ดื่มด่ำกับบรรยากาศและรสชาติแห่งเทศกาล ผ่านบันทึกถึงตลาดคริสต์มาสในประเทศเยอรมนี
ช่วงเวลาใกล้สิ้นปี ทุกคนคงจะนึกถึงบรรยากาศรื่นเริงของเทศกาลต่างๆ ที่ทยอยใกล้เข้ามา หนึ่งในเทศกาลที่ทุกคนตั้งตารอก็คงหนีไม่พ้น เทศกาลคริสต์มาส ที่มีบรรยากาศของความสนุกสนานรื่นเริง
และแน่นอนว่าถ้ามีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงเวลานี้เราก็จะคิดถึงตลาดคริสต์มาส (Christmas Market) ตามเมืองต่าง ๆ ที่นอกจากจะมีร้านค้าต่าง ๆ มากมายให้ได้เลือกซื้อหาสินค้าตามเทศกาลแล้ว ตลาดคริสต์มาสของแต่ละเมืองนั้นก็จะอบอวลไปด้วยบรรยากาศของเทศกาลสำคัญนี้รวมถึงจะมีของอร่อยของเมืองนั้น ๆ ให้ได้ชิมกันด้วย
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มีโอกาสได้เดินทางไปเยอรมนี ตั้งใจจะไปเที่ยวตลาดคริสมาสต์ตามเมืองต่าง ๆ ซึ่งแต่ละเมืองจะมีตารางเวลาของตลาดเปิดไม่เหมือนกัน บางเมืองมีตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน แต่บางเมืองก็มีตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงประมาณต้นเดือนมกราคม เพราะฉะนั้นถ้าตั้งใจจะไปเที่ยวเมืองไหนก็ลองตรวจสอบเวลาของตลาดคริสต์มาสในแต่ละเมืองด้วยนะคะ
เราเริ่มต้นการเดินทางที่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต หลังจากตระเวนเที่ยวในเมืองและย่านเมืองเก่าก็พบว่าตลาดคริสต์มาสในเมืองนี้เพิ่งจะเริ่มตั้งร้านรวง (ให้เราดีใจ) แต่ว่ายังไม่เปิดจนกว่าจะปลายเดือนพฤศจิกายน
ถึงแม้จะพลาดหวังจากการไปเที่ยวตลาดคริสต์มาสในเมือง แต่เราไม่พลาดที่จะชิมของอร่อยของเมืองแฟรงค์เฟิร์ต ไม่ว่าจะเป็นขาหมู ไส้กรอกแฟรงค์เฟอร์เตอร์ และขนมปังเพรสเซล Pretzel ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเราได้เดินทางมาถึงเยอรมนีแล้ว
เราเดินทางต่อไปยังเมืองโคโลญจน์ (Cologne หรือ Kӧln ในภาษาเยอรมัน) เมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีตลาดคริสต์มาสที่สวยและน่าเดินติดอันดับ 1 ใน 10 ของตลาดคริสต์มาสที่ควรได้มาเยี่ยมชม โคโลญจน์ต้อนรับเราด้วยความหนาวเย็นที่อุณหภูมิเกือบศูนย์องศาแถมด้วยฝนที่ตกมาแบบไม่ตั้งตัว เราจึงได้เดินเที่ยวตลาดคริสต์มาสแบบได้บรรยากาศความหนาวเย็นสุดๆ
เราได้ไปตลาดคริสต์มาส 2 แห่ง ที่แรกเป็นตลาดคริสต์มาสที่อยู่ในย่านเมืองเก่า ชื่อ The Heinzelmännchen ตลาดคริสต์มาสนี้เป็นตลาดเก่าแก่และใหญ่ที่สุดของเมือง และที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดคือลานสเก็ตน้ำแข็งที่เปิดให้คนเข้ามาเล่นสเก็ตและเราก็ได้ชมการเล่นสเก็ตน้ำแข็งท่ามกลางบรรยากาศและเสียงเพลงของเทศกาลคริสต์มาส เรียกได้ว่าเป็นตลาดคริสต์มาสในฝันกันเลยค่ะ
และแน่นอนว่าเพื่อให้ได้บรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาสอย่างสมบูรณ์แบบและเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายเราก็ต้องไม่พลาดที่จะชิมไวน์ร้อน หรือ mulled wine ไวน์แดงต้มผสมน้ำตาลและเครื่องเทศ เครื่องดื่มที่จะมีให้ได้ชิมเฉพาะในเทศกาลนี้เท่านั้น ไวน์ร้อนรสชาติออกเปรี้ยวอมหวาน และช่วยให้เรารู้สึกอุ่น ๆ พอที่จะเดินเที่ยวต่อได้
ออกจากตลาดคริสต์มาสในย่านเมืองเก่า เราได้ไปแวะตลาดคริสต์มาสที่อยู่ใกล้กับโบสถ์โคโลญจน์เป็นการส่งท้าย ที่นี่มีเวทีการแสดงดนตรีและร้านค้ามากมายละลานตาไปหมดทั้งของกิน งานฝีมือ ของตกแต่งสำหรับเทศกาลคริสต์มาส ยิ่งค่ำคนยิ่งมาเดินเที่ยวตลาดกันแน่นไปหมด เดินไปพลางหันไปมองโบสถ์โคโลญจน์ที่เป็นฉากหลังของตลาดนี้ ก็ทำให้บรรยากาศของตลาดคริสต์มาสนี้มีทั้งความขลังและสนุกสนานรื่นเริงรวมกันไป
ที่หมายต่อไปของเราคือเมืองเบอร์ลิน หลังจากที่หาข้อมูลว่ามีตลาดคริสต์มาสที่ไหนเปิดบ้างในช่วงเวลาที่เราเดินทางไปถึง ก็พบว่ามีตลาดคริสต์มาสที่ใกล้โบสถ์เก่า the Kaiser Wilhelm Memorial Church เปิดในช่วงเวลานั้นพอดี บรรยากาศตลาดคริสต์มาสที่นี่สดใส สว่างไสว ด้วยไฟประดับส่วนหนึ่งจากโบสถ์ บรรดาร้านค้าตกแต่งกันอย่างสวยงามได้บรรยากาศของเทศกาลแห่งความรื่นเริง
เราได้ชิมอาหารที่เป็นจานอร่อยของเมืองเบอร์ลิน คือ Currywurst ไส้กรอกและซอสเคอรรี่ รวมถึง Bratwurst ไส้กรอกย่างที่เสริ์ฟมาพร้อมขนมปังแบบฮอตดอก เป็นสตรีทฟู้ดที่อยู่คู่กับงานออกร้านตามเทศกาลต่าง ๆ
และขอบอกว่าการได้ชิมไส้กรอกร้อน ๆ ขณะเดินชมบรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาสคือความรื่นรมย์ของเทศกาลโดยแท้
เรายังได้ชิม Mulled wine ของที่นี่ด้วยซึ่งถ้าอยากจะเลือกแก้วลายสวยกลับบ้านเป็นที่ระลึกด้วยก็จ่ายเงินเพิ่มอีกหน่อย นอกจากนี้ยังมีขนมปังไส้เห็ดที่อบเสร็จร้อนๆ ให้ได้ชิมกันตอนขนมปังออกจากเตากันเลยทีเดียว ยังมีผลไม้เคลือบน้ำตาลทั้งองุ่นลูกเล็กหรือแอ๊ปเปิ้ลลูกโตให้ได้เลือกชิมกัน
ที่จะลืมไม่ได้ก็คือขนมอร่อยคู่กับเทศกาลคริสต์มาสของเยอรมัน นั่นก็คือ Stollen ขนมปังผสมผลไม้ที่แช่ในเหล้า และสอดไส้ด้วยมาร์ซิพาน โรยหน้าด้วยน้ำตาลไอซิ่ง ซึ่งไม่ว่าคุณจะไปเดินตลาดคริสต์มาสที่ไหนในเยอรมนี รับรองได้ว่าจะมีร้านขาย Stollen ในตลาดนั้น ๆ แน่นอน
นอกจาก Stollen ก็จะมีร้านขายขนมปังขิงที่วาดลวดลายสวยงามตามเมืองนั้น ๆ น่ารักจนเลือกไม่ถูกอยากจะหยิบกลับบ้านไปทุกลาย
ส่งท้ายทริปด้วยการซื้อของฝาก คงไม่มีอะไรจะเหมาะไปกว่าขนมที่เป็นเอกลักษณ์ของเยอรมัน อย่างเจ้าหมีน้อยฮาริโบ เยลลี่กัมมี่แบร์ เยลลี่ผลไม้รูปหมีที่เคี้ยวหนึบเคี้ยวสนุกกันได้ทุกวัย ที่มีถิ่นกำเนิดและคิดค้นขึ้นโดย Johannes ‘Hans’ Riegel Sr. ตั้งแต่ปี 1922
ที่เบอร์ลินนี้เราได้ไปแวะร้านฮาริโบ ร้านใหญ่มีเยลลี่กัมมีแบร์ทุกรูปแบบหลากหลายรส ทั้งกัมมีแบร์รูปหมีแบบดั้งเดิม หรือแบบเส้น แบบเกลียว หรือเยลลี่รูปขนมปังเพรสเซลก็มี เรียกว่าละลานตามากเลือกกันไม่ถูกเลย แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบไหนรับรองว่าของฝากนี้ต้องถูกใจคนรับแน่นอนค่ะ
เรื่องและภาพโดย: สุวรรณะ สมสวัสดิ์
ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว การได้เดินทางท่องเที่ยวทุกครั้งเหมือนเป็นการได้ไปผจญภัย เราไม่รู้เลยว่ามีอะไรรออยู่ข้างหน้าบ้าง แต่ก็ถือเป็นโอกาสดีที่ทำให้เราได้รู้จักโลกนี้ในแง่มุมต่างๆ มากขึ้น และแน่นอนว่าถ้าได้ไปชิมของอร่อยจากมุมต่างๆ ของโลกด้วยก็ยิ่งทำให้การผจญภัยนี้มีรสชาติมากขึ้นด้วย
Contributor
Tags:
Recommended Articles