เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

Serves
4 คน
Level
2
เต้าหู้อ่อนทอดให้เหลือง ราดด้วยซอสน้ำแดงรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม พร้อมด้วยเครื่องมากมายอย่างเห็ดหูหนูดำ แครอท เห็ดเข็มทอด เป็นต้น
INGREDIENTS
เต้าหู้กระดานอ่อนขาว
1 ก้อน
น้ำมันพืช
1 ถ้วย
กระเทียมไทยสับ
1 ช้อนโต๊ะ
เห็ดหอมแห้งแช่น้ำจนนุ่มสับ
½ ถ้วย
เห็ดฟางสับ
3 ช้อนโต๊ะ
แครอทหั่นชิ้นลวก
6 ชิ้น
เห็ดหูหนูดำสด
50 กรัม
เห็ดเข็มทอง
100 กรัม
น้ำซุปผัก
1 ½ ถ้วย
ซีอิ๊วขาว
½ ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส
1 ช้อนชา
น้ำมันหอย
2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย
1 ช้อนชา
ซอสมะเขือเทศ
1 ช้อนโต๊ะ
ซอสพริก
1 ช้อนโต๊ะ
แป้งมันฮ่องกง
1 ช้อนโต๊ะ
คะน้าฮ่องกงลวก
200 กรัม
พริกไทยป่น
¼ ช้อนชา
ผักชีหั่นท่อน 1 ซม.
1 ต้น
แป้งมันเล็กน้อยสำหรับเคล้าเต้าหู้
พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบสำหรับตกแต่ง
METHOD
1. หั่นเต้าหู้เป็น 4 ชิ้น คลุกด้วยแป้งมันเล็กน้อย ใส่ลงทอดในกระทะน้ำมันร้อนด้วยไฟกลางพอมีสีเหลืองนวล ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
2. ทำน้ำแดงโดยตักน้ำมันที่ทอดเต้าหู้ออกให้เหลือประมาณ ¼ ถ้วย ใส่กระเทียมลงเจียวพอใกล้เหลืองหอม ใส่เห็ดหอมและเห็ดฟาง ผัดให้สุกทั่ว ใส่แครอท เห็ดหูหนูดำ เห็ดเข็มทอง ผัดพอสุก เติมน้ำซุป ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย น้ำตาล ซอสมะเขือเทศ และซอสพริก คนพอทั่ว ชิมรสให้เค็มกลมกล่อม พอเดือดละลายแป้งมันฮ่องกงกับน้ำเล็กน้อยใส่ คนพอสุกข้น ปิดไฟ
3. จัดเต้าหู้ทอดและคะน้าฮ่องกงลวก ใส่จาน ตักน้ำแดงร้อนๆราด โรยพริกไทยและผักชี ตกแต่งด้วยพริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบ เสิร์ฟร้อนๆ
อ่านบทความเพิ่มเติม
Recommended Articles

หัวปลีเป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาทำอาหารกันมาโดยเฉพาะประเทสแถบเอเชีย เช่น พม่า เวียดนาม กัมพูชา และไทย รสชาติมันๆ เนื้อกรอบนุ่ม เคล็ดลับการนำหัวปลีมาทำอาหารคือการหั่นและแช่ในน้ำมะนาวทันทีเพื่อไม่ให้หัวปลีดำคล้ำ สูตรนี้เป็นยำหัวปลีแบบพม่า จึงแช่หัวปลีในน้ำผสมมะนาวและขมิ้นเพื่อให้ไม่ดำและสีเหลืองสวย ยำหัวปลีแบบพม่าสูตรนี้รสเผ็ด เค็ม มันอ่อนๆ หอมกลิ่นหอมเจียว สามารถใช้น้ำยำสูตรนี้กับผักชนิดอื่นก็ได้เช่นกัน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

หากใครอยากกินกระเพาะปลาแต่ติดที่ว่าเป็นมังสวิรัติอยู่ แล้วละก็ สูตรนี้ช่วยคุณได้ กระเพาะปลาสมุนไพร ที่เลือกใช้เยื่อไผ่แทนกระเพาะปลาจริงๆมาทำ ใส่เครื่องสมุนไพรมากมายไม่ว่าจะเป็นลำไยแห้ง พุทราจีน แปะก้วย ให้หวานหอม แถมด้วยเห็ดอีกมากมายที่ใส่ลงใน กระเพาะปลาหม้อนี้ บอกได้คำเดียวว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้กระเพาะปลาจริงๆแน่นอน

เมนูเมี่ยงที่บอกได้เลยว่า เป็นเมนูที่ถูกใจสาวๆที่รักสุขภาพเป็นแน่ ด้วยเครื่องเคียงที่หลากหลายมีทั้งเนื้อสัตว์และผัก กินเป็นคำๆพร้อมด้วยน้ำเมี่ยงรสหวานๆเค็มๆ ถือเป็นอีกเมนูที่เหมาะกับสาวๆ เลยละ ปล. สามารถเปลี่ยนในส่วนของเนื้อสัตว์เป็นอย่างอื่นได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นปลาทอด หมูลวก ปลานึ่ง

หัวปลีเป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาทำอาหารกันมาโดยเฉพาะประเทสแถบเอเชีย เช่น พม่า เวียดนาม กัมพูชา และไทย รสชาติมันๆ เนื้อกรอบนุ่ม เคล็ดลับการนำหัวปลีมาทำอาหารคือการหั่นและแช่ในน้ำมะนาวทันทีเพื่อไม่ให้หัวปลีดำคล้ำ สูตรนี้เป็นยำหัวปลีแบบพม่า จึงแช่หัวปลีในน้ำผสมมะนาวและขมิ้นเพื่อให้ไม่ดำและสีเหลืองสวย ยำหัวปลีแบบพม่าสูตรนี้รสเผ็ด เค็ม มันอ่อนๆ หอมกลิ่นหอมเจียว สามารถใช้น้ำยำสูตรนี้กับผักชนิดอื่นก็ได้เช่นกัน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

หากใครอยากกินกระเพาะปลาแต่ติดที่ว่าเป็นมังสวิรัติอยู่ แล้วละก็ สูตรนี้ช่วยคุณได้ กระเพาะปลาสมุนไพร ที่เลือกใช้เยื่อไผ่แทนกระเพาะปลาจริงๆมาทำ ใส่เครื่องสมุนไพรมากมายไม่ว่าจะเป็นลำไยแห้ง พุทราจีน แปะก้วย ให้หวานหอม แถมด้วยเห็ดอีกมากมายที่ใส่ลงใน กระเพาะปลาหม้อนี้ บอกได้คำเดียวว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้กระเพาะปลาจริงๆแน่นอน

เมนูเมี่ยงที่บอกได้เลยว่า เป็นเมนูที่ถูกใจสาวๆที่รักสุขภาพเป็นแน่ ด้วยเครื่องเคียงที่หลากหลายมีทั้งเนื้อสัตว์และผัก กินเป็นคำๆพร้อมด้วยน้ำเมี่ยงรสหวานๆเค็มๆ ถือเป็นอีกเมนูที่เหมาะกับสาวๆ เลยละ ปล. สามารถเปลี่ยนในส่วนของเนื้อสัตว์เป็นอย่างอื่นได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นปลาทอด หมูลวก ปลานึ่ง

หัวปลีเป็นวัตถุดิบที่นิยมนำมาทำอาหารกันมาโดยเฉพาะประเทสแถบเอเชีย เช่น พม่า เวียดนาม กัมพูชา และไทย รสชาติมันๆ เนื้อกรอบนุ่ม เคล็ดลับการนำหัวปลีมาทำอาหารคือการหั่นและแช่ในน้ำมะนาวทันทีเพื่อไม่ให้หัวปลีดำคล้ำ สูตรนี้เป็นยำหัวปลีแบบพม่า จึงแช่หัวปลีในน้ำผสมมะนาวและขมิ้นเพื่อให้ไม่ดำและสีเหลืองสวย ยำหัวปลีแบบพม่าสูตรนี้รสเผ็ด เค็ม มันอ่อนๆ หอมกลิ่นหอมเจียว สามารถใช้น้ำยำสูตรนี้กับผักชนิดอื่นก็ได้เช่นกัน

ขนมสูตรนี้บอกเลยว่าอร่อยแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย อย่าง "พายบีทรูทเม็ดมะม่วงหิมพานต์" ตัวฐานทำจากเม็ดมะม่วงหิมพานต์นำมาปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่นอาหาร เติมรสชาติด้วยฟิกซ์ ผงโกโก้ อบเชยป่น และเกลือ ปั่นให้เข้ากันอีกครั้งจากนั้นค่อยนำไปกรุในพิมพ์แล้วแช่ตู่เย็นสักประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนตัวไส้ทำจากเนื้อบีทรูท มะพร้าวขูดขาว น้ำตาลทรายแดง และเมเปิลไซรัป นำไปผสมกับเนยถั่วที่เกิดจากการนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาปั่นกับน้ำมันมะพร้าวจนเนียนข้น ใส่เจลลลาตินที่เตรียมไว้ผสมให้เข้ากัน ก่อนเทใส่ฐานที่เตรียมไว้ แช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวก่อนตัดกิน

ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน

อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว

หากใครอยากกินกระเพาะปลาแต่ติดที่ว่าเป็นมังสวิรัติอยู่ แล้วละก็ สูตรนี้ช่วยคุณได้ กระเพาะปลาสมุนไพร ที่เลือกใช้เยื่อไผ่แทนกระเพาะปลาจริงๆมาทำ ใส่เครื่องสมุนไพรมากมายไม่ว่าจะเป็นลำไยแห้ง พุทราจีน แปะก้วย ให้หวานหอม แถมด้วยเห็ดอีกมากมายที่ใส่ลงใน กระเพาะปลาหม้อนี้ บอกได้คำเดียวว่าอร่อยเด็ดไม่แพ้กระเพาะปลาจริงๆแน่นอน

เมนูเมี่ยงที่บอกได้เลยว่า เป็นเมนูที่ถูกใจสาวๆที่รักสุขภาพเป็นแน่ ด้วยเครื่องเคียงที่หลากหลายมีทั้งเนื้อสัตว์และผัก กินเป็นคำๆพร้อมด้วยน้ำเมี่ยงรสหวานๆเค็มๆ ถือเป็นอีกเมนูที่เหมาะกับสาวๆ เลยละ ปล. สามารถเปลี่ยนในส่วนของเนื้อสัตว์เป็นอย่างอื่นได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็นปลาทอด หมูลวก ปลานึ่ง
Recommended Videos