เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
6 ถ้วย
Level
3
คาราเมลคัสตาร์ดคือขนมยอดนิยมตลอดกาลของผมครับขนมชนิดนี้เข้ามาในประเทศไทยนานแสนนานมาแล้ว รับรู้ได้จากคุณยายของผมซึ่งอายุปาเข้าไปย่าง 95 ปีแล้ว เมื่อไรก็ตามที่พาคุณยายไปกินข้าวนอกบ้าน ถ้ามีคาราเมลคัสตาร์ดในเมนูคุณยายจะขอสั่งมาเป็นของหวานตบท้ายมื้ออาหารเสมอ ขนมอื่นคุณยายว่ากินไม่ได้ ไม่อร่อยเหมือนคาราเมลคัสตาร์ดแต่ที่ทำให้ได้รับความนิยมสำหรับคอขนมชาวไทยไม่ว่าจะอายุมากน้อยแค่ไหน เห็นจะเป็นสัมผัสนุ่มนวลของเนื้อคัสตาร์ดกับความหอมหวานนวลๆของคาราเมลที่มาคู่กันครับโดยทั่วไปแล้วคาราเมลคัสตาร์ดเนื้อเนียน ต้องทำการอบส่วนผสมสามอย่าง คือ ไข่ นม และน้ำตาล ในถาดหล่อน้ำด้วยไฟต่ำๆ ใช้เวลาอบนานๆ ค่อยๆให้คัสตาร์ดสุกช้าๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือเนื้อคัสตาร์ดจะนุ่มละเอียดมาก ไม่เป็นฟองหยาบ ความยากอยู่ที่เตาอบดีๆไม่ได้มีทุกบ้าน ผมจึงใช้วิธีนึ่งแทน เพื่อให้ใครๆก็ทำคาราเมลคัสตาร์ดได้เองที่บ้าน หลักการง่ายๆเลยครับ การนึ่งต้องปิดฝาถ้วยสำหรับนึ่งเพื่อป้องกันไอน้ำหยดลงไปผสมในคัสตาร์ดของเรา และเมื่อน้ำเดือดแล้วนำคัสตาร์ดลงนึ่งแล้วหรี่ไฟลงจนน้ำเดือดอ่อนๆ วิธีนี้ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถควบคุมความร้อนได้ดีเหมือนเตาอบ แต่ผลที่ได้ก็ใช้ได้อยู่ครบ
INGREDIENTS
น้ำตาลทราย
160+140 กรัม
น้ำ
4 ช้อนโต๊ะ
นมสดชนิดจืด
500 กรัม
ไข่ไก่ (ฟองละ 65-70 กรัม)
4 ฟอง
กลิ่นวานิลลา
1 ช้อนชา
METHOD
1. ทำคาราเมลโดยใส่น้ำตาล 160 กรัม และน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ ลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อน ปิดฝา พอน้ำตาลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลไหม้เสมอกัน ปิดไฟ ใส่น้ำที่เหลือ เขย่าให้เข้ากันทั่วเทใส่ในถ้วย เตรียมไว้
2. ทำคัสตาร์ดโดยใส่นมลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟอ่อนจากนั้นตีไข่ไก่ น้ำตาลที่เหลือ และกลิ่นวานิลลา ด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน เทนมอุ่นลงในส่วนผสมไข่ไก่ คนให้เข้ากันตั้งลังถึงหรือหม้อนึ่งใส่น้ำประมาณ ½ ของหม้อบนไฟกลางพักไว้ ใช้กระชอนตาถี่กรองคัสตาร์ด เทคัสตาร์ดที่ได้ลงในถ้วยคาราเมลที่ทำไว้เกือบเต็มถ้วย นำแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ปิดหน้าถ้วยคัสตาร์ด นำไปตั้งในลังถึงหรือหม้อนึ่งที่เตรียมไว้วางให้ห่างกัน ลดเป็นไฟอ่อน นึ่งนานประมาณ 30 นาที หรือจนสุก ทดสอบโดยใช้นิ้วแตะผิวหน้าด้านบนแล้วเนื้อคัสตาร์ดไม่ติดขึ้นมา พักไว้ 5-10 นาที นำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาจนเย็นหรือจนกว่าจะรับประทาน
3. วิธีการนำคัสตาร์ดออกจากถ้วย แช่ถ้วยคัสตาร์ดในน้ำอุ่นประมาณ 30 วินาที เพื่อให้คาราเมลด้านล่างละลายใช้มีดแซะด้านข้างถ้วยโดยรอบ แล้วคว่ำลงบนจาน
อ่านบทความเพิ่มเติม
Recommended Articles

ปลาเนื้ออ่อนต้มเค็ม เมนูทำง่ายแต่อร่อยล้ำที่ใครได้ลองเป็นต้องติดใจ ปลาเนื้ออ่อนเนื้อนุ่มละลายในปาก นำมากับเครื่องเทศสมุนไพร อย่าง กระเทียม หอมแดง ขิง เพิ่มความเผ็ดนิดๆด้วยพริกจินดา ปรุงรสเค็มหวานลงตัว หอมอร่อย ทานได้ทั้งครอบครัว ยิ่งทานกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าอร่อยจนหยุดไม่ได้

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ปลาเนื้ออ่อนต้มเค็ม เมนูทำง่ายแต่อร่อยล้ำที่ใครได้ลองเป็นต้องติดใจ ปลาเนื้ออ่อนเนื้อนุ่มละลายในปาก นำมากับเครื่องเทศสมุนไพร อย่าง กระเทียม หอมแดง ขิง เพิ่มความเผ็ดนิดๆด้วยพริกจินดา ปรุงรสเค็มหวานลงตัว หอมอร่อย ทานได้ทั้งครอบครัว ยิ่งทานกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าอร่อยจนหยุดไม่ได้

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ปลาเนื้ออ่อนต้มเค็ม เมนูทำง่ายแต่อร่อยล้ำที่ใครได้ลองเป็นต้องติดใจ ปลาเนื้ออ่อนเนื้อนุ่มละลายในปาก นำมากับเครื่องเทศสมุนไพร อย่าง กระเทียม หอมแดง ขิง เพิ่มความเผ็ดนิดๆด้วยพริกจินดา ปรุงรสเค็มหวานลงตัว หอมอร่อย ทานได้ทั้งครอบครัว ยิ่งทานกับข้าวสวยร้อนๆ รับรองว่าอร่อยจนหยุดไม่ได้

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน
Recommended Videos