‘ทุเรียน’ ได้รับฉายาว่าเป็นราชาแห่งผลไม้ ด้วยเปลือกที่มีหนามแหลมคมคล้ายมงกุฏของพระราชา และเนื้อในที่มีรสชาติอร่อย มีกลิ่นเฉพาะตัวแบบไม่มีใครเหมือน มีหลากหลายพันธุ์ แต่ละพันธุ์ก็มีทั้งลักษณะของผลและเนื้อที่แตกต่างกันออกไป ทุเรียนส่วนมากจะปลูกกันมากแถบภาคตะวันออก เช่น จันทบุรี ตราด ระยอง ซึ่งจะออกสู่ตลาดช่วงเดือนพฤษภาคม – เดือนมิถุนายน  แต่ก็มีทุเรียนจากแถบภาคใต้ เช่น ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ที่จะออกสู่ตลาดช่วง เดือนกรกฎาคม – เดือนสิงหาคม รวมทั้งยังมีทุเรียนจากจังหวัดอื่นๆ อาทิ นนทบุรีอีกด้วย 

หน้าทุเรียนที่เราคุ้นเคยกันดีคือช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ที่เดินไปไหนก็จะพบทุเรียนเต็มไปหมด ซึ่งนอกจากซื้อหาง่าย ข้อดีของการรับประทานทุเรียนในช่วงฤดูกาล ยังเป็นช่วงที่ทุเรียนอร่อยที่สุด เนื้อหวานมัน และนี่คือ 6 สายพันธุ์ทุเรียนแสนอร่อยที่เหล่าทุเรียนเลิฟเว่อร์ไม่ควรพลาด 

ก้านยาว 

เป็นพันธุ์ที่มีราคาแพง หากินได้ค่อนข้างยาก เนื้อละเอียด รสชาติมันมากกว่าหวาน กลิ่นอ่อนไม่ฉุน เมล็ดใหญ่ นิยมปลูกในจังหวัดนนทบุรี ลักษณะเด่นคือก้านจะยาวกว่าทุเรียนพันธุ์อื่น เปลือกค่อนข้างหนา ทุเรียนก้านยาวที่ดีจะต้องมีก้านที่แข็งอวบใหญ่และไม่แตก มีหนามเรียงเป็นระเบียบ ถือเป็นสุดยอดของทุเรียนนนท์ ราคาบางพื้นที่ขายกันกก. ละนับพันบาท แต่ความอร่อยก็สูงไม่แพ้ราคาทีเดียว

หมอนทอง 

พันธุ์ยอดฮิตเป็นที่นิยมของคนทั่วไป เนื่องจากหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง  กลิ่นไม่แรงมาก เนื้อเยอะ รสชาติอร่อย หวานมันกำลังดี ทุเรียนหมอนทองที่ดีจะต้องมีผลขนาดใหญ่ รูปร่างหนามแหลมตรง น้ำหนักประมาณ 3-4 กิโลกรัม เนื้อละเอียดและแห้ง ไม่แฉะติดมือ มีสีเหลืองอ่อน เมล็ดเล็กและลีบ ที่สำคัญต้องมีรสชาติที่ไม่หวานจนเกินไป ส่วนมากราคาตามท้องตลาดในช่วงฤดูกาล จะอยู่ที่ 160 – 200 บาท ต่อกก. 

ชะนี 

ผลขนาดปานกลาง แต่หนามมีขนาดใหญ่และสั้น ระยะหนามห่างกัน เนื้อละเอียด เนียน เหนียว สีเหลืองจัด รสชาติหวานหอม เมล็ดค่อนข้างเล็กและมีจำนวนเมล็ดน้อย เนื้อเหนียวหนุบหนับ หอมหวานอ่อนๆ กินตอนห่ามๆ หรือสุกใหม่ๆ จะอร่อยมาก หรือจะกินตอนสุกมากจนเนื้อเละไปเลยก็อร่อยอีกแบบ ราคากก. ละ 140-180 บาท และเป็นสายพันธุ์ที่คนนิยมนำไปแปรรูปเป็นอาหารหรือขนม เช่น ข้าวเหนียวมูนทุเรียน เค้กทุเรียน บัวลอยทุเรียน เนื่องจากเป็นสายพันธุ์ที่กลิ่นแรง รสจัด ทำให้อาหารหรือขนมชนิดนั้นๆ มีกลิ่นหอมของทุเรียนอย่างเป็นเอกลักษณ์ 

หลงลับแล 

เริ่มฮิตกันมาซักพักใหญ่ๆ แล้ว แต่บางคนอาจยังไม่เคยลอง ด้วยเพราะถิ่นกำเนิดต้นตำรับนั้นอยู่ที่อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่มีการผสมข้ามสายพันธุ์กันไปมาจนได้ทุเรียนพันธุ์ดี มีลักษณะเป็นผลขนาดเล็ก ทรงกลมรี รสชาติหวานมัน เนื้อเหนียวละเอียด เมล็ดเล็กลีบ และกลิ่นไม่แรง จึงทำให้หลงลับแลเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่คนนิยมรับประทาน แต่ด้วยราคาที่ ค่อนข้างสูงกก.ละ 250-350 บาท อาจทำให้หลายคนเมินไปซื้อพันธุ์ที่ราคาถูกกว่า ซึ่งขอบอกว่าเจ้าหลงลับแลลูกเล็กๆนี้  มีรสชาติอร่อย แถมมีกลิ่นที่ไม่เหมือนพันธุ์อื่นๆ ได้ชิมรับรองต้องติดใจ

กระดุม 

พบเห็นในท้องตลาดได้เร็วกว่าเพื่อนคือตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม หาซื้อง่าย ราคาถูก เพราะเป็นพันธุ์ที่ปลูกง่าย ได้ผลผลิตเร็ว ผลค่อนข้างเล็กน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม เนื้อละเอียดอ่อนนุ่ม สีเหลืองอ่อน แต่เนื้อค่อนข้างบางและมีเมล็ดขนาดใหญ่ กลิ่นอ่อน รสชาติหวานแต่ไม่มันเหมือนพันธุ์อื่นๆ ราคากก. ละ 90 – 140 บาท เรื่องเนื้อ อาจจะสู้หมอนทองและก้านยาวไม่ได้ แต่จุดเด่นคือมาก่อนใครเพื่อน เพราะทุเรียนกระดุมนั้นออกผลไวกว่าทุเรียนพันธุ์อื่นๆ ใครอยากกินทุเรียนมากรอไม่ไหวแล้ว ก็จัดพันธุ์กระดุมไปก่อนระหว่างรอพันธุ์โปรด  

พวงมณี 

เป็นสายพันธุ์ทุเรียนพื้นเมืองของภาคตะวันออก แม้จะไม่ได้รับความนิยมเท่าสายพันธุ์อื่นๆ แต่ช่วงหลังนี้เริ่มมีคนสนใจพวงมณีกันมากขึ้น เพราะรสชาติอร่อยไม่แพ้ใคร ลักษณะเด่นๆ คือลูกเล็กกว่าพันธุ์อื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด เนื้อละเอียดสีเหลืองเข้ม รสชาติหวานจัด ข้อเสียคือเนื้อค่อนข้างน้อย และหาซื้อยากกว่าทุเรียนพันธุ์อื่นๆ เพราะชาวสวนมักปลูกหมอนทองและก้านยาวกันเป็นส่วนมาก ปลูกพวงมณีแค่ไม่กี่ต้น ราคาตามท้องตลาดตกอยู่ที่ 110 – 130 บาทต่อกก. ราคาจับต้องได้ แถมเหมาะกับคนไม่อยากกินทุเรียนเยอะ เพราะพวงมณีนั้นลูกเล็กน่ารัก 1 ลูกเหมาะกับแค่ 1-2 คนกินเท่านั้น