กระเจี๊ยบมาตุ๋นกับหมูสามชั้น ให้เนื้อสามชั้นนั้นเปื่อยนุ่ม โดยได้แรงบันดานใจมาจาก หมูตุ๋นไวน์แดงของฝรั่ง เลยคิดว่ากระเจี๊ยบเราก็มีความเป็นกรด รสเปรี้ยว ก็น่าจะทดแทนกันได้กับไวน์แดง จึงนำมาตุ๋น โดยในหม้อที่ตุ๋นนั้นก็จะประกอบไปด้วยหอมใหญ่ กระเทียม พริกไทย และใบกระวาน เพิ่มกลิ่นและรสชาติให้กับหมูสามชั้นตุ๋นในครั้งนี้ ใช้เวลาเคี่ยวนานประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อให้เนื้อหมูมีความนุ่ม จากนั้นก็นำออกมาตัดให้เป็นชิ้นพอคำ นำไปทอดในกระทะให้เหลืองสวยทุกด้าน จากนั้นก็จะนำกระเจี๊ยบสดมาซอยเป็นเส้น ผัดให้นุ่มรวมกับหอมใหญ่ เบคอน ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อยเพื่อตัดรสเปรี้ยว ส่วนนำที่เคี่ยวก็นำมากรองเอาแต่น้ำแล้วนำไปเคี่ยวให้งวด ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายแดง เกลือ และพริกไทยเล็กน้อย จากนั้นค่อยใส่วิปปิ้งครีมและเนยตอนท้าย เพื่อให้ได้รสชาติซอสที่กลมกล่อม จากนั้นก็จัดเสิร์ฟกับมันบด และแครอทผัดเนย
INGREDIENTS
น้ำมันมะกอก
3 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่หั่นสี่
1 หัว
กระเทียมกลีบใหญ่บุบ
4 กลีบ
ดอกกระเจี๊ยบแดงแกะกลีบ
200 กรัม
ใบกระวาน
4 ใบ
พริกไทยเม็ดหลากสี
½ ช้อนชา
หมูสามชั้นขนาด (5 x 6 นิ้ว)
500 กรัม
น้ำ
1.5 ลิตร
เกลือสมุทร
2 ช้อนชา
แครอทผัดเนย สำหรับจัดเสิร์ฟ
ผักสลัดสำหรับตกแต่ง
METHOD
1. ทำหมูสามชั้นตุ๋นกระเจี๊ยบโดยตั้งหม้อบนไฟกลางใส่น้ำมันมะกอกลงในหม้อ พอร้อนใส่หอมใหญ่ กระเทียม กระเจี๊ยบ ใบกระวาน และพริกไทยเม็ดหลากสีลงในหม้อ ผัดให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน ใส่หมูสามชั้นลงในหม้อ (โดยเอาด้านหนังลง) พอด้านหนังเริ่มตึงกลับด้านเนื้อหมู เติมน้ำ ปรุงรสด้วยเกลือสมุทร พอน้ำเดือด ลดเป็นไฟอ่อน เคี่ยวนานประมาณ 2 ชั่วโมง (ระหว่างเคี่ยวหมันช้อนฟองออกเป็นระยะ)
2. ระหว่างเคี่ยวเนื้อหมู เตรียมมันบดโดยตั้งหม้อน้ำบนไฟกลาง ใส่มันลงในหม้อ ต้มนานประมาณ 15 นาที หรือจนมันจะสุก โดยใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงในมัน ถ้าเนื้อมันหลุดออกมาแสดงว่าเนื้อมันสุกได้ที่แล้ว ตักขึ้น ปอกเปลือกออก บดมันโดยใช้ส้อมบีเนื้อมันให้ละเอียด ใส่วิปปิ้งครีมและเนย คลุกเคล้าส่วนผสมของมันให้เข้ากันดี ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยปริมาณตามชอบ พักไว้
3. ทำกระเจี๊ยบผัดโดยตั้งกระทะน้ำมันมะกอกบนไฟกลาง พอร้อนใส่หอมใหญ่และเบคอนลงผัดให้สุกหอม จากนั้นใส่ดอกกระเจี๊ยบลงผัดพอเริ่มนุ่ม ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ และพริกไทย ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่น้ำลดเป็นไฟอ่อน เคี่ยวให้พอน้ำงวด ปิดไฟ พักไว้
4. พอครบกำหนดหมูตุ๋นได้ที่ ตักหมูตุ๋นขึ้นมา ตัดเป็นชิ้น ขนาดประมาณ 2.5 x 2.5 นิ้ว ใช้ส้อมจิ้มบริเวณด้านหนังให้ทั่ว พักไว้ จากนั้นกรองน้ำที่ตุ๋นเอาแต่น้ำเก็บไว้ ทำซอสกระเจี๊ยบโดย ตั้งหม้อบนไฟกลาง ใส่น้ำที่เคี่ยวหมูลงในหม้อ ใส่น้ำตาล เคี่ยวจนน้ำเริ่มงวด ใส่วิปปิ้งครีมและเนย คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ปิดไฟ พักไว้
5. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลาง พอร้อนนำหมูสามชั้นที่เตรียมไว้ ลงทอดโดยนำด้านหนังลงทอดก่อน จนหนังเริ่มฟูพองเล็กน้อย พลิกกลับด้าน ทอดให้ทั่วเนื้อหมู ทอดพอแค่มีสีเหลืองสวย ปิดไฟ พักไว้บนตะแกรง
6. จัดเสิร์ฟโดยตักมันบดลงในจาน ตามด้วยเนื้อหมู แครอท และกระเจี๊ยบผัด ราดด้วยน้ำซอสที่เคี่ยว ตกแต่งด้วยผักสลัด
อ่านบทความเพิ่มเติม
Gallery
Recommended Articles
หมูม้วนสอดไส้แฮมและชีสทาด้วยซอสพะแนงรสชาติกลมกล่อม ก่อนม้วนให้แน่นจากนั้นนำไปชุบไข่ แป้ง และเกล็ดขนมปัง ก่อนนำไปทอดให้เหลืองกรอบ กินเล่นๆเพลินๆ เหมาะกับงานปาร์ตี้มากๆ หากปีใหม่นี้บ้านใครมีปาร์ตี้เก็บไว้เป็นไอเดียได้เลย ถ้าทำให้เด็กๆกินก็สามารถไม่ต้องทาซอสพะแนงก็ได้ เปลี่ยนเป็นทอดธรรมดาแล้วจิ้มกับซอสมะเขือเทศ มายองเนสก็พอ
เส้นลิงกุยเน่นำไปลวกให้สุกกำลังพอดี อย่างที่คำเรียกว่า "อัลเดนเต้ (Al Dente)" คือระดับความสุกของเส้นที่กำลังพอดี เคล้าน้ำมันให้เส้นเคลือบน้ำมันจนทั่ว ส่วนตัวซอสที่ราดนั้นใช้มะเขือเทศกระป๋องมาทำโดยการผัดหอมใหญ่ให้สุกใส่แล้วใส่มะเขือเทศกระป๋องลงผัด เคี่ยวให้นุ่ม ปรุงรสด้วย ซอสมะเขือเทศ เกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ได้ตัวซอสแล้ว ส่วนตัวหอยก็นำไปผัดกับกระเทียม ใส่สาเกและน้ำสต๊อกดาชิเพื่อเพิ่มความหอมหวาน จากนั้นก็ตักซอสมะเขือเทศลงผัดให้เคลือบตัวหอยจนทั่ว ก่อนนำมาราดเสิร์ฟบนเส้นลิงกุยเน่ที่เตรียมไว้
หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
หมูม้วนสอดไส้แฮมและชีสทาด้วยซอสพะแนงรสชาติกลมกล่อม ก่อนม้วนให้แน่นจากนั้นนำไปชุบไข่ แป้ง และเกล็ดขนมปัง ก่อนนำไปทอดให้เหลืองกรอบ กินเล่นๆเพลินๆ เหมาะกับงานปาร์ตี้มากๆ หากปีใหม่นี้บ้านใครมีปาร์ตี้เก็บไว้เป็นไอเดียได้เลย ถ้าทำให้เด็กๆกินก็สามารถไม่ต้องทาซอสพะแนงก็ได้ เปลี่ยนเป็นทอดธรรมดาแล้วจิ้มกับซอสมะเขือเทศ มายองเนสก็พอ
เส้นลิงกุยเน่นำไปลวกให้สุกกำลังพอดี อย่างที่คำเรียกว่า "อัลเดนเต้ (Al Dente)" คือระดับความสุกของเส้นที่กำลังพอดี เคล้าน้ำมันให้เส้นเคลือบน้ำมันจนทั่ว ส่วนตัวซอสที่ราดนั้นใช้มะเขือเทศกระป๋องมาทำโดยการผัดหอมใหญ่ให้สุกใส่แล้วใส่มะเขือเทศกระป๋องลงผัด เคี่ยวให้นุ่ม ปรุงรสด้วย ซอสมะเขือเทศ เกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ได้ตัวซอสแล้ว ส่วนตัวหอยก็นำไปผัดกับกระเทียม ใส่สาเกและน้ำสต๊อกดาชิเพื่อเพิ่มความหอมหวาน จากนั้นก็ตักซอสมะเขือเทศลงผัดให้เคลือบตัวหอยจนทั่ว ก่อนนำมาราดเสิร์ฟบนเส้นลิงกุยเน่ที่เตรียมไว้
หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
หมูม้วนสอดไส้แฮมและชีสทาด้วยซอสพะแนงรสชาติกลมกล่อม ก่อนม้วนให้แน่นจากนั้นนำไปชุบไข่ แป้ง และเกล็ดขนมปัง ก่อนนำไปทอดให้เหลืองกรอบ กินเล่นๆเพลินๆ เหมาะกับงานปาร์ตี้มากๆ หากปีใหม่นี้บ้านใครมีปาร์ตี้เก็บไว้เป็นไอเดียได้เลย ถ้าทำให้เด็กๆกินก็สามารถไม่ต้องทาซอสพะแนงก็ได้ เปลี่ยนเป็นทอดธรรมดาแล้วจิ้มกับซอสมะเขือเทศ มายองเนสก็พอ
เส้นลิงกุยเน่นำไปลวกให้สุกกำลังพอดี อย่างที่คำเรียกว่า "อัลเดนเต้ (Al Dente)" คือระดับความสุกของเส้นที่กำลังพอดี เคล้าน้ำมันให้เส้นเคลือบน้ำมันจนทั่ว ส่วนตัวซอสที่ราดนั้นใช้มะเขือเทศกระป๋องมาทำโดยการผัดหอมใหญ่ให้สุกใส่แล้วใส่มะเขือเทศกระป๋องลงผัด เคี่ยวให้นุ่ม ปรุงรสด้วย ซอสมะเขือเทศ เกลือ และน้ำตาลเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็ได้ตัวซอสแล้ว ส่วนตัวหอยก็นำไปผัดกับกระเทียม ใส่สาเกและน้ำสต๊อกดาชิเพื่อเพิ่มความหอมหวาน จากนั้นก็ตักซอสมะเขือเทศลงผัดให้เคลือบตัวหอยจนทั่ว ก่อนนำมาราดเสิร์ฟบนเส้นลิงกุยเน่ที่เตรียมไว้
หมูฮ้อง เนื้อหมูสามชั้นที่ผ่านการเคี่ยวกับน้ำตาลมะพร้าว ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย ซีอิ๊วหวาน ซีอิ๊วดำ และเกลือ พร้อมกับเครื่องสามเกลออย่างรากผักชี กระเทียม และพริกไทย เคี่ยวจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำซอสงวดได้ที่กำลังดี ก่อนจะนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปนึ่งอีกครั้ง ก่อนจัดเสิร์ฟ ขั้นตอนการทำหมูฮ้องสูตรนี้ อาจจะแตกต่างจากหมูฮ้องทั่วๆไป หากเป็นขั้นตอนการทำแบบฉบับของ อาม่า ที่จะนำเนื้อหมูไปทอดให้ด้านหนังตึงและเนื้อมีสีเหลืองสวยเล็กน้อย ก่อนจะนำไปเคี่ยว และจึงนำไปนึ่งตบท้าย เนื้อหมูที่ได้จะมีความนุ่มแต่ไม่เละ ยังมีความสู้ฟันอยู่ ราดมากับน้ำที่เคี่ยวให้งวด บอกได้คำเดียวว่าข้าวจานเดียวไม่เคยพอเลยสำหรับเมนูนี้
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
Recommended Videos