถ้าเบื่อปลาแบบเดิมๆ ลองนำมาฟิวชั่นกันซอสต้มยำรสจัดจ้าน ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ

INGREDIENTS

เนื้อปลาเทโพหั่นชิ้นสเต๊ก (170 กรัม)

1 ชิ้น

พริกไทยดำเม็ด

1 ช้อนชา

รากผักชีสับละเอียด

2 ช้อนชา

กระเทียมจีนสับละเอียด

2 ช้อนชา

ตะไคร้สับละเอียด

2 ช้อนชา

เกลือป่น

1 ช้อนชา

น้ำมันมะกอก

4 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันมะกอกสำหรับย่าง

พาสต้าลวกสำหรับจัดเสิร์ฟ

METHOD

1. ล้างเนื้อปลาให้สะอาด ซับให้แห้ง พักไว้ทำเครื่องหมักโดยโขลกพริกไทยดำ รากผักชี กระเทียม และตะไคร้ เข้าด้วยกันให้ละเอียดนำมาเคล้ากับเนื้อปลา โรยเกลือและราดน้ำมันมะกอก คลุกเคล้าให้เคลือบเนื้อปลาจนทั่ว ใส่จาน พักไว้

 

2. ทำซอสต้มยำโดยละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำให้เข้ากัน เตรียมไว้ ตั้งกระทะบนไฟกลางพอร้อน ใส่น้ำมัน ตามด้วยข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด ผัดให้มีกลิ่นหอม ใส่น้ำพริกเผา น้ำปลาและน้ำตาล ผัดให้เข้ากัน พอเดือด ใส่น้ำมะนาวและแป้งข้าวโพดที่ละลายกับน้ำ คนให้เข้ากันปิดไฟ ใส่กะทิ คนให้เข้ากัน ใส่ชาม พักไว้

 

3. ตั้งกระทะสำหรับย่างหรือกระทะเทฟล่อนบนไฟกลาง ใส่น้ำมันมะกอกลงในกระทะ กลอกน้ำมันให้เคลือบผิวกระทะจนทั่ว เทน้ำมันที่เหลือออก รอให้กระทะร้อนจัดมีควันขึ้นบริเวณขอบกระทะเล็กน้อย ใส่เนื้อปลาที่เตรียมไว้ลงย่างรอสักครู่ให้เนื้อปลาเริ่มสุก ลดเป็นไฟอ่อนย่างประมาณ 10 นาที (สังเกตเนื้อปลาสีอ่อนลง) พลิกเนื้อปลาอีกด้านลงย่างให้สุกประมาณ5 นาที ปิดไฟ

 

4. จัดเนื้อปลาเทโพย่างใส่จาน ราดซอสต้มยำ เสิร์ฟกับพาสต้า

Share this content

Tags:

ซอสต้มยำ, ปลาน้ำจืด, อาหารจานเดียว, อาหารไทยฟิวชั่น, เมนูปลา

Recommended Articles

Recipeข้าวผัดเเหนม
ข้าวผัดเเหนม

ข้าวผัดแหนมหมู เมนูยอดนิยมที่ครองใจใครหลายคน ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวและรสชาติที่กลมกล่อม ใช้เเหนมหมูอย่างดี รสชาติเปรี้ยวเค็มอันเป็นเอกลักษณ์ นำมายีให้เป็นชิ้นเล็กๆ คั่วจนหอม ผัดกับข้าวสวยหอมมะลิ เพิ่มความอร่อยด้วย ไข่ไก่ ที่ผัดจนสุกกำลังดี เพิ่มความมันนัว และสีสันที่น่ากิน ผัดด้วยไฟแรง ให้ข้าวเรียงเม็ดสวย ไม่แฉะ และมีกลิ่นหอมไหม้กระทะที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัว เป็นเมนูที่กินได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะมื้อเช้า มื้อกลางวัน หรือมื้อเย็น ก็อร่อยถูกใจแน่นอน รับรองว่าจานเดียวไม่เคยพอ!

 

Recommended Videos