เรียนบาริสต้าที่โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร ประเวศ
ตลาดกาแฟ น้ำชง ในปีที่ผ่านมายังเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีร้านกาแฟ คาเฟ่ เพิ่มขึ้นทุกหัวระแหง รวมถึงการขายแบบ delivery ไร้หน้าร้าน แต่ก็มีหลายร้านที่มาไว – ไปไว
‘บาริสต้าเบื้องต้น’ เป็นหลักสูตรหนึ่งของโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพฯ ที่เปิดรับสมัครเมื่อไรก็เต็มไวทุกรอบ ด้วยค่าสมัคร เข้าถึงง่ายเพียง 105 บาท หลักสูตรครบถ้วน เรียนจบเปิดร้านได้ หรือเป็นสกิลติดตัวไว้สมัครงานบาริสต้าทั้งไทยและต่างประเทศจนถึงตอบคำถามได้ว่า ทำไมเปิดร้านขายดิบขายดี แต่รวมยอดออกมาแล้วเจ๊งทุกปี KRUA.CO เลยอยากแนะนำอีกหนึ่งทางเลือกหาความรู้ เพิ่มทักษะ สำหรับใครที่อยากเปิดร้านกาแฟ ขายน้ำชงเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมเพราะตลาดน้ำชงยังเติบโตขึ้นทุกปี มาดูกันค่ะว่าเขาเรียนอะไรกันบ้าง บรรยากาศการเรียนเป็นยังไง
โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร มีทั้งหมด 10 แห่งทั่วกรุงเทพฯ (เช็กสถานที่ตั้งแต่ละแห่งได้ที่http://www.bmatraining.ac.th) มีหลักสูตรกว่า 200 หลักสูตรให้เลือกเรียน ทุกคนที่เรียนจบผ่านหลักสูตรจะได้ใบประกาศนียบัตรรับรองค่ะ
บ่ายวันธรรมดาเราเดินทางมาที่โรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร ประเวศ ตั้งอยู่ใกล้สวนหลวง ร.9 คลาสเรียนรอบบ่ายกำลังเริ่มพอดี ครูโค้ก – ชานนท์ คูณสวัสดิ ครูหนุ่มวัย 25 ปี พูดจาฉะฉานเป็นกันเองกับนักเรียนที่รวมคนทุกเพศทุกวัยในชั้นว่าด้วยทฤษฏีการทำลาเต้อาร์ต พร้อมปลุกใจนักเรียนให้ปฏิบัติว่า
“พี่ๆ ต้องกล้าทำ กล้าเทนะครับ เละก็คือเละ แต่ต้องกล้าเทก่อน ค่อยๆ ฝึก”
“เราชอบบาริสต้า อยากเป็นบาริสต้า เพราะเคยฝึกงานร้านสะดวกซื้อ ได้ทำโซนคาเฟ่ ชงน้ำทุกวันแล้วรู้สึกชอบขึ้นมา พอเรียนจบบริหารก็คิดอยู่ว่า เราจะไปทำงานตามสายที่เราเรียนหรือทำตามที่เราชอบ แต่ว่ามันคนละขั้วเลย ความรู้เป็นศูนย์ เลยลองวัดดวงไปหาสมัครงานร้านคาเฟ่ เราก็เริ่มทำงานทั้งรับออร์เดอร์ เก็บโต๊ะ จนเป็นบาริสต้า คือผมเชื่อว่าถ้าอยากเก่งเรื่องอะไร อยากรู้เรื่องไหน ให้เราเอาตัวไปอยู่ในสถานที่นั้น บริเวณนั้น ที่ที่ทำให้เราไปถึงจุดที่อยากเป็นได้ ก็เลยเอาตัวเองไปอยู่ในร้านกาแฟก่อน ก็ทำมาเรื่อยๆ เกือบ 3 ปี จนวันหนึ่งมีโอกาสได้มาสอนที่นี่ เกือบ 2 ปีแล้วครับ” – ครูโค้กเล่าถึงเป้าหมายชีวิต ความชอบ ความฝันที่จับพลัดจับผลูกลายมาเป็นครู
เรียนทำกาแฟ น้ำชง ไม่ใช่แค่อร่อยแล้วจะเปิดร้านได้
บาริสต้าเบื้องต้นเรียนทั้งหมด 90 ชั่วโมง ประมาณ 1 เดือนครึ่ง เนื้อหาที่สอนเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดกาแฟ สายพันธุ์ ทำเมนูพื้นฐานที่ขายในร้านกาแฟ คาเฟ่ทั่วไปทั้งเมนูร้อนและเย็น น้ำชงต่างๆ อย่างมัทฉะ โกโก้ โซดารวมถึงสมูทตี้ ถัดมาเป็นเรื่องการบริหารร้าน การคำนวณต้นทุน ราคาขาย การหาทำเล
“ก่อนเริ่มเรียนต้องปรับทัศนคติคนส่วนใหญ่ก่อน แต่ละคนมีภาพจำ มีความคิดเกี่ยวกับกาแฟไม่เหมือนกัน อย่างถ้าเป็นรุ่นมีอายุหน่อยบางคนจะบอกว่ากาแฟมันต้องขมสิอาจารย์ มันถึงจะอร่อย บางคนก็ไม่กล้ากินกาแฟกลัวว่าจะนอนไม่หลับ ก็ต้องปรับจูนก่อน ถัดจากเรื่องเมนูก็เรื่องการคำนวณต้นทุน ทำเลการขายแบบไหนเหมาะสมกับการเปิดร้านแบบไหน เป็นไกด์ให้นักเรียนที่คิดจะเปิดร้าน ถ้าเปิดร้านแนวนี้ ลงทุนประมาณนี้ กลุ่มลูกค้าประมาณไหน ควรขายในราคาเท่าไหร่ ลงทุนกี่เปอร์เซ็นต์ กี่ปีได้ทุนคืน
“เราเคยเจอนักเรียนที่เปิดร้านมา ก็ทำบัญชีแค่ว่าวันนี้เบิกเงินซื้อของเข้าร้านเท่าไหร่ ขายได้ยอดเท่าไร พอสิ้นเดือนมาก็สรุปยอด แต่เขาไม่ได้คำณวนค่าเสียโอกาส ค่าเสื่อมของเครื่อง อุปกรณ์ที่มันจะเป็นต้นทุนแฝงซึ่งเขาไม่ได้โฟกัสตั้งแต่ต้น พอเขาลองคิดตามที่เราสอนมันขาดทุน ซึ่งเป็นปัญหาของร้านกาแฟหลายร้าน โอโห ขายดีมากเลย แต่ขาดทุน
“นักเรียนบางคนมีร้านแล้วก็มาลงเรียน เขาไม่เคยคำนวณต้นทุนมาก่อน พอเรียนแล้วเอาไปใช้ก็กลับมาขอบคุณบอกเราว่า ที่อาจารย์สอนดีมากเลย ไม่งั้นพี่ทำไป 10 ปี พี่ก็คงยังขาดทุน 10 ปีแน่เลย ซึ่งมันก็เป็นความภูมิใจของเราที่เขามาเรียนแล้วได้อะไรกลับไป ที่มันช่วยเขาได้”
ห้องเรียนต่าง GEN ที่เบลนด์เข้ากันได้
ทุกคนตั้งหน้าตั้งตาจดจ่ออยู่กับการเทฟองนมทำลาเต้อาร์ต เทแล้ว เทอีก ฝึกทำซ้ำๆ บ้างถามย้ำอาจารย์ถึงเทคนิคการเทบรรยากาศในห้องเรียนสนุกสนานเป็นกันเอง ทั้งครูและผู้สอนต่างวัย ต่างคนมาจากต่างสาขาอาชีพ เมื่อเข้าสู่คลาสเรียนทุกคนคือเพื่อนร่วมห้องที่ความรู้เป็นศูนย์ และพร้อมจะเรียนรู้ไปด้วยกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยจนเผื่อแผ่มาถึงเราคนสังเกตุการณ์ที่ได้กาแฟเย็นคลายร้อนจากคุณลุงคุณป้าและน้องสาวใจดีหยิบยื่นให้คนละแก้ว พร้อมกำชับว่าอาจยังไม่อร่อยมากนะ ลองดื่มดู ~ เย็นชื่นใจ หอมกาแฟหวานกำลังดีเลยค่ะ
ความต่างของวัยจึงไม่ใช่อุปสรรค แต่ทำให้คนสอนอย่างครูโค้กเห็นมุมมองกว้างขึ้นและเข้าใจคนมากขึ้น
“กลุ่มนักเรียนแต่ละกลุ่มไม่เหมือนกัน ในหนึ่งวันจะมี 3 รอบ รอบเช้า รอบบ่าย และรอบค่ำ จากที่สังเกตรอบเช้าจะเป็นกลุ่มคุณแม่บ้าน คนเกษียณแล้ว ว่างแล้ว กลุ่มที่ 2 เริ่มเป็นกลุ่มวัยกลางคนสัก 30 – 40 ที่มีแนวโน้มว่าจะเปิดร้าน เริ่มมีเป้าหมายมากขึ้นว่าอยากมาเรียนเพื่อเปิดร้าน ไม่เหมือนรอบเช้าที่ส่วนใหญ่เขามาเรียนเพราะอยากรู้ อยากทำดื่มเองทำให้ครอบครัว ลูกหลาน เป็นสโลบาร์ไม่ใช้อุปกรณ์เยอะ
“ส่วนรอบค่ำ จะเป็นวัยรุ่น วัยกลางคน 20 ปลายๆ 30 ต้นๆ วัยทำงาน เลิกงานเย็นๆ ก็มาเรียน กลุ่มนี้ผมมองว่าเป็นกลุ่มที่หาสกลิลเพิ่ม แตกแยกย่อยงานอื่นได้ หลายคนมาเรียนเพื่อเอาไปใช้ต่างประเทศก็มี ติดสกิลไว้ไปหาโอกาส บางคนมีช่องทางจะไปต่างประเทศแต่ยังไม่มีวิชา ไม่รู้เรื่องการชงน้ำก็มาเรียน
“ผมสอนคนหลายรุ่น วิชานี้เลยกลายเป็นวิชาที่ทำให้หลายกลุ่มคนมาเจอกันหลายอายุ หลายอาชีพ ทัศนคติก็หลากหลายรูปแบบ บางคนเป็นนายทหารเก่า วิศวะ ผู้พิพากษา นายธนาคารก็มาเรียนกัน เราก็ได้คุยกับคนหลากหลายกลุ่มหลายวัย เลยมีชุดความคิดที่มันหลากหลายมากขึ้น ทุกวันนี้เราเลยกลายเป็นคนที่คุยกับคนได้ทุกวัย ปรับตัวได้ รู้ว่าคนนี้ต้องใช้คำพูดประมาณไหน ทอปปิกที่คุยประมาณไหน เข้าหาเขายังไง บรรยากาศการเรียนเลยสบายๆ”
“กลายเป็นสังคมที่มันใหญ่มากขึ้น คนโน้นช่วยเหลือคนนี้ คนนี้มีปัญหาอะไรก็ช่วยกัน เกื้อกูลกันหมด ทุกคนมาเจอกันได้โดยที่เราอยู่ตรงกลาง เราเลยรู้สึกดี ตอนเด็กๆ เราได้โอกาสจากคนอื่นเยอะมากทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน พอเราอยู่ในจุดที่เป็นฝ่ายให้คนอื่นได้แม้จะเล็กน้อย แต่ถ้าคนรับเขาแฮปปี้กับสิ่งที่เราให้แล้วอะ มันคือความสุขมากกว่าเงินที่ได้รับอีกนะ
ถึงเป้าหมายไม่ใช่การอยากเปิดร้าน อยากเป็นบาริสต้าก็เรียนได้
ต้องยอมรับว่าคอร์สบาริสต้าที่เปิดสอนทั่วไปนั้นค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับคอร์สบาริสต้าเบื้องต้นของที่นี่ที่เข้าถึงง่ายค่าสมัคร 105 บาท ค่าวัตถุดิบในการเรียนทำแต่ละเมนูก็หารกันกับเพื่อนร่วมห้อง จึงได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ จากทั้งคนมีฝันอยากเปิดร้านกาแฟเป็นอาชีพหลัก เป็นอาชีพเสริม อาชีพหลังเกษียณ และเตรียมพร้อมเป็นบาริสต้า ซึ่งแต่ละรุ่นที่จบมาก็เดินตามฝันของตัวเองบ้างเปิดร้าน ได้งานเป็นบาริสต้าที่ต่างประเทศอยู่หลายคน จนถึงคนที่อยากได้ความรู้ไปชงน้ำอร่อยๆ ให้ครอบครัวและคนที่บ้านดื่มเช่นนักเรียนในคลาสที่เราได้มีโอกาสพูดคุยกันสั้นๆ ระหว่างเรียนวันนี้ค่ะ
“ตอนนี้ทำงานเป็นสถาปนิกครับ พอดีใกล้เกษียณแล้ว เราอยากกลับไปอยู่ต่างจังหวัดเปิดร้านอาหารร้านกาแฟเล็กๆ ในครอบครัว จะได้มีอะไรทำหลังเกษียณ เลยมาลงเรียนที่นี่เพราะค่าใช้จ่ายไม่แพง แล้วก็ใกล้บ้าน แต่ลงทะเบียนยากมากครับฮ่าๆ เปิดแป๊บเดียวเต็มแล้ว มาเรียนก็ดีนะครับ สนุกดี อาจารย์สอนดีนะเนื้อหาครอบคลุม ถ้าไปเรียนที่อื่นคอร์สเป็นหมื่นได้เรียน 2 วัน เรียนที่นี่เอาไปเลย 90 ชั่วโมง ว่างๆ มาเรียนสิ” – วราวุฒิ อายุ 59 ปี
“เคยทำงานพาสไทม์ร้านกาแฟมาก่อนค่ะ แต่แค่ผิวเผินไม่ได้มีความรู้มากมายอะไร ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว แล้วอยู่ในช่วงว่างพอดีเลยอยากจะหาความรู้ไว้ ไม่ได้คิดจะเปิดร้านอะไรนะคะ ยังไม่รู้ด้วยว่าจะทำบาริสต้าไหม แต่มีความรู้ติดตัวไว้ก็ดี ก็มาเจอที่นี่ คอร์สเรียนถูกมากกก ถ้าเทียบกับที่อื่น ถูกแบบ… พอมาเรียนก็มีอีกเยอะเลยที่เราไม่รู้มาก่อน ตอนเราทำงานร้านกาแฟก็รู้แค่ผิวเผิน มันยังมีอะไรที่เราไม่รู้ และควรต้องรู้อีกเยอะเลยจริงๆ” – มีน รวิสรา อายุ 23 ปี
“บ้านเราอยู่ใกล้โรงเรียน เกษียณแล้วว่าง อยากจะทำน้ำพวกนี้ทานที่บ้าน อายุ 70 แล้วไง เลยไม่ได้คิดเรื่องหาเงินแล้วจริงๆ เราไม่ได้ชอบดื่มกาแฟด้วยนะ แต่หลักสูตรนี้เขามีสอนน้ำอื่นๆ ด้วยไง น้ำชงที่เราสนใจอย่างพวกโซดา ตั้งใจเรียนไว้ชงกินที่บ้านหรืออย่างเพื่อนเราจัดงานเลี้ยง เราก็ไปเป็นบาริสต้าให้เขาได้นะคะ
“อาจารย์ก็ใจดี ไม่มีไหนเขาสอนจับทำลายลาเต้ทีละคนแบบนี้นะคะ นี่เขาตั้งใจกับเรามาก บอกเทคนิคละเอียดทุกอย่างเลยอย่างคราวที่แล้วก็มาเรียนทำอาหารที่นี่นะ อาหารนานาชาติ อาหารไทย จริงๆ ตอนแรกจะลงเรียนโซลาเซล แต่เห็นบาริสต้าป๊อปอัพขึ้นมาพอดี จำได้ว่าลงทะเบียนยากมาก เลยรีบลง ชอบเรียนค่ะ น้ำไม่เต็มแก้วไง เติมได้เรื่อยๆ” – จิตติยา อายุ 70 ปี
นอกจากหลักสูตรบาริสต้า ที่โรงเรียนฝึกอาชีพยังมีรายวิชาน่าสนใจทั้งอาหารไทย อาหารนานาชาติ ด้านคอมพิวเตอร์ ศิลปะภาษา โหราศาสตร์ สารสนเทศ และอื่นๆ อีกกว่า 200 หลักสูตรเลยค่ะ
ใครสนใจลองดูรายวิชาและติดตามประกาศรับสมัครได้ที่ http://www.bmatraining.ac.th
Contributor
Tags:
Recommended Articles
Recommended Videos