เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
เอาใจสายดาร์ก และคอกาแฟ อย่างเมนู “ทาร์ตช็อกโกแลตกาแฟ” ที่นำเอา Dark chocolate 56% มาผสมรวมกันกับกาแฟผงให้ได้กลิ่นหอมกาแฟอ่อนๆและความขมของกาแฟนิดๆ ทำให้เมื่อเวลากินเข้าไปแล้วได้ความรู้สึกเหมือนกลิ่นคาราเมลที่อยู่ในคัสตาร์ดคาราเมลนั้นเอง ส่วนตัวฐานด้านล่างของไส้นั้นจะโรยด้วยอัลมอนด์คาราเมล ก่อนที่จะใส่ไส้ช็อกโกแลตกาแฟปิดทับด้านบน
INGREDIENTS
ช็อกโกแลตบอล อัลมอนด์คาราเมล และผงโกโก้สำหรับตกแต่ง
อุปกรณ์ ถุงบีบและหัวบีบกลมขนาด 0.9 มม. พิมพ์ทาร์ตสี่เหลี่ยมขนาด 7 X 19 ซม. จำนวน 3 พิมพ์ ไม้คลึงแป้ง กระดาษไข ถั่ว และแผ่นอบซิลิโคนสำหรับรองอบ
แป้งสาลีอเนกประสงค์
350 กรัม
ผงโกโก้
50 กรัม
น้ำตาลทราย
60 กรัม
เกลือป่น
1/8 ช้อนชา
เนยสดชนิดจืดเย็นจัด
200 กรัม
ไข่ไก่ตีพอเข้ากัน
25 – 27 กรัม
ดาร์กช็อกโกแลต 56%
200 กรัม
วิปปิ้งครีม
180 กรัม
ผงกาแฟ
½ ช้อนชา
น้ำตาลทราย
60 กรัม
น้ำ
10 กรัม
อัลมอนด์ปอกเปลือก
100 กรัม
METHOD
1. ทำแป้งทาร์ตโดยร่อนแป้งสาลี ผงโกโก้ น้ำตาลทราย และเกลือ เข้าด้วยกัน ใส่เนยจืดเย็น ใช้ปลายนิ้วมือถูแป้งกับเนยจนแป้งเข้ากันดี ส่วนผสมมีลักษณะคล้ายเม็ดทรายหยาบๆ ใส่ไข่ไก่ นวดแป้งให้เข้ากันเป็นก้อนเดียว ห่อแป้งทาร์ตด้วยพลาสติกแรป นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 30 นาที จนถึง 1 ชั่วโมง
2. ระหว่างนั้นทำไส้ช็อกโกแลตกาแฟโดยใส่น้ำลงในหม้อประมาณ ¼ ของหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนเดือด ลดเป็นไฟอ่อนจากนั้นใส่ช็อกโกแลตและวิปปิ้งครีมลงในอ่างผสม ยกอ่างขึ้นวางบนหม้อน้ำเดือดอ่อนๆ (ระวังอย่าให้ก้นอ่างผสมสัมผัสน้ำเดือด เพราะจะทำให้ช็อกโกแลตร้อนเกินไป) รอจนช็อกโกแลตเริ่มละลาย ใส่ผงกาแฟลงในอ่างผสม คนด้วยพายยางจนส่วนผสมเข้ากันดี ยกลงจากหม้อ พักไว้ ให้หายร้อน จากนั้นแบ่งใส่ถุงบีบเล็กน้อยสำหรับแต่งหน้า
3. ทำอัลมอนด์คาราเมล โดยใส่น้ำตาลและน้ำลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง เคี่ยวให้ได้ 116 องศาเซลเซียส (หรือสังเกตส่วนผสมเริ่มเดือดทั่วและน้ำตาลเริ่มละลาย ใส่อัลมอนด์ลงในหม้อ ใช้พายไม้คนให้น้ำตาลเคลือบถั่วดี (น้ำตาลจะตกผลึกและเกาะทั่วเม็ดถั่ว) คนไปเรื่อยๆจนน้ำตาลกลายเป็นคาราเมล ปิดไฟ นำออกมาพักให้เย็นลงบนแผ่นซิลิโคน จากนั้นเก็บเป็นเม็ดๆไว้สำหรับแต่งหน้าประมาณ 10 เม็ด ที่เหลือสับหยาบๆ พักไว้
4. นำแป้งทาร์ตออกจากตู้เย็น พักไว้ 10 นาที หรือจนแป้งคลายความเย็นลง คลึงแป้งทาร์ตหนาประมาณ 2 มม. นำแป้งกรุลงในพิมพ์ตัดขอบแป้งส่วนเกินออก ใช้ส้อมจิ้มด้านล่างแป้งทาร์ตให้ทั่ว พักไว้ในตู้เย็นอีกประมาณ 30 นาที ระหว่างนั้นอุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส พอแป้งทาร์ตครบกำหนด วางกระดาษไขลงบนแป้งทาร์ต นำถั่ววางทับลงบนกระดาษไข (เพื่อป้องกันแป้งทาร์ตยกตัวเวลาอบ) นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนานประมาณ 15 นาที นำออกจากเตา เอากระดาษไขและถั่วออก ลดไฟลงเหลือ 170 องศาเซลเซียส อบต่ออีก 8 นาที นำออกจากเตาอบ พักให้หายร้อนก่อนนำออกจากพิมพ์
5. โรยอัลมอนด์คาราเมลที่สับลงให้ทั่วฐานทาร์ต ใส่ไส้ช็อกโกแลตกาแฟให้เต็มขอบพิมพ์ นำไปพักในตู้เย็นประมาณ 10 นาที จนให้เซ็ตตัว แล้วบีบตกแต่งด้วยไส้ช็อกโกแลตกาแฟที่แบ่งใส่ถุงบีบไว้ วางอัลมอนด์คาราเมล และช็อกโกแลตบอล โรยด้วยผงโกโก้ เสิร์ฟ
อ่านบทความเพิ่มเติม
Gallery
Recommended Articles
ฮ่องกงแหล่งท่องเที่ยวใกล้ไทยที่มีของกินของอร่อยเยอะมาก ทั้งของหวานของคาว ติ่มซำ ข้าวหมูแดงหมูกรอบ โจ๊กเนื้อเนียน ทาร์ตไข่ รวมถึงเมนูยอดฮิตที่กำลังเป็นกระแสเรียกว่าใครไปฮ่องกงต้องไปกินไม่งั้นมาไม่ถึง นั่นก็คือ ข้าวหมูทอด ความพิเศษของข้าวหมูทอดสไตล์ฮ่องกง คือเค้าจะใช้เนื้อหมูส่วนพอร์คชอปติดกระดูก นำมาทอดจนสุกเหลืองสวย ให้ผิวนอกกรอบนิดๆ ส่วนเนื้อด้านในมีความนุ่ม โปะหมูบนข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยซอสรสหวานๆ เค็มๆ เสิร์ฟพร้อมไข่ดาวแบบไม่สุก เป็นเมนูง่ายๆ ที่โคตรจะน่ากิน
เมนูนี้เป็นหนึ่งใน comfort foods ของบ้านเชฟน่านเลยก็ว่าได้ คอหมูเเท้ย่างหอมๆ เคล้าด้วยข้าวคั่วอย่างจุใจ ให้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเจ้าแบบเวียดนามกับผักหอมนานาชนิด จิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เติมความมันด้วยถั่ว อร่อยมากๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพประจำบ้านเชฟน่านเลย
เมนูประจำฤดูฝน เป็นเห็ดป่าที่ขึ้นในแถบภาคตะวันตกของประเทศไทย แถวจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เห็ดระโงกมีสมผัสนุ่มนวล ทุกครั้งที่ได้เห็ดระโงกมา เราจะเอามาแกงยอดมะขามเท่านั้น โดยไม่มีเนื้อสัตว์ปะปนเลย ให้เห็ดระโงกเป็นพระเอกอย่างแท้จริง น้ำแกงจะมีความข้นเล็กๆจากเห็ด ออกเปรี้ยวนำจากยอดมะขามอ่อน กลมกล่อมมากๆ
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
ฮ่องกงแหล่งท่องเที่ยวใกล้ไทยที่มีของกินของอร่อยเยอะมาก ทั้งของหวานของคาว ติ่มซำ ข้าวหมูแดงหมูกรอบ โจ๊กเนื้อเนียน ทาร์ตไข่ รวมถึงเมนูยอดฮิตที่กำลังเป็นกระแสเรียกว่าใครไปฮ่องกงต้องไปกินไม่งั้นมาไม่ถึง นั่นก็คือ ข้าวหมูทอด ความพิเศษของข้าวหมูทอดสไตล์ฮ่องกง คือเค้าจะใช้เนื้อหมูส่วนพอร์คชอปติดกระดูก นำมาทอดจนสุกเหลืองสวย ให้ผิวนอกกรอบนิดๆ ส่วนเนื้อด้านในมีความนุ่ม โปะหมูบนข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยซอสรสหวานๆ เค็มๆ เสิร์ฟพร้อมไข่ดาวแบบไม่สุก เป็นเมนูง่ายๆ ที่โคตรจะน่ากิน
เมนูนี้เป็นหนึ่งใน comfort foods ของบ้านเชฟน่านเลยก็ว่าได้ คอหมูเเท้ย่างหอมๆ เคล้าด้วยข้าวคั่วอย่างจุใจ ให้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเจ้าแบบเวียดนามกับผักหอมนานาชนิด จิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เติมความมันด้วยถั่ว อร่อยมากๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพประจำบ้านเชฟน่านเลย
เมนูประจำฤดูฝน เป็นเห็ดป่าที่ขึ้นในแถบภาคตะวันตกของประเทศไทย แถวจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เห็ดระโงกมีสมผัสนุ่มนวล ทุกครั้งที่ได้เห็ดระโงกมา เราจะเอามาแกงยอดมะขามเท่านั้น โดยไม่มีเนื้อสัตว์ปะปนเลย ให้เห็ดระโงกเป็นพระเอกอย่างแท้จริง น้ำแกงจะมีความข้นเล็กๆจากเห็ด ออกเปรี้ยวนำจากยอดมะขามอ่อน กลมกล่อมมากๆ
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
ฮ่องกงแหล่งท่องเที่ยวใกล้ไทยที่มีของกินของอร่อยเยอะมาก ทั้งของหวานของคาว ติ่มซำ ข้าวหมูแดงหมูกรอบ โจ๊กเนื้อเนียน ทาร์ตไข่ รวมถึงเมนูยอดฮิตที่กำลังเป็นกระแสเรียกว่าใครไปฮ่องกงต้องไปกินไม่งั้นมาไม่ถึง นั่นก็คือ ข้าวหมูทอด ความพิเศษของข้าวหมูทอดสไตล์ฮ่องกง คือเค้าจะใช้เนื้อหมูส่วนพอร์คชอปติดกระดูก นำมาทอดจนสุกเหลืองสวย ให้ผิวนอกกรอบนิดๆ ส่วนเนื้อด้านในมีความนุ่ม โปะหมูบนข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยซอสรสหวานๆ เค็มๆ เสิร์ฟพร้อมไข่ดาวแบบไม่สุก เป็นเมนูง่ายๆ ที่โคตรจะน่ากิน
เมนูนี้เป็นหนึ่งใน comfort foods ของบ้านเชฟน่านเลยก็ว่าได้ คอหมูเเท้ย่างหอมๆ เคล้าด้วยข้าวคั่วอย่างจุใจ ให้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเจ้าแบบเวียดนามกับผักหอมนานาชนิด จิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เติมความมันด้วยถั่ว อร่อยมากๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพประจำบ้านเชฟน่านเลย
เมนูประจำฤดูฝน เป็นเห็ดป่าที่ขึ้นในแถบภาคตะวันตกของประเทศไทย แถวจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เห็ดระโงกมีสมผัสนุ่มนวล ทุกครั้งที่ได้เห็ดระโงกมา เราจะเอามาแกงยอดมะขามเท่านั้น โดยไม่มีเนื้อสัตว์ปะปนเลย ให้เห็ดระโงกเป็นพระเอกอย่างแท้จริง น้ำแกงจะมีความข้นเล็กๆจากเห็ด ออกเปรี้ยวนำจากยอดมะขามอ่อน กลมกล่อมมากๆ
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
Recommended Videos