เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
6 คน
Level
2
ของหวานโบราณจากผลไม้หากินยาก พร้อมเคล็ดลับเชื่อมสาเกให้เข้าเนื้อ นุ่ม หนึบ อร่อยหวานมัน
INGREDIENTS
สาเก (ผลละ 850 กรัม
2 ผล
น้ำ
6 ถ้วย
น้ำตาลทราย
2 1/2 ถ้วย (500 กรัม)
น้ำมะนาวสำหรับปอกสาเก
3 ผล
น้ำปูนใสสำหรับแช่สาเก
หัวกะทิ
1 ถ้วย
(มะพร้าวขูดขาว 500 กรัม ใส่น้ำอุ่น 1/2 ถ้วย)
เกลือสมุทร
3/4 ช้อนชา
METHOD
- เตรียมอ่างใส่น้ำสะอาด1 ลิตร บีบมะนาว 2 ผล เตรียมไว้ ก่อนปอกเปลือกสาเกล้างด้านนอกสาเกให้สะอาดก่อน ซับให้แห้ง ใช้มีดคมๆปอกสาเกอย่างรวดเร็ว ระหว่างปอกใช้มะนาวอีกลูกที่เหลือถูที่เปลือกสาเกและใบมีดไปด้วย ไม่ให้สาเกดำ หั่นเนื้อสาเกเป็นแว่นหนา 1 นิ้ว และหั่นครึ่งอีกที แช่สาเกที่หั่นแล้วในน้ำมะนาวประมาณ10 นาที เมื่อครบเวลา ล้างสาเกด้วยน้ำสะอาดอีก 2-3 รอบเพื่อล้างยางออก แล้วแช่สาเกลงในน้ำปูนใสประมาณ1 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาล้างสาเกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง สะเด็ดน้ำพักไว้
- ใส่น้ำและน้ำตาลลงในกระทะทองเหลือง ตั้งบนไฟกลางจนน้ำตาลละลาย แล้วจึงใส่สาเกลงไปเชื่อมลดเป็นไฟกลางค่อนอ่อน ระหว่างนั้นหมั่นกดสาเกให้จมน้ำเชื่อม หรือตักน้ำเชื่อมราดด้านบนสาเกตลอด เชื่อมสาเกประมาณ 1-1.5 ชั่วโมง เมื่อสาเกเป็นสุกและอิ่มน้ำเชื่อมดีจะมีลักษณะใส เป็นเงา
- ทำกะทิสำหรับราดโดยคั้นมะพร้าวขูดขาวกับน้ำอุ่นจะได้หัวกะทิประมาณ 1 ถ้วย ใส่ลงในหม้อ ใส่เกลือ เคี่ยวจนเกือบจะเดือด ปิดไฟ
หมายเหตุ
- สาเกที่ใช้เชื่อมควรเลือกสาเกที่แก่ สังเกตจากผิวจะเรียบตึง ปุ่มจะหายไป ตาห่าง และควรเลือกสาเกพันธุ์ข้าวเหนียว เมื่อเชื่อมแล้วเนื้อจะเหนียวอร่อย
Gallery








Recommended Articles

ใช้น่องไก่ส่วนสะโพกมาหมักกับตะไคร้เเละเครื่องสมุนไพรต่างๆที่ให้กลิ่นหอมเฉพาะตัวและรสชาติกลมกล่อม เมื่อนำไปทอดจนหนังกรอบนอก เนื้อในนุ่มฉ่ำ ได้รสชาติเค็มๆ มันๆ หอมกลิ่นตะไคร้และเครื่องเทศไทยเต็มๆ เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของความกรอบนอกนุ่มในและความหอมสดชื่นของสมุนไพรไทยแท้ๆ เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว จะทานเป็นกับข้าวกับข้าวสวยร้อนๆ หรือทานเล่นเป็นของว่างก็อร่อยลงตัว

แกงคั่วสับปะรดเค็มหวานมันเปรี้ยวกลมกล่อมด้วยรสสับปะรดและกระดูกหมูที่เคี่ยวจนเปื่อยได้ที่ เลือกใช้พริกแกงคั่วต่างจากพริกแกงเผ็ดตรงที่ไม่มีเครื่องเทศ ผัดพริกแกงคั่วกับหัวกะทิจนหอมให้แตกมันเล็กน้อย หลังจากนั้นใส่กระดูกหมูที่เคี่ยวกับหางกะทิจนเปื่อยแล้วลงไปเคี่ยวพร้อมกันสับปะรดที่หั่นพอดีคำ ที่สำคัญชิมปรับรสตอนที่กระดูกหมูยุ่ยได้ที่แล้ว เพราะน้ำสับปะรดที่ออกมามากน้อยไม่เท่ากันแต่ละครั้งที่เราชิม

ขนมโค ลูกกลมๆ น่ารักที่คลุกด้วยมะพร้าวขูดเส้น หน้าตาเหมือนขนมต้มของภาคกลางแต่สอดไส้น้ำตาลก้อนอยู่ด้านใน เป็นขนมมงคลที่มักถูกใช้ในงานพิธีสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบุญ งานประเพณีทางศาสนา หรือแม้กระทั่งใช้ในการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความนุ่มหนึบของแป้ง ความหอมมันของมะพร้าวและความหวานหอมชุ่มฉ่ำของไส้น้ำตาลแว่นที่เมื่อกัดเข้าไปแล้วไส้จะมีความเยิ้มของน้ำตาลที่ละลายนิดๆ แต่ยังคงได้ความกรุบกรอบอยู่ เป็นสัมผัสที่ลงตัวเข้ากัน

ใช้น่องไก่ส่วนสะโพกมาหมักกับตะไคร้เเละเครื่องสมุนไพรต่างๆที่ให้กลิ่นหอมเฉพาะตัวและรสชาติกลมกล่อม เมื่อนำไปทอดจนหนังกรอบนอก เนื้อในนุ่มฉ่ำ ได้รสชาติเค็มๆ มันๆ หอมกลิ่นตะไคร้และเครื่องเทศไทยเต็มๆ เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของความกรอบนอกนุ่มในและความหอมสดชื่นของสมุนไพรไทยแท้ๆ เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว จะทานเป็นกับข้าวกับข้าวสวยร้อนๆ หรือทานเล่นเป็นของว่างก็อร่อยลงตัว

แกงคั่วสับปะรดเค็มหวานมันเปรี้ยวกลมกล่อมด้วยรสสับปะรดและกระดูกหมูที่เคี่ยวจนเปื่อยได้ที่ เลือกใช้พริกแกงคั่วต่างจากพริกแกงเผ็ดตรงที่ไม่มีเครื่องเทศ ผัดพริกแกงคั่วกับหัวกะทิจนหอมให้แตกมันเล็กน้อย หลังจากนั้นใส่กระดูกหมูที่เคี่ยวกับหางกะทิจนเปื่อยแล้วลงไปเคี่ยวพร้อมกันสับปะรดที่หั่นพอดีคำ ที่สำคัญชิมปรับรสตอนที่กระดูกหมูยุ่ยได้ที่แล้ว เพราะน้ำสับปะรดที่ออกมามากน้อยไม่เท่ากันแต่ละครั้งที่เราชิม

ขนมโค ลูกกลมๆ น่ารักที่คลุกด้วยมะพร้าวขูดเส้น หน้าตาเหมือนขนมต้มของภาคกลางแต่สอดไส้น้ำตาลก้อนอยู่ด้านใน เป็นขนมมงคลที่มักถูกใช้ในงานพิธีสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบุญ งานประเพณีทางศาสนา หรือแม้กระทั่งใช้ในการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความนุ่มหนึบของแป้ง ความหอมมันของมะพร้าวและความหวานหอมชุ่มฉ่ำของไส้น้ำตาลแว่นที่เมื่อกัดเข้าไปแล้วไส้จะมีความเยิ้มของน้ำตาลที่ละลายนิดๆ แต่ยังคงได้ความกรุบกรอบอยู่ เป็นสัมผัสที่ลงตัวเข้ากัน

ใช้น่องไก่ส่วนสะโพกมาหมักกับตะไคร้เเละเครื่องสมุนไพรต่างๆที่ให้กลิ่นหอมเฉพาะตัวและรสชาติกลมกล่อม เมื่อนำไปทอดจนหนังกรอบนอก เนื้อในนุ่มฉ่ำ ได้รสชาติเค็มๆ มันๆ หอมกลิ่นตะไคร้และเครื่องเทศไทยเต็มๆ เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของความกรอบนอกนุ่มในและความหอมสดชื่นของสมุนไพรไทยแท้ๆ เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว จะทานเป็นกับข้าวกับข้าวสวยร้อนๆ หรือทานเล่นเป็นของว่างก็อร่อยลงตัว

แกงคั่วสับปะรดเค็มหวานมันเปรี้ยวกลมกล่อมด้วยรสสับปะรดและกระดูกหมูที่เคี่ยวจนเปื่อยได้ที่ เลือกใช้พริกแกงคั่วต่างจากพริกแกงเผ็ดตรงที่ไม่มีเครื่องเทศ ผัดพริกแกงคั่วกับหัวกะทิจนหอมให้แตกมันเล็กน้อย หลังจากนั้นใส่กระดูกหมูที่เคี่ยวกับหางกะทิจนเปื่อยแล้วลงไปเคี่ยวพร้อมกันสับปะรดที่หั่นพอดีคำ ที่สำคัญชิมปรับรสตอนที่กระดูกหมูยุ่ยได้ที่แล้ว เพราะน้ำสับปะรดที่ออกมามากน้อยไม่เท่ากันแต่ละครั้งที่เราชิม

ขนมโค ลูกกลมๆ น่ารักที่คลุกด้วยมะพร้าวขูดเส้น หน้าตาเหมือนขนมต้มของภาคกลางแต่สอดไส้น้ำตาลก้อนอยู่ด้านใน เป็นขนมมงคลที่มักถูกใช้ในงานพิธีสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานบุญ งานประเพณีทางศาสนา หรือแม้กระทั่งใช้ในการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความนุ่มหนึบของแป้ง ความหอมมันของมะพร้าวและความหวานหอมชุ่มฉ่ำของไส้น้ำตาลแว่นที่เมื่อกัดเข้าไปแล้วไส้จะมีความเยิ้มของน้ำตาลที่ละลายนิดๆ แต่ยังคงได้ความกรุบกรอบอยู่ เป็นสัมผัสที่ลงตัวเข้ากัน
Recommended Videos