เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2023/11/RK0200_ImageBanner_1140x507.jpg)
Serves
1 ลูก
Level
2
สังขยาฟักทอง ฟักทองเนื้อนุ่มกินกับสังขยาหอมหวานกะทิและน้ำตาลมะพร้าว ขนมไทยที่เน้นความประณีตด้วยการแกะสลักฟักทองเป็นผอบ ผลฟักทองใช้เป็นทั้งภาชนะและรับประทานคู่กับสังขยายิ่งอร่อยเพิ่มขึ้นไปอีก
INGREDIENTS
ฟักทองไทย(400-500 กรัม)
1 ลูก
ไข่ไก่
2 ฟอง
ไข่เป็ด
2 ฟอง
น้ำตาลมะพร้าว
1 ถ้วย
กะทิ
1/2 ถ้วย
ใบเตย
5 ใบ
อุปกรณ์ มีดแกะสลัก ช้อน กระชอน ผ้าขาวบาง ลังถึง
METHOD
1. แกะสลักผอบฟักทองโดยล้างฟักทองให้สะอาด ปอกเปลือกผิวออก เกลาผิวฟักทองให้เรียบ ใช้มีดปลายแหลมเจาะเป็นวงกลมตรงขั้วฟักทอง ดึงฝาออก ใช้ช้อนขูดเมล็ดและไส้ออกให้หมด ล้างผลฟักทองทั้งด้านนอกและด้านในให้สะอาดแล้วคว่ำให้สะเด็ดน้ำ ใช้มีดกรีดแบ่งขอบผอบเป็นร่องเท่าๆกันจนรอบปากผอบ นอนมีดลงปาดโค้งระหว่างช่องที่แบ่งไว้ แกะเนื้อที่ปาดออก แล้วกรีดเป็นกลีบปลายแหลม ปาดเนื้อใต้กลีบออกโดยรอบ เพื่อให้เห็นกลีบเด่นชัดขึ้น ทำจนวนรอบชั้นแรก จากนั้นแกะชั้นที่สองโดยให้สับหว่างกับชั้นแรก ทำจนทั่วทั้งลูก
2. ทำสังขยาโดยต่อยไข่ไก่และไข่เป็ดใส่อ่างผสม ใส่น้ำตาลมะพร้าว กะทิ และใบเตยขยำให้น้ำตาลละลายจนหมด แล้วกรองด้วยกระชอนและผ้าขาวบาง 2 ชั้น 3 รอบ ใส่ถ้วย พักไว้
3. ใส่น้ำในหม้อลังถึงประมาณ 3/4 ของหม้อ ปิดฝา ยกขึ้นตั้งบนไฟแรง รอจนน้ำเดือด วางฟักทองลงในถ้วย ใส่สังขยาลงในผลฟักทองให้เหลือปากประมาณ 1 นิ้ว เมื่อน้ำเดือดให้นำไปนึ่งโดยลดเป็นไฟอ่อน นึ่งนานประมาณ 60 นาที โดยเปิดฝาทุกๆ 10 นาที เพื่อระบายความร้อนออก ไม่อย่างนั้นเนื้อฟักทองอาจจะแตกได้ เมื่อสุกแล้วยกลงพักให้เย็นสนิท เมื่อจะเสิร์ฟจึงหั่นฟักทองเป็นเสี้ยวจัดใส่จาน
Gallery
![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2023/11/RK0200_Gallery___Artboard-01-scaled.jpg)
![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2023/11/RK0200_Gallery___Artboard-02-scaled.jpg)
![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2023/11/RK0200_Gallery___Artboard-03-scaled.jpg)
![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2023/11/RK0200_Gallery___Artboard-04-scaled.jpg)
![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2023/11/RK0200_Gallery___Artboard-05-scaled.jpg)
![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2023/11/RK0200_Gallery___Artboard-06-scaled.jpg)
![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2023/11/RK0200_Gallery___Artboard-07-scaled.jpg)
Tags:
Recommended Articles
![มะกรูดลอยแก้ว](/_next/static/media/Fallback.cbd323d9.png)
มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน
![ขนมมันสำปะหลัง](/_next/static/media/Fallback.cbd323d9.png)
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
![มะกรูดลอยแก้ว](/_next/static/media/Fallback.cbd323d9.png)
มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน
![ขนมมันสำปะหลัง](/_next/static/media/Fallback.cbd323d9.png)
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
![มะกรูดลอยแก้ว](/_next/static/media/Fallback.cbd323d9.png)
มะกรูด เป็นพืชในตระกลูส้มและมะนาว (Citrus) คนไทยส่วนใหญ่นิยมปลูกมะกรูดไว้ใช้ประโยชน์ในครัวเรือน โดยเฉพาะส่วนใบและผล ด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวของมะกรูดที่ทำให้รู้สึกสดชื่น นอกจากมีบทบาทในอาหารคาวแล้ว มะกรูดยังมีบทบาทในอาหารหวาน ทั้งนำเนื้อมากวนไส้ นำไปเชื่อมรวมถึงการลอยแก้ว มะกรูดลอยแก้ว เป็นของหวานดับร้อนของคนในสมัยก่อน ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ด้วยลักษณะของมะกรูดที่มีกลิ่นรสเฉพาะตัว จึงต้องอาศัยเทคนิคและความใส่ใจ เพื่อให้ได้เนื้อมะกรูดลอยแก้วที่มีความนุ่มหนึบ ใสดั่งแก้ว ชิมรสเปรี้ยว หวาน เค็ม ครบสามรส หอมกลิ่นมะกรูดอ่อนๆ เอาไว้กินกับน้ำแข็งเพิ่มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน
![ขนมมันสำปะหลัง](/_next/static/media/Fallback.cbd323d9.png)
ขนมไทยพื้นบ้านรสชาติอร่อยเรียบง่ายด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่าง ได้แก่ มันสำปะหลังขูดหรือปั่นให้ละเอียด ผสมกับน้ำตาลทราย เกลือ และน้ำสะอาดหรือน้ำคั้นใบเตย ใส่ถาดนึ่งให้สุกจนเนื้อมันเปลี่ยนเป็นเหลืองใส แล้วนำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสคลุกกับมะพร้าวขูดที่เคล้าเกลือไว้เล็กน้อย เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่วัตถุดิบหลักคือ มันสำปะหลังพันธุ์ที่เรียกว่า ‘มัน 5 นาที’ เป็นพันธุ์ที่นิยมใช้ทำขนม
Recommended Videos