เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
2 ปอนด์
Level
4
ชีสเค้กซูเฟล เนื้อนุ่ม ละลายในปาก สูตรชีสเค้กที่ถูกปรับจนได้เนื้อเค้กเนียนละเอียด คล้ายมูส รสสัมผัสเบานิ่มเมื่อแตะลิ้นและความหอมมันของนมและชีสที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ๆ แม้จะไม่ได้ใช้นมสดฮอกไกโดเหมือนสูตรญี่ปุ่นแต่รับประกันความอร่อย หอม นุ่มได้ไม่แพ้กัน
INGREDIENTS
มัสคาร์โพเนชีส
100 กรัม
ครีมชีส
100 กรัม
วิปปิ้งครีม
50 กรัม
นมสดชนิดจืด
80 กรัม
น้ำตาลทราย
40+40 กรัม
แป้งข้าวโพด
15+15 กรัม
กลิ่นวานิลลา
2 ช้อนชา
ไข่แดงไข่ไก่
7 ฟอง
ไข่ขาวไข่ไก่
3 ฟอง
น้ำมะนาว
8 กรัม
ลูกเกดดำ
1/4 ถ้วย
น้ำตาลไอซิ่งสำหรับโรยหน้า
อุปกรณ์จำเป็น: พิมพ์เค้กกลมขนาด 2 ปอนด์ กระดาษไขสำหรับปูพิมพ์ ถาดและตะแกรงสำหรับอบหล่อ
METHOD
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เตรียมพิมพ์โดยปูกระดาษไขด้านข้างและด้านล่างพิมพ์ พักไว้
2. ใส่มัสคาร์โพเนชีส ครีมชีส ในอ่างผสม ใช้พายยางบี้ให้เข้ากัน นำไปตั้งบนหม้อน้ำเดือดอ่อน พอให้ครีมชีสอ่อนตัวลง คนให้ส่วนผสมครีมชีสเข้ากัน ยกลง ใส่วิปปิ้งครีม นมสด น้ำตาล 40 กรัม แป้งข้าวโพด 15 กรัม ใช้ไม้พายบี้ให้ส่วนผสมเข้ากัน
3. ใส่กลิ่นวานิลลาลงในไข่แดงใช้ตะกร้อมือตีผสมให้เข้ากัน แล้วเทไข่แดงลงในอ่างส่วนผสมชีส คนให้เข้ากัน พักไว้ (หากส่วนผสมไม่เนียนให้กรองด้วยกระชอน)
4. ทำเมอแรงก์โดยตีไข่ขาวด้วยเครื่องตีไข่ไฟฟ้าความเร็วปานกลางจนไข่ขาวเป็นฟองละเอียด แล้วจึงเริ่มใส่น้ำตาล 40 กรัมทีละน้อย ตีต่อจนไข่ขาวเริ่มตั้งยอดอ่อน ค่อยๆใส่แป้งข้าวโพด ตีต่อให้เข้ากัน แล้วใส่น้ำมะนาว ตีต่อจนไข่ขาวฟู ตั้งยอดอ่อนและมันวาว
5. ตักเมอแรงก์ประมาณ 1/3 ส่วน ใส่ในอ่างไข่แดงที่พักไว้ ตะล่อมด้วยพายยางให้เข้ากัน แล้วจึงใส่เมอแรงก์ที่เหลือทีละส่วน ใส่ลูกเกดลงในพิมพ์ และเทชีสเค้กใส่พิมพ์ วางชีสเค้กบนตะแกรงในถาดอบที่ใส่น้ำร้อน โดยไม่ให้ด้านล่างพิมพ์สัมผัสกับน้ำโดยตรง นำเข้าอบในเตาอบไฟบนล่างที่อุ่นไว้ อบนาน 50 นาที สังเกตหน้าชีสเค้กเป็นสีน้ำตาลทองและพองขึ้น ปิดไฟเตาอบ เปิดฝาเตาอบแง้มไว้เล็กน้อยเพื่อให้อุณหภูมิในเตาอบค่อยๆ ลดลง ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง พักเค้กไว้ในเตาอบจนเย็นสนิท นำออกจากเตาอบ ถอดพิมพ์และลอกกระดาษไขออก
6. จัดเสิร์ฟโดยโรยหน้าเค้กด้วยน้ำตาลไอซิ่ง ตัดชีสเค้กซูเฟลเป็นชิ้นใส่จาน
Recommended Articles

ขนมไทยทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้กับเมนู กล้วยบวชชี เคล็ดลับคือการเลือกกล้วยน้ำว้าที่สุกกำลังดีไม่สุกนิ่มเกินไปหรือดิบจนฝาด นำมาต้มจนเปลือกปริเพื่อไล่ยางออกจะทำให้กล้วยเนื้อเเนน ไม่เละเเละไม่ดำ ปรุงรสกะทิด้วยน้ำตาลมะพร้าวเเท้เกลือนิดหน่อย ใส่กล้วยลงต้มให้รสชาติซึมเข้าเนื้อ โรยงาขาวคั่ว เพียงเท่านี้ก็ได้เอาไว้กินกันทั้งครอบครัวเเล้ว

คาราเมลคัสตาร์ดเนื้อเนียน หวานมัน สัมผัสนุ่มกำลังดี หอมหวานกลิ่นน้ำตาลไหม้ ทำได้ง่ายไม่ไกลเกินเอื้อมเพียงทำตามขั้นตอนเช่น การกรองส่วนผสมก่อนใส่ลงพิมพ์ ช้อนฟองในพิมพ์ออกก่อนอบ และการอบหล่อน้ำเพื่อให้เนื้อคัสตาร์ดสุกแบบเนียนละมุน ส่วนการทำคาราเมลไม่ยากอย่างที่คิด เเค่เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำแบบปิดฝาหม้อจนให้น้ำตาลละลายก่อน แล้วจึงเปิดฝาหม้อให้น้ำตาลค่อยๆเปลี่ยนเป็นคาราเมล (สีน้ำตาลเข้ม) เท่านี้ก็หมดปัญหาน้ำตาลตกผลึกเวลาทำคาราเมลแล้ว

ขนมไทยทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้กับเมนู กล้วยบวชชี เคล็ดลับคือการเลือกกล้วยน้ำว้าที่สุกกำลังดีไม่สุกนิ่มเกินไปหรือดิบจนฝาด นำมาต้มจนเปลือกปริเพื่อไล่ยางออกจะทำให้กล้วยเนื้อเเนน ไม่เละเเละไม่ดำ ปรุงรสกะทิด้วยน้ำตาลมะพร้าวเเท้เกลือนิดหน่อย ใส่กล้วยลงต้มให้รสชาติซึมเข้าเนื้อ โรยงาขาวคั่ว เพียงเท่านี้ก็ได้เอาไว้กินกันทั้งครอบครัวเเล้ว

คาราเมลคัสตาร์ดเนื้อเนียน หวานมัน สัมผัสนุ่มกำลังดี หอมหวานกลิ่นน้ำตาลไหม้ ทำได้ง่ายไม่ไกลเกินเอื้อมเพียงทำตามขั้นตอนเช่น การกรองส่วนผสมก่อนใส่ลงพิมพ์ ช้อนฟองในพิมพ์ออกก่อนอบ และการอบหล่อน้ำเพื่อให้เนื้อคัสตาร์ดสุกแบบเนียนละมุน ส่วนการทำคาราเมลไม่ยากอย่างที่คิด เเค่เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำแบบปิดฝาหม้อจนให้น้ำตาลละลายก่อน แล้วจึงเปิดฝาหม้อให้น้ำตาลค่อยๆเปลี่ยนเป็นคาราเมล (สีน้ำตาลเข้ม) เท่านี้ก็หมดปัญหาน้ำตาลตกผลึกเวลาทำคาราเมลแล้ว

ขนมไทยทำง่าย มือใหม่ก็ทำได้กับเมนู กล้วยบวชชี เคล็ดลับคือการเลือกกล้วยน้ำว้าที่สุกกำลังดีไม่สุกนิ่มเกินไปหรือดิบจนฝาด นำมาต้มจนเปลือกปริเพื่อไล่ยางออกจะทำให้กล้วยเนื้อเเนน ไม่เละเเละไม่ดำ ปรุงรสกะทิด้วยน้ำตาลมะพร้าวเเท้เกลือนิดหน่อย ใส่กล้วยลงต้มให้รสชาติซึมเข้าเนื้อ โรยงาขาวคั่ว เพียงเท่านี้ก็ได้เอาไว้กินกันทั้งครอบครัวเเล้ว

คาราเมลคัสตาร์ดเนื้อเนียน หวานมัน สัมผัสนุ่มกำลังดี หอมหวานกลิ่นน้ำตาลไหม้ ทำได้ง่ายไม่ไกลเกินเอื้อมเพียงทำตามขั้นตอนเช่น การกรองส่วนผสมก่อนใส่ลงพิมพ์ ช้อนฟองในพิมพ์ออกก่อนอบ และการอบหล่อน้ำเพื่อให้เนื้อคัสตาร์ดสุกแบบเนียนละมุน ส่วนการทำคาราเมลไม่ยากอย่างที่คิด เเค่เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำแบบปิดฝาหม้อจนให้น้ำตาลละลายก่อน แล้วจึงเปิดฝาหม้อให้น้ำตาลค่อยๆเปลี่ยนเป็นคาราเมล (สีน้ำตาลเข้ม) เท่านี้ก็หมดปัญหาน้ำตาลตกผลึกเวลาทำคาราเมลแล้ว
Recommended Videos