เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

food story

All Blues Coffee Bar สวรรคโลก บทเพลงแสนโศกในบาร์ที่ไม่เศร้า

Story by เสาวลักษณ์ เชื้อคำ

จิบกาแฟเคล้าเสียงเพลงและบทสนทนาที่สวรรคโลก สุโขทัย

เมื่อนึกถึงเพลงบลูส์ ฉันจะนึกถึงความเศร้า

 

บลูส์โน้ตที่ผิดเพี้ยนและกระโดดออกมาจากบันใดเสียงคือความเศร้า เพราะมันกำลังสะท้อนความไม่เท่าเทียมที่คนผิวสีถูกสังคมกดทับไว้ สายกีตาร์ที่ไม่ได้จูนตามมาตรฐานบวกรวมกับน้ำเสียงแผดตะโกนบอกความคับแค้น จึงกลายเป็นเครื่องบอกเล่าความเศร้าในอดีต ที่ทาสผิวดำอิมโพรไวซ์เอาความยากจนข้นแค้นออกมาเป็นศิลปะหม่นเศร้างดงาม และเติบโตผ่านวันเวลาจนกลายเป็นรสนิยมอีกแบบหนึ่ง คำว่า Blues ในภาษาอังกฤษ นอกจากจะเป็นชื่อของประเภทดนตรีแล้วมันจึงหมายถึงความเศร้าโศกได้อีกด้วย

 

 

ฉันนั่งอยู่ใน All Blues Coffee Bar ที่ไม่ได้เปิดเพลงบลูส์ แต่เปิด Lo-fi

 

“ลองชิมดูครับ อันนี้รสลิ้นจี่กับกุหลาบชัดมาก” บาริสต้าประจำร้านบอกกับเราก่อนที่เราจะยกแก้วเอสเพรสโซเล็กจ้อยขึ้นจิบ อบอวลรสชาติของลิ้นจี่ขึ้นมาในปากจริงๆ ด้วย – นั่นคือความทรงจำที่เด่นชัดที่สุดเมื่อฉันย้อนนึกถึง All Blues Coffee Bar ร้านกาแฟขนาดราว 10 ที่นั่ง ที่โผล่ขึ้นกลางทางแบบไม่มีปีมีขลุ่ยที่ริมทางแยกหนึ่งในอำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย

 

คอฟฟี่บาร์แห่งนี้ดำเนินกิจการเบ็ดเสร็จโดยคนเพียง 2 คน นั่นก็คือ เแชมป์ – ไกรสิทธิ กานปริยสุนทร และ หญิง – ธีมาพร ธนะปาละ คู่รักที่พากันหลงใหลในโลกของกลิ่นรสอันซับซ้อนจากเม็ดผลไม้คั่วอย่างกาแฟ แถมยังตั้งอยู่ในอำเภอซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นอำเภอทางผ่านอย่างสวรรคโลก แต่กระนั้นก็ตาม All Blues Coffee Bar กลับจริงจังและสนุกสนานกับการทำกาแฟอย่างที่อาจพูดได้ว่าเป็นนี่เป็นหนึ่งในร้านกาแฟที่มากเรื่องมากความที่สุดในสุโขทัย

 

 

คำว่ามากเรื่องมากความในที่นี้หมายถึงรายละเอียดยิบย่อยที่ All Blues Coffee Bar จัดวางลงไปในทุกสิ่งทุกอย่างของร้าน กาแฟ เครื่องดื่ม บรรยากาศ ยิบย่อยแม้กระทั่งกระป๋องเก็บกาแฟสุญญากาศอย่างดี ที่ไม่รู้ว่าคนมาดื่มจะมองเห็นสักกี่คน

 

ต้องยอมรับว่าสุโขทัยเป็นเมืองรองที่โด่งดัง กระนั้นเมืองรองก็ยังคงเป็นเมืองรอง ไม่ใช่จุดหมายปลายทางอย่างเชียงใหม่หรือภูเก็ต ซ้ำเป็นรองลงไปอีกที่สวรรคโลกก็ยังเป็นอำเภอรองในจังหวัดสุโขทัยอีกที แต่ All Blues Coffee Bar ยืนยันว่าที่นี่ต้องมีร้านกาแฟพิเศษ แถมยังยืนยันมาได้นานกว่า 5 ปีแล้วในตอนนี้

 

ใน 5 ปีก่อนหลายคนคงเคยมีความฝันอยากเปิดคาเฟ่สวยๆ เป็นของตัวเอง และทั้งคู่ไม่ได้ปล่อยไว้แค่ฝัน แต่ลงมือทำมันในอำเภอเล็กในเมืองรองอย่างสวรรคโลก พื้นที่ที่ห่างไกลจากรสนิยมการกินกาแฟพิเศษในทุกๆ เช้าอย่างกรุงเทพฯ หรือเสียงใหม่ แต่พวกเขาก็เชื่อและทำ

 

 

“เมื่อก่อนไม่มีหรอก อย่าว่าแต่สวรรคโลกเลย ในสุโขทัยเองก็แทบจะไม่มี คนในท้องที่ก็กินน้ำหวาน กินกาแฟหวานมันกันมากกว่าจริงๆ นั่นแหละ จริงๆ ช่วงแรกผมอยากเปิดเป็นร้านบอร์ดเกมเลยด้วยซ้ำ ลงทุนกันไปหลายบาท ปรับกันอยู่หลายที สุดท้ายมาลงเอยที่ร้านกาแฟเฉยเลย” แชมป์เล่ากลั้วเสียงหัวเราะ

 

หากจะพูดแค่เรื่องความหลงใหลในกลิ่นรสของกาแฟ เชื่อว่าเจ้าของร้านกาแฟที่ไหนก็คงพูดได้เหมือนกัน และคงพูดได้ทั้งวันทั้งคืนเหมือนกันอีกด้วย สิ่งที่เราสนใจใน All Blues Coffee Bar ก็คือว่า ทำไมเลือกเปิดร้านกาแฟพิเศษ ขายกาแฟกินยาก ต้นทุนสูง ให้พื้นที่ที่ไม่มีคนสนใจกาแฟพิเศษมาก่อน

 

“หนึ่งเลยคือที่นี่เป็นบ้านเรา พอเรากลับบ้านมาก็อยากมีพื้นที่ของตัวเอง แต่จะมีพื้นที่เฉยๆ เลยมันก็ไม่ได้ ต้องทำมาหากินด้วยถูกมั้ย (หัวเราะ) เลยมาจบที่ว่าอยากทำคาเฟ่ พอรู้แบบนั้นแล้วก็เริ่มไปเรียน เลือกไว้ที่กรุงเทพฯ ก่อน ไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นว่าเราชอบมันเฉยเลย ชอบมากๆ เพราะเหมือนมันเรียนรู้ไปได้เรื่อยๆ ก็พาแฟนไปเรียนด้วยอีก เลยเถิดมาจนถึงว่าทุกวันนี้เรามีเปิดสอนด้วย วันที่สอนส่วนมากก็ปิดร้านเลย”

 

 

แชมป์ในยามที่นั่งพูดคุยกันเฉยๆ ดูร่าเริงและสนุกสนานกว่ายามยืนดริปกาแฟอยู่ในบาร์อย่างคนละคน แม้จะพูดคุยกันเพียงไม่กี่ชั่วโมงแต่เราก็บอกได้เลยว่าเขาเป็นคนมีอารมณ์ขัน เมื่ออยู่ในวงสนทนาก็จะทำหน้าที่เหมือนเพื่อนมัธยมปลายสักคนที่เจอหน้าทีไรเป็นต้องได้ปล่อยก๊าก

 

แต่ไม่ใช่ตอนทำกาแฟ

 

“บางทีมันก็ใช้พลังเหมือนกันนะ เวลาลูกค้ามาเราก็อยากพูดด้วย อยากเล่นด้วย แต่มันไม่ได้อ่ะ อันนี้ผมพูดได้เลยไหม” เขายังถามต่อแม้จะพูดไปแล้ว โดยมีคนข้างกายหัวเราะลั่น

 

“ใช่ เพราะอยู่กันสองคน ตอนลูกค้ามาเยอะหน่อยก็คือในบาร์จะวุ่นวายแล้ว แต่เราก็ต้องยิ้มนะ อย่างหนึ่งก็คือดีใจแหละที่ร้านคนเยอะซักที” หญิงเล่าต่อ

 

ช่วงสองปีแรกคือช่วงวัดใจของร้านกาแฟทั้งหลายทั้งปวง แม้กระทั่งในพื้นที่สุดป๊อปอย่างถนนนิมมานเหมินท์ จังหวัดเชียงใหม่ ร้านกาแฟส่วนหนึ่ง (ซึ่งเป็นส่วนใหญ่) ก็ทยอยปิดตัวลงเมื่อเวลาผ่านไปราว 2-3 ปี แล้วร้านใหม่ก็มาเปิด เป็นวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิดกันอยู่ซ้ำไปซ้ำมาอย่างนั้น เพราะช่วงเวลาเปิดใหม่ร้านกาแฟก็จะดึงดูดเหล่า cafe hopper ให้แวะเวียนเข้ามาหา ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่เมื่อร้านไม่ใหม่อีกต่อไปแล้ว รายได้หลักคือรายได้จากลูกค้าประจำเท่านั้น แหละ ถ้าร้านไหนสร้างลูกค้าประจำไม่ได้ก็เป็นอันว่าเกมโอเวอร์

 

 

“ปีแรกนี่ไม่มีคนเล้ยยย…” แชมป์ลากเสียงยาว เล่าถึงความลำบากของขวบปีแรก “ไม่มีหรอก ใครจะมากินกาแฟแก้วละเจ็ดสิบแปดสิบ ที่นี่สวรรคโลก ลืมวัฒนธรรมคาเฟ่เหมือนที่เคยเห็นในกรุงเทพฯ ได้เลย มันว่าง แบบว่างมาก อยากขาย (หัวเราะ)”

 

แม้ทุกคนจะขำไปกับมุกนั้นแต่เราเชื่อว่าสถานการณ์จริงไม่มีคนขำ การเรียนจบจากกรุงเทพฯ แล้วกลับบ้านมาเปิดร้านกาแฟแก้วละหลายสิบบาท แต่งร้านสวยๆ รอคนมาซื้อย่อมไม่ใช่เรื่องสนุก

 

 

ในที่นี่หมายถึงว่าการเปิดร้านกาแฟน่ะเป็นเรื่องสนุก แต่การรอคนมาซื้อไม่สนุก

 

“เราก็ค่อยๆ สร้างมันขึ้นมาเหมือนกันนะ อันนี้คิดแบบพยายามไม่เข้าข้างตัวเอง แต่เราเชื่อว่า All Blues เป็นร้านกาแฟที่มีส่วนสร้างวัฒนธรรมกาแฟสดเหมือนกัน เรื่องอื่นเราอาจจะพูดไม่ได้หรอกว่าดีหรือไม่ดี แต่กับกาแฟของเราเรามั่นใจว่าเราทำดีจริงๆ ผมคิดว่าที่ผ่านมามันก็มีการพิสูจน์บางอย่าง จากร้านสามแยกที่ไม่มีใครมองเห็น ไม่มีใครรู้จัก ตอนนี้เราเป็นอีกร้านหนึ่งที่คนตั้งใจมากิน มาคุยกัน พี่ รอบนี้มีเม็ดอะไรจากที่ไหนมา พี่ อยากกินเม็ดนั้นของโรงคั่วนั้นอีก นี่เราก็คิดว่าเรายืนยันได้ระดับหนึ่งแล้วละ”

 

 

เห็นจะจริงอย่างที่แชมป์ว่า เรามีเวลาคุยกันได้เดี๋ยวเดียวเท่านั้น All Blues Coffee Bar ไม่ใช่ร้านที่รอลูกค้าอีกต่อไปแล้ว เพราะคุณภาพและความใส่ในใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นั่นแหละที่ค่อยๆ ดึงดูดคนเข้ามารวมกันร้านกาแฟเล็กๆ แห่งนี้

 

แม้จะเป็นวันธรรมดาก็ตาม ผ่านช่วงเวลาอาหารเช้าได้เพียงอึดใจเดียวเท่านั้น ลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรก็ทยอยเข้ามาทีละโต๊ะสองโต๊ะ ลูกค้าขาจรส่วนมากจะถูกมุมถ่ายรูปรอบร้านดึงดูดไปเสียก่อน ก่อนจะแวะมาหาสมุดเมนูและเลยเถิดมาคุยกับบาริสต้าที่หน้าบาร์ ส่วนลูกค้าขาประจำสังเกตได้ไม่ยากเพราะจะตรงดิ่งเข้ามาที่บาร์กาแฟก่อน จับๆ วางๆ เลือกเมล็ดกาแฟถุงโน้นถุงนี้จนพอใจแล้วจึงเริ่มจิบกาแฟพร้อมบทสนทนา

 

กาแฟของ All Blues Coffee Bar เป็นไปตามมาตรฐานร้านคาเฟ่ดังหลายร้านในกรุงเทพฯ อันที่จริงจะพูดว่าสูงกว่านั้นก็น่าจะได้ เพราะเมื่อเทียบกับราคาแล้วถือว่า All Blues Coffee Bar ชนะขาดลอย ในรสชาติที่คาดหวังได้ ดีไม่ดีถูกคอกันมากเข้าจะได้เซอร์ไพรส์จากเจ้าของร้านเสียด้วย

 

 

เมล็ดกาแฟยืนพื้นของที่นี่คือ House Blend 3 แบบที่แชมป์และหญิงดีไซน์แล้วว่าตอบโจทย์คนกินกาแฟทุกแบบ คือ Blues กาแฟคั่วเข้มเทสโน้ตแบบดุดันด้วยรสช็อกโกแล็ตและนัตตี้ Jazz กาแฟคั่วกลางที่มีรสของผลไม้และดอกไม้มากขึ้น แต่ยังเจือรสนุ่มนวลแบบอัลมอนต์อยู่ และ Soul สำหรับคนรักกาแฟเปรี้ยวสดใจ ด้วยกลิ่นแบบดอกไม้และส้มซิตรัส ซึ่งส่วนตัวโดยรสนิยมแล้วฉันชอบอย่างหลังมากที่สุด

 

นอกจาก House Blend ที่คิดมาเป็นอย่างดีแล้ว สิ่งที่เป็นขวัญใจลูกค้าประจำก็คือการที่แชมป์และหญิงสรรหากาแฟใหม่ๆ จากทั่วประเทศและทั่วโลก หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันมาวางไว้ให้เลือกชิมเสมอ All Blues Coffee Bar จึงกลายเป็นร้านประจำที่คุณจะไม่มีทางเบื่อ เพราะเมนูกาแฟคัดสรรที่ว่านี้แทบจะไม่มีซ้ำกันเลยตลอดทั้งปี

 

 

“คนก็ว่าผมบ้านะ เพราะบางอย่างมันไม่ควรจะเอามาขายเลย ผมซื้อกาแฟมาดริป คิดคาราต้นทุนคือกาละ 3,000 บาท แล้วก็เปิดหารเลย จะชงวันนี้ๆ มีจำนวน 10 เสิร์ฟเท่านั้น ผมคิดเสิร์ฟละ 300 คนที่เขาสนใจเขาก็มา คือต้องเข้าใจว่าคนสุโขทัยไม่ใช่ไม่สนุกกับการชิมกาแฟนะ แต่จะให้เขาไปกรุงเทพฯ เพื่อไปกินกาแฟอย่างผมก็ไม่ได้ไง ที่สำคัญก็คืออยากกินเองนี่แหละ หาเพื่อนมาหาร แฟนจะได้ไม่ด่า” แชมป์ยิงมุกแซวตัวเองจนคนถูกพาดพิงยังอดขำไม่ได้

 

All Blues Coffee Bar จึงค่อยๆ ฟูมฟักบรรยากาศแห่งกาแฟมาด้วยประการฉะนี้ หากเปรียบเป็นเด็กแรกเกิดสักคน วันนี้ที่นี่ก็คือเด็กห้าขวบที่เริ่มมีเพื่อนเล่นมากขึ้น มีเสียงหัวเราะมากขึ้น ด้วยว่าเติบโตผ่านกาลเวลาจนมีประวัติศาสตร์เป็นของตัวเอง

 

 

นอกจากกาแฟกลิ่นลิ้นจี่ชื่นใจที่ยังคงติดอยู่ในความทรงจำของฉันจนถึงวันนี้ อีกเมนูหนึ่งที่อยากแนะนำก็คือ Husband and Wife กาแฟนมเมนูพิเศษของ All Blues coffee Bar ที่หญิงและแชมป์ตั้งใจทำให้เป็นขนมที่ดื่มได้ จึงมีความนุ่มนวลหวานหอมเคียงคู่กับความเข้มของกาแฟด้วย ที่สำคัญคือเป็นเมนูที่ต้องทำพร้อมกันทั้ง 2 คน เลยได้ชื่อว่า Husband and Wife นั่นเอง

 

 

ส่วนอีกเมนูที่เป็น non-coffee ก็ต้องยกให้ Before Sunset น้ำโซดาที่ใช้ไซรัปบ๊วยมาผสมกันถึง 3 แบบ เลยให้รสชาติบ๊วยที่แปลกใหม่ไม่เหมือนกับบ๊วยจีนเค็มๆ เปรี้ยวๆ ถือว่าเป็นอีกเมนูที่ช่วยเติมพลังในยามบ่ายได้น่าดู

 

 

ส่วน sweet tooth ทั้งหลายก็อย่าลืมลองเค้กและเบเกอรี่ที่หญิงอบเองกับมือแทบทั้งหมด เนื่องด้วยแรงงานมีจำกัดเพียงหนึ่งแรง ขนมจึงหมุนเวียนสับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามใจคนทำ แต่ในฐานะคนกินต้องชื่นชมว่าชีสเค้กโฮมเมดและเค้กแครอตที่ได้กินวันนั้นรสชาติดีเชียวล่ะ

 

 

ลูกค้าโต๊ะโน้นลุก ลูกค้าโต๊ะนี้มานั่งใหม่ บาริสต้าชายหญิงเต้นรำเข้าออกอยู่ในบาร์อย่างร่วมจังหวะกัน ร้านกาแฟที่ว่าเล็กยังไม่สู้กับความเล็กของบาร์ ในพื้นที่สี่เหลี่ยมจตุรัสเล็กจิ๋วตรงนั้น คนสองคนหยิบจับและจัดวางอุปกรณ์เครื่องใช้รอบตัวคล่องมือ บ่งบอกว่านี่คือพื้นที่ที่ได้ทำงานร่วมกันอย่างรื่นรมย์

 

เหลือบเห็นกล่องเก็บแผ่นเสียงไวนิลวางอยู่ใต้โต๊ะเครื่องเล่น ฉันนึกสงสัยว่าในกล่องนั้นมีแผ่นเพลงบลูส์ดีๆ เก็บไว้อยู่สักกี่มากน้อย

 

 

ความหม่นเศร้าอย่างเพลงบลูส์คงผ่านไปพักใหญ่แล้ว ฉันปล่อยให้แชมป์และหญิงได้ทำงาน ปล่อยให้ลูกค้าประจำได้พูดคุย และหลบมุมออกมาบันเทิงเริงใจกับบรรยากาศรอบตัวและเครื่องดื่มตรงหน้า

 

“Today’s good mood is sponsored by coffee.” ข้างประตูเข้าร้าน All Blues Coffee Bar เขียนไว้อย่างนั้น – อันนี้ฉันเห็นด้วย

 

 

 

(ภาพโดย จริญญา เครือแวงมนต์)

 

All Blues Coffee Bar

 

Facebook : All Blues Coffee Bar

 

เวลาเปิด-ปิด : 10:00-16:00 (ทุกวัน ติดตามวันหยุดประจำเดือนได้ทางเพจร้าน)

Share this content

Contributor

Tags:

กาแฟ, คุยกับผู้ผลิต, ร้านอร่อยสุโขทัย

Recommended Articles

Food StoryLemon Farm ธุรกิจที่เชื่อในมนตราของอาหาร คนทำชีวิตดี คนกินมีความสุข
Lemon Farm ธุรกิจที่เชื่อในมนตราของอาหาร คนทำชีวิตดี คนกินมีความสุข

หัวใจในการขับเคลื่อนธุรกิจคือโอบอุ้มความอยู่รอดของผู้ผลิตอาหาร และสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค

 

Recommended Videos