เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

food story

คามิโคจิครั้งแรก…ที่ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย

Story by พิมพ์ธาดา ปฐมโภคินเสถียร

เที่ยวญี่ปุ่นผ่านสายตาของตากล้อง KRUA.CO

คามิโคจิจะเปิดช่วง 17 เมษายน ถึง 15 พฤศจิกายน ของทุกๆ ปี ใครที่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วชอบความธรรมชาติ คามิโคจิเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สวยมากและควรค่าแก่การนั่งรถไปมากๆ เลยค่ะ เรามีโอกาสไปมาเมื่อ 31 ตุลาคมปีที่แล้ว ได้ไปเจอกับช่วงที่เป็นใบไม้เปลี่ยนสีกำลังสีเหลืองทองอร่ามไปทั่วป่า ตัดกับสีแม่น้ำเขียวอมฟ้าที่ใสจนมองเห็นก้อนหินน้อยใหญ่อยู่

 

 

 

 

ด้านล่างคามิโคจิสามารถเดินทางมาได้หลายเส้นทาง แต่เราเลือกมาพักที่ Matsumoto แล้ววันรุ่งขึ้นก็รีบมากดซื้อตั๋วรถไฟไปคามิโคจิที่ Matsumoto Station เรานั่งรถบัสมาลงที่ Taishopond เป็นบึงที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ Yakadake ในปี 1915 แค่จุดแรกวิวที่อยู่ตรงหน้าก็สวยเกินคำบรรยายแล้ว เรายืนมองออกไปเห็นถึงความสงบของสายน้ำ เงาต้นไม้และภูเขาที่สะท้อนน้ำราวกับภาพวาด

 

 

 

 

 

 

 

เดินมาสักพักก็มาถึง Kappabridge จุดแลนด์มาร์คที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูป เพราะจุดนี้จะเห็นทั้งเทือกเขาและแม่น้ำไหลผ่าน มีร้านอาหารและโรงแรมอยู่รอบๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

และเราก็ได้ลองชิมทาร์ตแอปเปิ้ลของร้าน TroisCinqKamikochi รสชาติออกแนวคลีนๆ กินแล้วรับรสความอร่อยของแอปเปิ้ลแบบธรรมชาติได้ดี ปรุงแต่งน้อยๆ ตัวแป้งออกนิ่มๆ เราชอบตัวไส้แอปเปิ้ลมากๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นั่งพักเติมพลังสักพักใหญ่ เราก็มุ่งหน้าไปที่ Myojin pond ตั้งใจจะไปกินปลาย่างเกลือ ซึ่งใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง ที่นานเพราะเดินไปแวะถ่ายรูปไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ถึงร้านประมาณบ่ายโมงครึ่ง ร้านชื่อ Kamonjigoya Restaurant

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ร้าน Kamonjigoya Restaurant เป็นร้านที่จับปลาสดๆ จากลำธารหน้าร้านแล้วนำมาย่างอย่างพิถีพิถันให้ลูกค้า

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เซ็ตที่เราสั่งเป็นเซ็ตปลาอิวานะย่างเกลือ เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียงผักดองซุปมิโสะและข้าวเนื้อปลาย่าง รสชาติหวานเค็มนัวไม่มีกลิ่นคาว กินคู่กับเครื่องเคียงแล้วเข้ากันได้ดี

 

 

 

 

 

 

 

ทางร้านย่างมาแบบข้างนอกกรอบแต่เนื้อปลายังนุ่มฟู ตัวปลาสามารถกินได้ทั้งตัวเพราะก้างเล็กและไม่แข็งเลย กินไปชมบรรยากาศที่สวยงามไปทำให้ลืมความเหนื่อยทั้งหมดที่เดินมาเลยทีเดียว ใครมีแพลนจะมาคามิโคจิอย่าลืมแวะมากินกันนะคะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

***ในอุทยานถังขยะค่อนข้างหายากแนะนำให้พกถุงใส่ขยะไปด้วย ***

 

 

 

 

วิธีการเดินทางไปคามิโคจิ
– นั่งรถบัสมาจาก Matsumoto Bus Terminal รถบัสจะมีวันละ 2 รอบ คือ 5:30 น. และ 10:15 น. (ค่ารถบัส4,450เยน/เที่ยว) **แนะนำให้จองตั๋วออนไลน์ล่วงหน้าทาง เว็บไซต์ของ Alpico เพราะตั๋วเต็มเร็วมากๆ ค่ะ
– นั่งรถไฟ จาก Matsumoto Station ไปลง Shin-Shimashima Station แล้วต่อรถบัสเข้าไปในคามิโคจิ
(ค่ารถไฟ 710 เยน/เที่ยว และค่ารถบัส 3,000 เยน/เที่ยว)
– นั่งรถบัสจากโตเกียว สามารถขึ้นได้ที่ Shinjuku Expressway Bus Terminal มีรอบ 7:15 น. ถึงคามิโคจิ 12:02 น. และรอบ 22:25 น. ถึงคามิโคจิ 5:20 น.
(ค่ารถบัสรอบกลางวัน 8,000 – 12,000 เยน/เที่ยว ค่ารถบัสรอบกลางคืน 10,000 – 16,000 เยน/เที่ยว) 

Share this content

Contributor

Tags:

ร้านอร่อยญี่ปุ่น

Recommended Articles

Food StoryMEGURO miso soup stand ร้านที่ต่อให้คุณไปถึงโอกินาว่าก็ไม่ได้กินแล้ว
MEGURO miso soup stand ร้านที่ต่อให้คุณไปถึงโอกินาว่าก็ไม่ได้กินแล้ว

เปิดประสบการณ์กินมิโสะแบบ Specialty ที่ผ่านศาสตร์กับการทำกาแฟแบบญี่ปุ่น