เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
42 ชิ้น
Level
4
“ปั้นขลิบไส้ปลา”หรือที่หลายๆคนมักชอบเรียก"ปั้นสิบ" ซึ่งเป็นชื่อที่เรียกกันผิด ๆ ที่ถูกต้อง ควรเรียก "ปั้นขลิบ" เพราะเราจะขลิบริมแป้งหลังจากปั้น ไส้ทำมาจากปลาช่อน เพราะคนสมัยก่อน มักจะทำปลามาประกอบอาหารเป็นซะส่วนใหญ่ นำปลาช่อนมาย่างให้หอม แกะเอาแต่เนื้อ นำมาผสมกับข่าเพื่อดับกลิ่นคาว ผัดกับกะทิและสามเกลอ ปรุงรสง่ายๆ ด้วย น้ำปลาและน้ำตาลมะพร้าว นำแป้งมาห่อ แป้งนุ่มๆนำไปนึ่งให้พอสุก รับประทานร้อนๆ กับผักกาดหอม พริกขี้หนูสวนสดๆ และกระเทียมเจียวหอม
INGREDIENTS
แป้งข้าวเจ้า
1 ถ้วย
แป้งเท้ายายม่อม
1 ช้อนโต๊ะ
แป้งมันสำปะหลัง
1 ช้อนโต๊ะ
น้ำ
1/2 ถ้วย
น้ำมันพืช
1 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวเจ้าสำหรับเป็นแป้งนวล
น้ำมันกระเทียมเจียวสำหรับทา
ผักสดมี ผักกาดหอม พริกขี้หนู และผักชี
กระเทียมเจียวสำหรับโรย
อุปกรณ์จำเป็น กระทะทองเหลือง ผ้าขาวบาง ไม้คลึงแป้ง ลังถึง
ปลาช่อนย่างแกะเอาแต่เนื้อ
1 ถ้วย
ข่าอ่อนโขลกละเอียด
1 ช้อนโต๊ะ
รากผักชีหั่น
2 ราก
กระเทียมไทยแกะเปลือก
7 กลีบ
พริกไทยขาวเม็ด
10 เม็ด
หัวกะทิ
1/4 ถ้วย
หอมแดงสับละเอียด
1/4 ถ้วย
น้ำปลา
1 ช้อนโต๊ะ+2 ช้อนชา
น้ำตาลมะพร้าว
1 ช้อนโต๊ะ+2 ช้อนชา
METHOD
1. เตรียมไส้ปลาโดยยีเนื้อปลาช่อนให้ฟู ใส่เนื้อปลาช่อนลงในครกโขลกให้ฟู ใส่ข่า โขลกพอเข้ากัน ตักใส่ถ้วยพักไว้ โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย ให้เข้ากันจนละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้
2. ตั้งบนไฟกลาง ใส่กะทิลงผัด ผัดจนแตกมัน ใส่เครื่องที่โขลกผัดให้หอม ใส่หอมแดงสับ ผัดให้เข้ากันทั่ว จึงใส่เนื้อปลาช่อนที่ยีไว้ ผัดเข้าด้วยกันพอมีกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลมะพร้าว ผัดต่อจนแห้ง ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย พักไว้
3. ทำแป้งปั้นขลิบโดยผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งเท้ายายม่อม และแป้งมัน เข้าด้วยกันในกระทะทองเหลือง ค่อยๆ ใส่น้ำและน้ำมันพืชลงนวดทีละน้อย จนละลายเข้ากันดี ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางค่อนข้างอ่อน กวนพอแป้งสุกล่อนเป็นก้อนเดียวกันและไม่ติดกระทะ ตักแป้งออกวางบนพื้นสะอาด แล้วนวดแป้งที่กวนจนนุ่มเนียน คลุมอ่างแป้งด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำพอหมาดเพื่อไม่ให้แป้งแห้ง พักไว้
4. ห่อปั้นขลิบโดยแบ่งแป้งออกเป็นก้อน 8 – 10 กรัม ปั้นเป็นก้อนกลม แล้วใช้ไม้คลึงแป้งคลึงแป้งออกเป็นแผ่นกลม (หรือใช้นิ้วหัวแม่มือกดไล่แป้งให้บาง) ตักไส้ใส่ประมาณ 1 ช้อนชา พับครึ่งปิดไส้ บีบริมแป้งให้ติดกัน จับจีบหรือขลิบริมแป้งให้ติดกันสวยงาม คลุมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำพอหมาดเพื่อไม่ให้แป้งแห้ง พักไว้ ทำจนหมด (ขณะห่อถ้าแป้งติดมือให้ใช้แป้งนวลช่วย)
5. ตั้งหม้อน้ำลังถึงบนไฟกลาง ฉีกใบตองเป็นริ้วๆ ทาใบตองด้วยน้ำมันกระเทียมเจียว เรียงปั้นขลิบในลังถึง นำไปนึ่งนานประมาณ 6 นาที หรือจนแป้งสุกใส ยกลง แล้วพรมด้วยน้ำมันกระเทียมเจียว
6. จัดปั้นขลิบนึ่งลงในจานที่รองด้วยผักกาดหอม พริกขี้หนู และผักชี โรยกระเทียมเจียว เสิร์ฟ
หมายเหตุ
ไส้ปลาที่เหลือเก็บใส่ภาชนะปิดฝาให้สนิท นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา เก็บไว้ใช้ในครั้งต่อไปได้
Gallery
Tags:
ของว่าง, ข่า, นึ่ง, ปลาช่อน, พริกไทยขาวเม็ด, รากผักชี, สามเกลอ, หัวกะทิ, อาหารไทย, แป้งข้าวเจ้า, แป้งมันสำปะหลัง, แป้งเท้ายายม่อม
Recommended Articles
เมนูนี้เป็นหนึ่งใน comfort foods ของบ้านเชฟน่านเลยก็ว่าได้ คอหมูเเท้ย่างหอมๆ เคล้าด้วยข้าวคั่วอย่างจุใจ ให้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเจ้าแบบเวียดนามกับผักหอมนานาชนิด จิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เติมความมันด้วยถั่ว อร่อยมากๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพประจำบ้านเชฟน่านเลย
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
ขนมปลากริมไข่เต่าเดิมเรียกว่า ขนมแชงมา หรือ แฉ่งม้า หรือคำที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า ขนมสองหม้อ จากลักษณะตัวขนมที่แยกออกเป็น 2 หม้อ 2 สี ปลากริมหม้อหวาน ไข่เต่าหม้อเค็ม ตัวปลากริมหรือ ‘ตัวหวาน’ ลักษณะเป็นเส้นยาวๆ ตรงกลางอ้วน หัวท้ายเรียวคล้ายเส้นลอดช่อง ตัวสีน้ำตาลรสหอมหวานจากน้ำตาลมะพร้าว ส่วนไข่เต่าหรือ ‘ตัวเค็ม’ ลักษณะกลมรี คล้ายไข่เต่า สีขาว รสชาติเค็มๆ มันๆ จากหัวกะทิ ส่วนเวลากินก็อยู่ที่ว่าใครชอบกินฝั่งไหนมากกว่า แต่แนะนำให้กินพร้อมกันจะอร่อยที่สุด ตักใส่ถ้วยอย่างละครึ่ง คนให้เข้ากัน หนึ่งคำได้ครบทุกรสทั้งหอม หวาน มัน เค็มกลมกล่อมลงตัวพอดี
‘ปลาส้มทอด’ หลายคนคงสงสัยว่าเชฟน่าจะเคลมเมนูนี้เป็นเมนูประจำบ้านได้อย่างไร ในเมื่อปลาส้มทอดเป็นเมนูทั่วๆ ไป ใครๆ เค้าก็ทำกินกัน แถมบ้านเชฟน่านก็ไม่ได้ถึงขนาดลงมือหมักปลาส้มเองซะด้วย แต่… ขอบอกว่าบ้านเชฟน่านกินเมนูนี้กันบ่อยมาก และมีวิธีกินเฉพาะในแบบบ้านเรา จนคิดว่าถ้าไม่นำมาบอกเล่าต่อปลาส้มทอดเค้าจะน้อยใจเอา ถ้างั้นผมขอเคลมนะครับ
ไส้อั่ว นับเป็นความชาญฉลาดของบรรพบุรุษชาวล้านนาอย่างหนึ่งในการใช้สอยทุกส่วนของหมูได้อย่างคุ้มค่า คำว่า “อั่ว” เป็นคำเมือง แปลว่า การแทรกหรือยัดไว้ตรงกลาง เมื่อนำเครื่องต่างๆยัดเข้าไปในไส้หมู จึงเรียกว่า ไส้อั่ว สูตรนี้เป็นสูตรไส้อั่วตับที่ใส่ตับเข้าไปเพิ่มความมันเเละนัว หอมกลิ่นพริกแกงเเละเครื่องสมุนไพรไทย ย่างจนสุกเกรียมหอม จนได้ออกมาเป็นไส้อั่วตับอร่อยๆ จะทำขาย ทำเเจกหรือทำไปฝากเพื่อนก็ได้
เมนูนี้เป็นหนึ่งใน comfort foods ของบ้านเชฟน่านเลยก็ว่าได้ คอหมูเเท้ย่างหอมๆ เคล้าด้วยข้าวคั่วอย่างจุใจ ให้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเจ้าแบบเวียดนามกับผักหอมนานาชนิด จิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เติมความมันด้วยถั่ว อร่อยมากๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพประจำบ้านเชฟน่านเลย
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
ขนมปลากริมไข่เต่าเดิมเรียกว่า ขนมแชงมา หรือ แฉ่งม้า หรือคำที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า ขนมสองหม้อ จากลักษณะตัวขนมที่แยกออกเป็น 2 หม้อ 2 สี ปลากริมหม้อหวาน ไข่เต่าหม้อเค็ม ตัวปลากริมหรือ ‘ตัวหวาน’ ลักษณะเป็นเส้นยาวๆ ตรงกลางอ้วน หัวท้ายเรียวคล้ายเส้นลอดช่อง ตัวสีน้ำตาลรสหอมหวานจากน้ำตาลมะพร้าว ส่วนไข่เต่าหรือ ‘ตัวเค็ม’ ลักษณะกลมรี คล้ายไข่เต่า สีขาว รสชาติเค็มๆ มันๆ จากหัวกะทิ ส่วนเวลากินก็อยู่ที่ว่าใครชอบกินฝั่งไหนมากกว่า แต่แนะนำให้กินพร้อมกันจะอร่อยที่สุด ตักใส่ถ้วยอย่างละครึ่ง คนให้เข้ากัน หนึ่งคำได้ครบทุกรสทั้งหอม หวาน มัน เค็มกลมกล่อมลงตัวพอดี
‘ปลาส้มทอด’ หลายคนคงสงสัยว่าเชฟน่าจะเคลมเมนูนี้เป็นเมนูประจำบ้านได้อย่างไร ในเมื่อปลาส้มทอดเป็นเมนูทั่วๆ ไป ใครๆ เค้าก็ทำกินกัน แถมบ้านเชฟน่านก็ไม่ได้ถึงขนาดลงมือหมักปลาส้มเองซะด้วย แต่… ขอบอกว่าบ้านเชฟน่านกินเมนูนี้กันบ่อยมาก และมีวิธีกินเฉพาะในแบบบ้านเรา จนคิดว่าถ้าไม่นำมาบอกเล่าต่อปลาส้มทอดเค้าจะน้อยใจเอา ถ้างั้นผมขอเคลมนะครับ
ไส้อั่ว นับเป็นความชาญฉลาดของบรรพบุรุษชาวล้านนาอย่างหนึ่งในการใช้สอยทุกส่วนของหมูได้อย่างคุ้มค่า คำว่า “อั่ว” เป็นคำเมือง แปลว่า การแทรกหรือยัดไว้ตรงกลาง เมื่อนำเครื่องต่างๆยัดเข้าไปในไส้หมู จึงเรียกว่า ไส้อั่ว สูตรนี้เป็นสูตรไส้อั่วตับที่ใส่ตับเข้าไปเพิ่มความมันเเละนัว หอมกลิ่นพริกแกงเเละเครื่องสมุนไพรไทย ย่างจนสุกเกรียมหอม จนได้ออกมาเป็นไส้อั่วตับอร่อยๆ จะทำขาย ทำเเจกหรือทำไปฝากเพื่อนก็ได้
เมนูนี้เป็นหนึ่งใน comfort foods ของบ้านเชฟน่านเลยก็ว่าได้ คอหมูเเท้ย่างหอมๆ เคล้าด้วยข้าวคั่วอย่างจุใจ ให้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเจ้าแบบเวียดนามกับผักหอมนานาชนิด จิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เติมความมันด้วยถั่ว อร่อยมากๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพประจำบ้านเชฟน่านเลย
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
ขนมปลากริมไข่เต่าเดิมเรียกว่า ขนมแชงมา หรือ แฉ่งม้า หรือคำที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า ขนมสองหม้อ จากลักษณะตัวขนมที่แยกออกเป็น 2 หม้อ 2 สี ปลากริมหม้อหวาน ไข่เต่าหม้อเค็ม ตัวปลากริมหรือ ‘ตัวหวาน’ ลักษณะเป็นเส้นยาวๆ ตรงกลางอ้วน หัวท้ายเรียวคล้ายเส้นลอดช่อง ตัวสีน้ำตาลรสหอมหวานจากน้ำตาลมะพร้าว ส่วนไข่เต่าหรือ ‘ตัวเค็ม’ ลักษณะกลมรี คล้ายไข่เต่า สีขาว รสชาติเค็มๆ มันๆ จากหัวกะทิ ส่วนเวลากินก็อยู่ที่ว่าใครชอบกินฝั่งไหนมากกว่า แต่แนะนำให้กินพร้อมกันจะอร่อยที่สุด ตักใส่ถ้วยอย่างละครึ่ง คนให้เข้ากัน หนึ่งคำได้ครบทุกรสทั้งหอม หวาน มัน เค็มกลมกล่อมลงตัวพอดี
‘ปลาส้มทอด’ หลายคนคงสงสัยว่าเชฟน่าจะเคลมเมนูนี้เป็นเมนูประจำบ้านได้อย่างไร ในเมื่อปลาส้มทอดเป็นเมนูทั่วๆ ไป ใครๆ เค้าก็ทำกินกัน แถมบ้านเชฟน่านก็ไม่ได้ถึงขนาดลงมือหมักปลาส้มเองซะด้วย แต่… ขอบอกว่าบ้านเชฟน่านกินเมนูนี้กันบ่อยมาก และมีวิธีกินเฉพาะในแบบบ้านเรา จนคิดว่าถ้าไม่นำมาบอกเล่าต่อปลาส้มทอดเค้าจะน้อยใจเอา ถ้างั้นผมขอเคลมนะครับ
ไส้อั่ว นับเป็นความชาญฉลาดของบรรพบุรุษชาวล้านนาอย่างหนึ่งในการใช้สอยทุกส่วนของหมูได้อย่างคุ้มค่า คำว่า “อั่ว” เป็นคำเมือง แปลว่า การแทรกหรือยัดไว้ตรงกลาง เมื่อนำเครื่องต่างๆยัดเข้าไปในไส้หมู จึงเรียกว่า ไส้อั่ว สูตรนี้เป็นสูตรไส้อั่วตับที่ใส่ตับเข้าไปเพิ่มความมันเเละนัว หอมกลิ่นพริกแกงเเละเครื่องสมุนไพรไทย ย่างจนสุกเกรียมหอม จนได้ออกมาเป็นไส้อั่วตับอร่อยๆ จะทำขาย ทำเเจกหรือทำไปฝากเพื่อนก็ได้
Recommended Videos