เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
4-5 คน
Level
3
จานนี้บางทีเรียก “อูรัป อูรัป” หรือ “อูรัป สายธ์” โดดเด่นด้วยการนำผักลวกหลายอย่างมาคลุกเคล้ากับมะพร้าวขูดทรงเครื่องที่ปรุงรสด้วยสมุนไพรหอม กะปิย่าง และกุ้งแห้ง ได้รสชาติยำผักต้มที่แปลกไปอย่างน่าทึ่ง
INGREDIENTS
ถั่วงอกเด็ดหาง
50 กรัม
กะหล่ำปลีส่วนสีขาวหั่นชิ้นพอคำ
100 กรัม
ถั่วฝักยาวหั่นท่อน
100 กรัม
ผักโขมหั่นชิ้นพอคำ
100 กรัม
เกลือสมุทรปริมาณเล็กน้อย
หอมแดงเจียวสำหรับโรย
ยอดแมงลักสำหรับตกแต่ง
กุ้งแห้งแช่น้ำอุ้นพอนิ่ม
10 ตัว
กระเทียมกลีบใหญ่ (10 กรัม)
2 กลีบ
พริกชี้ฟ้าสีแดง (20 กรัม)
2 เม็ด
ใบมะกรูด
1 ใบ
ข่าอ่อนหั่นแว่น (5 กรัม)
2 แว่น
เกลือสมุทร
1 ช้อนชา
กะปิย่าง (10 กรัม)
2 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ (15 กรัม)
1 ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวขูดขาว
100 กรัม
METHOD
1. ตั้งหม้อน้ำบนไฟกลาง รอให้น้ำเดือดจัด ใส่เกลือเล็กน้อย ใส่ผักลงลวกแค่พอผักสุกกรอบประมาณ 30 วินาที โดยเริ่มลวกจากถั่วงอก กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว และผักโขม เมื่อผักแต่ละชนิดสุกได้ที่ให้รีบตักขึ้นใส่ลงในอ่างน้ำเย็น พักไว้ให้ผักคลายความร้อน ก่อนนำผักทั้งหมดขึ้นห่อด้วยผ้าขาวบาง บีบเบาๆให้ผักพอหมาด ใส่ตะแกรงเตรียมไว้ เมื่อนำไปยำ ผักจะมีรสชาติอร่อยขึ้น
2. เตรียมเครื่องสมุนไพรโดยโขลกกุ้งแห้งจนเนื้อกุ้งฟูขึ้นเล็กน้อย ตักใส่ถ้วย พักไว้ โขลกกระเทียม พริกชี้ฟ้า ใบมะกรูด ข่า เกลือ กะปิ และน้ำตาลปี๊บ เข้าด้วยกันจนละเอียด ตักใส่อ่างผสม ใส่กุ้งแห้งที่พักไว้ และมะพร้าวขูดลงผสม เคล้าให้เข้ากัน นำไปนึ่งในชั้นลังถึงบนหม้อน้ำเดือดจัดด้วยไฟแรง นานประมาณ 5 นาที ปิดไฟ ยกออกจากชั้นลังถึง ใส่ผักลวกที่เตรียมไว้ลงผสมกับมะพร้าวนึ่งร้อนๆ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน โรยหอมแดงเจียว ตกแต่งด้วยใบแมงลัก เสิร์ฟ
Tags:
Recommended Articles

ตอนรับวันตรุษจีนด้วยเมนูมงคลจากผักมงคลอย่างหัวไชเท้า ซึ่งความหมายคำว่าไช พ้องเสียงในภาษาจีนแปลงว่าโชคลาภ ซึ่งเมื่อถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนก็จะมีเมนูที่ทำจากหัวไชเท้าขึ้นโต๊ะอาหารเป็นประจำ อย่างสูตรนี้เป็นเมนู "หัวไช้เท้าผัดกุ้งแห้ง" ที่นำเอาหัวไชเท้าซอยเป็นเส้นแล้วนำมาเคล้ากับเกลือทิ้งไว้สักพักค่อยล้างน้ำออก การทำแบบนี้เป็นการทำให้หัวไชเท้าไม่เผ็ดซ่าจนเกินไป จากนั้นนำมาผัดกับกุ้งแห้งปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และพริกไทย

บ้านใครมีมะม่วงเบาบ้างยกมือขึ้น!!!!! หน้านี้มะม่วงเบาเริ่มออกลูกมาให้เห็นกันแล้ว ทางนี้เลยจัดเมนูสำหรับสาวๆสายเปรี้ยวกันเสียหน่อยอย่าง "ยำมะม่วงเบา" ที่บอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจแน่นอน ด้วยพระเอกหลักอย่างตัวมะม่วงเบาที่ต้องเลือกลูกที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำมายำกับน้ำยำรสจัดจ้านหอมกลิ่นกะปิ และได้ความเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มโหนดและน้ำตาลมะพร้าว พร้อมด้วยเครื่องยำอย่างกุ้งแห้งป่นและมะพร้าวคั่ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยถึงใจแน่นอนสำหรับสูตรนี้

วันนี้เรามีเมนูอาหารว่างของไทยที่ทำกินได้ไม่ยากนั่นก็คือ ‘ยำส้มโอ’ เมนูอร่อยครบรส ที่เหมาะสำหรับทานเล่นกันในครอบครัว และว่ากันว่าส้มโอที่อร่อยจะต้องเป็นพันธุ์ขาวน้ำผึ้งจะให้รสเปรี้ยวอมหวาน เนื้อแน่นน้ำหนักดี ไม่มีรสขมและรสซ่า เมื่อแก่จัดเนื้อจะแห้งถูกคอคนไทยและคนต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง

กะปิพล่าเครื่องปรุงคล้ายน้ำพริกกะปิ ได้แก่ กะปิ กระเทียม หอมแดง พริกขี้หนู กุ้งแห้ง น้ำตาล มะนาว ต่างกันตรงที่มีน้ำ เนื้อและผิวส้มซ่าเข้ามาเสริมรสเปรี้ยวและกลิ่นหอมของส้มซ่า ข้อแตกต่างสำคัญคือกะปิพล่าไม่ต้องโขลกในครก ใช้วิธีผสมให้เครื่องต่างๆเข้ากันในถ้วยหรือชาม ดังนั้นส่วนผสมต่างๆเช่น กระเทียม หอม กุ้งแห้งจึงต้องหั่นซอยให้บางให้เป็นเนื้อสัมผัสเวลากิน กะปิพล่ารับประทานกับผักสด ผักต้ม มีเครื่องเคียงเพิ่มความอร่อยเช่น ปลาช่อนแดดเดียวและหมูหวาน ใครจะกินกับไข่ต้มก็ได้ อร่อยเหมือนกัน

แค่เห็นเป็นต้องน้ำลายหกกับเมนู กะปิหวาน ที่รับประทานคู่กับมะม่วงเปรี้ยวๆ ได้อร่อยสุดๆ ความหอมของกะปิแท้อย่างดี นำมาห่อด้วยใบตองและนำไปย่างบนไฟอ่อนๆ ให้พอหอม นำมาผสมกับน้ำตาลมะพร้าวแท้อย่างดี ขย้ำคลุกเคล้าให้เข้ากันจนเนื้อเนียนไม่มีกะปิเป็นเม็ดๆหลงเหลืออยู่ ใส่หอมแดงซอย กุ้งเเห้ง พริกขี้หนูสวนสดๆ ปรุงรสด้วยเกลือ รสชาติหวานนำเค็ม ได้รสเผ็ดจากพริกขี้หนูสวน แค่คิดก็น้ำลายสอแล้ว

กรกฏาคมถึงสิงหาคมเป็นฤดูกาลของกระท้อน ผลไม้ที่แม้ไม่ได้อยู่ในกระแส แต่ก็มีคนเฉพาะกลุ่มที่ชอบความหวานซ่อนเปรี้ยวของกระท้อนอยู่ ด้วยเนื้อหนา ด้านในนิ่มปุย รสชาติจัดจ้าน จึงนำมาทำได้ทั้งอาหารคาว หวาน คนโบราณมักนำมาทำเมี่ยง แกง น้ำพริก ผัด ลอยแก้ว ส่วนกระท้อนทรงเครื่องเมนูนี้นำกระท้อนมารับประทานง่ายๆกับน้ำราดคล้ายๆน้ำปลาหวาน เคล็ดลับคือการปอกผิวกระท้อนแล้วแช่ในน้ำเกลือ 2 ครั้ง ครั้งแรกหลังจากปอกเปลือกเสร็จเพื่อไม่ให้เนื้อกระท้อนคล้ำหรือแดง ครั้งที่สองหลังจากบั้งโดยรอบ เพื่อให้รับประทานง่ายขึ้นแล้วแช่น้ำเกลืออีกครั้ง จะช่วยให้เนื้อกระท้อนนุ่มลง หลังจากนั้นบีบกระท้อนขึ้นจากน้ำเกลือ ก่อนนำไปราดน้ำปรุงรสที่ออกรสหวาน เค็ม เผ็ดตามลำดับ ความเปรี้ยวจะได้จากกระท้อน ส่วนเครื่องโรยสมัยก่อนใช้แต่ถั่วลิสงคั่ว พริกซอย และกุ้งแห้งป่น สูตรนี้เพิ่มกุ้งแห้งกรอบเพื่อให้ได้อรรถรสเวลากินมากขึ้น

ตอนรับวันตรุษจีนด้วยเมนูมงคลจากผักมงคลอย่างหัวไชเท้า ซึ่งความหมายคำว่าไช พ้องเสียงในภาษาจีนแปลงว่าโชคลาภ ซึ่งเมื่อถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนก็จะมีเมนูที่ทำจากหัวไชเท้าขึ้นโต๊ะอาหารเป็นประจำ อย่างสูตรนี้เป็นเมนู "หัวไช้เท้าผัดกุ้งแห้ง" ที่นำเอาหัวไชเท้าซอยเป็นเส้นแล้วนำมาเคล้ากับเกลือทิ้งไว้สักพักค่อยล้างน้ำออก การทำแบบนี้เป็นการทำให้หัวไชเท้าไม่เผ็ดซ่าจนเกินไป จากนั้นนำมาผัดกับกุ้งแห้งปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และพริกไทย

บ้านใครมีมะม่วงเบาบ้างยกมือขึ้น!!!!! หน้านี้มะม่วงเบาเริ่มออกลูกมาให้เห็นกันแล้ว ทางนี้เลยจัดเมนูสำหรับสาวๆสายเปรี้ยวกันเสียหน่อยอย่าง "ยำมะม่วงเบา" ที่บอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจแน่นอน ด้วยพระเอกหลักอย่างตัวมะม่วงเบาที่ต้องเลือกลูกที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำมายำกับน้ำยำรสจัดจ้านหอมกลิ่นกะปิ และได้ความเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มโหนดและน้ำตาลมะพร้าว พร้อมด้วยเครื่องยำอย่างกุ้งแห้งป่นและมะพร้าวคั่ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยถึงใจแน่นอนสำหรับสูตรนี้

วันนี้เรามีเมนูอาหารว่างของไทยที่ทำกินได้ไม่ยากนั่นก็คือ ‘ยำส้มโอ’ เมนูอร่อยครบรส ที่เหมาะสำหรับทานเล่นกันในครอบครัว และว่ากันว่าส้มโอที่อร่อยจะต้องเป็นพันธุ์ขาวน้ำผึ้งจะให้รสเปรี้ยวอมหวาน เนื้อแน่นน้ำหนักดี ไม่มีรสขมและรสซ่า เมื่อแก่จัดเนื้อจะแห้งถูกคอคนไทยและคนต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง

กะปิพล่าเครื่องปรุงคล้ายน้ำพริกกะปิ ได้แก่ กะปิ กระเทียม หอมแดง พริกขี้หนู กุ้งแห้ง น้ำตาล มะนาว ต่างกันตรงที่มีน้ำ เนื้อและผิวส้มซ่าเข้ามาเสริมรสเปรี้ยวและกลิ่นหอมของส้มซ่า ข้อแตกต่างสำคัญคือกะปิพล่าไม่ต้องโขลกในครก ใช้วิธีผสมให้เครื่องต่างๆเข้ากันในถ้วยหรือชาม ดังนั้นส่วนผสมต่างๆเช่น กระเทียม หอม กุ้งแห้งจึงต้องหั่นซอยให้บางให้เป็นเนื้อสัมผัสเวลากิน กะปิพล่ารับประทานกับผักสด ผักต้ม มีเครื่องเคียงเพิ่มความอร่อยเช่น ปลาช่อนแดดเดียวและหมูหวาน ใครจะกินกับไข่ต้มก็ได้ อร่อยเหมือนกัน

แค่เห็นเป็นต้องน้ำลายหกกับเมนู กะปิหวาน ที่รับประทานคู่กับมะม่วงเปรี้ยวๆ ได้อร่อยสุดๆ ความหอมของกะปิแท้อย่างดี นำมาห่อด้วยใบตองและนำไปย่างบนไฟอ่อนๆ ให้พอหอม นำมาผสมกับน้ำตาลมะพร้าวแท้อย่างดี ขย้ำคลุกเคล้าให้เข้ากันจนเนื้อเนียนไม่มีกะปิเป็นเม็ดๆหลงเหลืออยู่ ใส่หอมแดงซอย กุ้งเเห้ง พริกขี้หนูสวนสดๆ ปรุงรสด้วยเกลือ รสชาติหวานนำเค็ม ได้รสเผ็ดจากพริกขี้หนูสวน แค่คิดก็น้ำลายสอแล้ว

กรกฏาคมถึงสิงหาคมเป็นฤดูกาลของกระท้อน ผลไม้ที่แม้ไม่ได้อยู่ในกระแส แต่ก็มีคนเฉพาะกลุ่มที่ชอบความหวานซ่อนเปรี้ยวของกระท้อนอยู่ ด้วยเนื้อหนา ด้านในนิ่มปุย รสชาติจัดจ้าน จึงนำมาทำได้ทั้งอาหารคาว หวาน คนโบราณมักนำมาทำเมี่ยง แกง น้ำพริก ผัด ลอยแก้ว ส่วนกระท้อนทรงเครื่องเมนูนี้นำกระท้อนมารับประทานง่ายๆกับน้ำราดคล้ายๆน้ำปลาหวาน เคล็ดลับคือการปอกผิวกระท้อนแล้วแช่ในน้ำเกลือ 2 ครั้ง ครั้งแรกหลังจากปอกเปลือกเสร็จเพื่อไม่ให้เนื้อกระท้อนคล้ำหรือแดง ครั้งที่สองหลังจากบั้งโดยรอบ เพื่อให้รับประทานง่ายขึ้นแล้วแช่น้ำเกลืออีกครั้ง จะช่วยให้เนื้อกระท้อนนุ่มลง หลังจากนั้นบีบกระท้อนขึ้นจากน้ำเกลือ ก่อนนำไปราดน้ำปรุงรสที่ออกรสหวาน เค็ม เผ็ดตามลำดับ ความเปรี้ยวจะได้จากกระท้อน ส่วนเครื่องโรยสมัยก่อนใช้แต่ถั่วลิสงคั่ว พริกซอย และกุ้งแห้งป่น สูตรนี้เพิ่มกุ้งแห้งกรอบเพื่อให้ได้อรรถรสเวลากินมากขึ้น

ตอนรับวันตรุษจีนด้วยเมนูมงคลจากผักมงคลอย่างหัวไชเท้า ซึ่งความหมายคำว่าไช พ้องเสียงในภาษาจีนแปลงว่าโชคลาภ ซึ่งเมื่อถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนก็จะมีเมนูที่ทำจากหัวไชเท้าขึ้นโต๊ะอาหารเป็นประจำ อย่างสูตรนี้เป็นเมนู "หัวไช้เท้าผัดกุ้งแห้ง" ที่นำเอาหัวไชเท้าซอยเป็นเส้นแล้วนำมาเคล้ากับเกลือทิ้งไว้สักพักค่อยล้างน้ำออก การทำแบบนี้เป็นการทำให้หัวไชเท้าไม่เผ็ดซ่าจนเกินไป จากนั้นนำมาผัดกับกุ้งแห้งปรุงรสด้วยเกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาล และพริกไทย

บ้านใครมีมะม่วงเบาบ้างยกมือขึ้น!!!!! หน้านี้มะม่วงเบาเริ่มออกลูกมาให้เห็นกันแล้ว ทางนี้เลยจัดเมนูสำหรับสาวๆสายเปรี้ยวกันเสียหน่อยอย่าง "ยำมะม่วงเบา" ที่บอกได้เลยว่าแซ่บถึงใจแน่นอน ด้วยพระเอกหลักอย่างตัวมะม่วงเบาที่ต้องเลือกลูกที่กำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป จากนั้นก็นำมาล้างน้ำให้สะอาดหั่นเป็นแผ่นบางๆ นำมายำกับน้ำยำรสจัดจ้านหอมกลิ่นกะปิ และได้ความเปรี้ยวหวานจากน้ำส้มโหนดและน้ำตาลมะพร้าว พร้อมด้วยเครื่องยำอย่างกุ้งแห้งป่นและมะพร้าวคั่ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยถึงใจแน่นอนสำหรับสูตรนี้

วันนี้เรามีเมนูอาหารว่างของไทยที่ทำกินได้ไม่ยากนั่นก็คือ ‘ยำส้มโอ’ เมนูอร่อยครบรส ที่เหมาะสำหรับทานเล่นกันในครอบครัว และว่ากันว่าส้มโอที่อร่อยจะต้องเป็นพันธุ์ขาวน้ำผึ้งจะให้รสเปรี้ยวอมหวาน เนื้อแน่นน้ำหนักดี ไม่มีรสขมและรสซ่า เมื่อแก่จัดเนื้อจะแห้งถูกคอคนไทยและคนต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง

กะปิพล่าเครื่องปรุงคล้ายน้ำพริกกะปิ ได้แก่ กะปิ กระเทียม หอมแดง พริกขี้หนู กุ้งแห้ง น้ำตาล มะนาว ต่างกันตรงที่มีน้ำ เนื้อและผิวส้มซ่าเข้ามาเสริมรสเปรี้ยวและกลิ่นหอมของส้มซ่า ข้อแตกต่างสำคัญคือกะปิพล่าไม่ต้องโขลกในครก ใช้วิธีผสมให้เครื่องต่างๆเข้ากันในถ้วยหรือชาม ดังนั้นส่วนผสมต่างๆเช่น กระเทียม หอม กุ้งแห้งจึงต้องหั่นซอยให้บางให้เป็นเนื้อสัมผัสเวลากิน กะปิพล่ารับประทานกับผักสด ผักต้ม มีเครื่องเคียงเพิ่มความอร่อยเช่น ปลาช่อนแดดเดียวและหมูหวาน ใครจะกินกับไข่ต้มก็ได้ อร่อยเหมือนกัน

แค่เห็นเป็นต้องน้ำลายหกกับเมนู กะปิหวาน ที่รับประทานคู่กับมะม่วงเปรี้ยวๆ ได้อร่อยสุดๆ ความหอมของกะปิแท้อย่างดี นำมาห่อด้วยใบตองและนำไปย่างบนไฟอ่อนๆ ให้พอหอม นำมาผสมกับน้ำตาลมะพร้าวแท้อย่างดี ขย้ำคลุกเคล้าให้เข้ากันจนเนื้อเนียนไม่มีกะปิเป็นเม็ดๆหลงเหลืออยู่ ใส่หอมแดงซอย กุ้งเเห้ง พริกขี้หนูสวนสดๆ ปรุงรสด้วยเกลือ รสชาติหวานนำเค็ม ได้รสเผ็ดจากพริกขี้หนูสวน แค่คิดก็น้ำลายสอแล้ว

กรกฏาคมถึงสิงหาคมเป็นฤดูกาลของกระท้อน ผลไม้ที่แม้ไม่ได้อยู่ในกระแส แต่ก็มีคนเฉพาะกลุ่มที่ชอบความหวานซ่อนเปรี้ยวของกระท้อนอยู่ ด้วยเนื้อหนา ด้านในนิ่มปุย รสชาติจัดจ้าน จึงนำมาทำได้ทั้งอาหารคาว หวาน คนโบราณมักนำมาทำเมี่ยง แกง น้ำพริก ผัด ลอยแก้ว ส่วนกระท้อนทรงเครื่องเมนูนี้นำกระท้อนมารับประทานง่ายๆกับน้ำราดคล้ายๆน้ำปลาหวาน เคล็ดลับคือการปอกผิวกระท้อนแล้วแช่ในน้ำเกลือ 2 ครั้ง ครั้งแรกหลังจากปอกเปลือกเสร็จเพื่อไม่ให้เนื้อกระท้อนคล้ำหรือแดง ครั้งที่สองหลังจากบั้งโดยรอบ เพื่อให้รับประทานง่ายขึ้นแล้วแช่น้ำเกลืออีกครั้ง จะช่วยให้เนื้อกระท้อนนุ่มลง หลังจากนั้นบีบกระท้อนขึ้นจากน้ำเกลือ ก่อนนำไปราดน้ำปรุงรสที่ออกรสหวาน เค็ม เผ็ดตามลำดับ ความเปรี้ยวจะได้จากกระท้อน ส่วนเครื่องโรยสมัยก่อนใช้แต่ถั่วลิสงคั่ว พริกซอย และกุ้งแห้งป่น สูตรนี้เพิ่มกุ้งแห้งกรอบเพื่อให้ได้อรรถรสเวลากินมากขึ้น
Recommended Videos