เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
40 ชิ้น
Level
2
วันนี้มีสูตร"ขนมจีบต้ม" พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ขนมจีบต้มเป็นเมนูที่ใช้อุปกรณ์ไม่เยอะ วัตถุดิบหาได้ไม่ยาก เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วไป และหลายคนก็รู้จักเมนูนี้เป็นอย่างดี เมนูขนมจีบต้มจึงเหมาะที่จะทำขายเป็นอย่างมาก เราเลยมีไอเดียเพิ่ความพิเศษให้ขนมจีบต้มนั่นก็คือ เพิ่มผักโขม และเห็ดลงไป
INGREDIENTS
อกไก่หั่นชิ้นเล็ก
250 กรัม
หัวไหล่หมูหั่นชิ้นเล็ก
250 กรัม
มันหมูแข็งหั่นชิ้นเล็ก
100 กรัม
เบกกิ้งโซดา
2 กรัม
เกลือป่น
2 กรัม
ซีอิ๊วขาว
30 กรัม
ผงปรุงรส
6 กรัม
น้ำตาลทรายขาว
15 กรัม
ผงรากผักชี
1 กรัม
ผงกระเทียม
2 กรัม
พริกไทยขาว
1 กรัม
น้ำแข็ง
100 กรัม
น้ำเย็น
100 กรัม
ผักโขมแช่แข็ง
30 กรัม
หอมใหญ่สับละเอียด
30 กรัม
เห็ดหูหนูสดสับละเอียด
30 กรัม
เห็ดหอมสดสับละเอียด
30 กรัม
แผ่นเกี๊ยวสีเขียวสำหรับไส้ผักโขม
20 แผ่น
แผ่นเกี๊ยวสีเหลืองสำหรับไส้เห็ด
20 แผ่น
กระเทียมกลีบใหญ่ปอกเปลือกสับละเอียด
80 กรัม
น้ำมันพืช
150 กรัม
ใบผักชีสำหรับโรย
อุปกรณ์ เครื่องผสมอาหาร
พริกจินดาเขียว
40 กรัม
รากผักชี
40 กรัม
กระเทียมกลีบใหญ่ปอกเปลือก
60 กรัม
น้ำส้มสายชู
50 กรัม
น้ำ
30 กรัม
น้ำปลา
60 กรัม
น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี
50 กรัม
METHOD
- นำอกไก่ หัวไหล่หมูและมันหมูแข็งใส่ในอ่างผสม ใส่ช่องแช่แข็งให้เย็นจัดประมาณ 20-30 นาที
- นำส่วนผสมที่แช่เย็นใส่เครื่องบดอาหาร ใส่เบกกิ้งโซดา ปรุงรสด้วยเกลือป่น ซีอิ๊วขาว ผงปรุงรส น้ำตาลทรายขาว ผงรากผักชี ผงกระเทียมและพริกไทยขาว ปั่นส่วนผสนให้เข้ากัน ระหว่างปั่นทยอยใส่น้ำแข็งลงไป ค่อยๆใส่น้ำเย็นตามลงไป ปั่นจนส่วนผสมเนียนละเอียดดี ตักขึ้นใส่อ่างผสม ถ้ายังไม่นำมาห่อให้เก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาหรือช่องแช่แข็ง ให้ส่วนผสมเย็นอยู่ตลอดเวลา
- แบ่งส่วนผสมออกเป็น 2 ส่วนเท่าๆกัน ส่วนที่ 1 ผสมผักโขมและหอมใหญ่ ส่วนที่ 2 ใส่เห็ดหูหนูและเห็ดหอมสับ ใช้พายยางคนให้เข้ากัน จากนั้นห่อขนมจีบผักโขมโดยวางแผ่นเกี๊ยวสีเขียวลงในถ้วยเล็กๆ ใส่ไส้ผักโขมลงไป 20 กรัม จากนั้นพับแผ่นเกี๊ยวคลุมจนมิด ทำซ้ำเหมือนกันแต่ไส้เห็ดหอมเปลี่ยนเป็นแป้งสีเหลือง
- ทำกระเทียมเจียวโดยตั้งกระทะบนไฟกลางนำกระเทียมเจียวลงไปตั้งแต่น้ำมันยังอุ่นๆ ใช้ไฟกลางค่อนอ่อนเจียวจนกระเทียมสีเหลืองสวย ปิดไฟ ใช้กระชอนกรองแยกน้ำมันไว้เคล้าขนมจีบ ส่วนกระเทียมเจียวเอาไว้โรยบนขนมจีบ
- ตั้งหม้อน้ำบนไฟกลางพอเดือด นำขนมจีบลงต้ม ประมาณ 5 นาที หรือจนกว่าจะสุก (แนะนำให้ต้มทีละสี) พอสุกตักขึ้นใส่ถาดหรือจานใส่น้ำมันกระเทียมเจียวเคล้าให้น้ำมันเคลือบทั่วเพื่อไม้ให้แป้งขนมจีบติดกัน
- ทำน้ำจิ้มซีฟู้ดโดยใส่พริกจินดาเขียว รากผักชี กระเทียม น้ำส้มสายชู น้ำ น้ำปลาและน้ำตาลทรายลงในเครื่องปั่น ปั่นให้พอละเอียด ปิดเครื่อง ใส่ถ้วยพักไว้
- เสิร์ฟขนมจีบต้มแบบอุ่นๆ ใส่ในภาชนะที่จะขาย ราดน้ำจิ้มซีฟู้ดหรือแยกใส่ถุง โรยกระเทียมเจียวและผักชีเล็กน้อย
Gallery
Recommended Articles
มะเขือเทศอบแห้งหรือตากแห้งเป็นภูมิปัญญาของชนชาติอิตาเลียนที่ผูกพันธ์กับมะเขือเทศเป็นชีวิตจิตใจจนหาวิธีถนอมมะเขือเทศเทศลูกเล็กใหญ่ให้ออกมาเป็นของแห้งเก็บไว้กินได้นานขึ้น วิธีการทำก็ไม่ยากเลย หาช่วงที่อากาศเป็นใจ แดดร้อนจัดๆ นำมะเขือเทศผ่าครึ่งแล้วโรยเกลือไปตากแดด 7-10วันจนแห้งสนิท แล้วเก็บไว้ในน้ำมันมะกอก ใครชอบกลิ่นเครื่องเทศ สมุนไพรหน่อยจะใส่กระเทียม พริกไทยเข้าไป น้ำมันนี้เอาไปผัดพาสต้าหรือใส่น้ำสลัดก็อร่อย หาวันที่ฟ้าฝนเป็นใจแล้วลองทำดูค่ะ
เรดโอ๊กนอกจากกินเป็นผักสลัดสดชื่นแล้วนั้นยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำปั่นได้อีกด้วย เพียงเพิ่มวัตถุดิบอย่างอื่นเพื่อให้รสชาติอร่อยขึ้นอย่างสตรอวเบอร์รี น้ำมะนาว น้ำสับปะรดและน้ำเชื่อมสีแดง จากนั้นก็ปั่นให้เข้ากันก่อนนำไปแช่ให้เย็นเป็นเกล็ดน้ำแข็งแล้วปั่นอีกครั้งแค่นี้ก็ได้เครื่องดื่มดับร้อนกินในช่วงนี้ที่อุณหภูมิทะลุไปถึง 40 องศาแบบนี้
จิ้นแดง จิ้นเเห้งหรือจิ้นเกลือ คือ วิธีการถนอมอาหารของคนภาคเหนือ เเต่เดิมใช้เนื้อวัวทำให้ได้เนื้อที่มีสีเเดงเเต่ในปัจจุบันหันมาใช้เนื้อหมูมากขึ้น วิธีการทำคือสไลด์เนื้อสัตว์เป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงต่างๆ ใส่สีผสมอาหารเพื่อทำให้เนื้อมีสีเเดง จากนั้นนำไปตากแดดให้ได้ที่แล้วนำย่างบนเตาถ่านให้พอสุกเเละเเห้ง สามารถเก็บไว้ได้นาน
Baked Alaska เค้กไอศกรีมเก่าแก่ มีประวัติน่าสนใจได้ถูกคิดค้นขึ้นโดย Charles Ranhofer เชฟชาวฝรั่งเศสเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาได้ซื้อเกาะอลาสก้าจากรัสเซีย อีกทั้งยังเป็นขนมที่ได้แรงบันดาลใจจากการค้นพบทฤษฏีการนำพาความร้อนของ Sir Benjamin Thomson ก่อนหน้านั้นที่พบว่าเมอร์แรงก์ไข่ขาวที่มีฟองอากาศมากมายนั้นเป็นฉนวนความร้อนอย่างดีจนทำให้ไอศกรีมด้านในไม่ละลาย
แป้งพัฟฟ์สำเร็จรูปทำอะไรก็อร่อย เรียกได้ว่าง่ายด้วย อร่อยด้วย จะเอามาทำในรูปทรงแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น หากใครคิดไม่ออกว่าแป้งพัฟฟ์เป็นยังไงบอกเลยว่าแป้งพัฟฟ์เป้นอะไรที่ทำยากมากเพราะเป็นการสอดไส้เนยเข้าไปในแป้งโดเป็นชั้นๆ โดยอาศัยการห่อเนยให้อยู่ในแป้งโดรอบแรก แล้วพับแป้งทบไปมาประมาณ 3-4 ครั้ง (ขึ้นกับลักษณะการพับ) จนได้ชั้นแป้งและเนยสลับกัน เมื่อแป้งพัฟฟ์โดนความร้อนในเตาอบ เนยที่อยู่ระหว่างชั้นจะละลาย เกิดเป็นไอน้ำทาให้แป้งยกตัวพองขึ้นเป็นชั้นสวยงาม การทำพัฟฟ์เพสตรีในอากาศร้อนอย่างบ้านเราจึงเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะเนยในแป้งโดจะละลายออกมาระหว่างการคลึงและพับแป้ง
มะเขือเทศอบแห้งหรือตากแห้งเป็นภูมิปัญญาของชนชาติอิตาเลียนที่ผูกพันธ์กับมะเขือเทศเป็นชีวิตจิตใจจนหาวิธีถนอมมะเขือเทศเทศลูกเล็กใหญ่ให้ออกมาเป็นของแห้งเก็บไว้กินได้นานขึ้น วิธีการทำก็ไม่ยากเลย หาช่วงที่อากาศเป็นใจ แดดร้อนจัดๆ นำมะเขือเทศผ่าครึ่งแล้วโรยเกลือไปตากแดด 7-10วันจนแห้งสนิท แล้วเก็บไว้ในน้ำมันมะกอก ใครชอบกลิ่นเครื่องเทศ สมุนไพรหน่อยจะใส่กระเทียม พริกไทยเข้าไป น้ำมันนี้เอาไปผัดพาสต้าหรือใส่น้ำสลัดก็อร่อย หาวันที่ฟ้าฝนเป็นใจแล้วลองทำดูค่ะ
เรดโอ๊กนอกจากกินเป็นผักสลัดสดชื่นแล้วนั้นยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำปั่นได้อีกด้วย เพียงเพิ่มวัตถุดิบอย่างอื่นเพื่อให้รสชาติอร่อยขึ้นอย่างสตรอวเบอร์รี น้ำมะนาว น้ำสับปะรดและน้ำเชื่อมสีแดง จากนั้นก็ปั่นให้เข้ากันก่อนนำไปแช่ให้เย็นเป็นเกล็ดน้ำแข็งแล้วปั่นอีกครั้งแค่นี้ก็ได้เครื่องดื่มดับร้อนกินในช่วงนี้ที่อุณหภูมิทะลุไปถึง 40 องศาแบบนี้
จิ้นแดง จิ้นเเห้งหรือจิ้นเกลือ คือ วิธีการถนอมอาหารของคนภาคเหนือ เเต่เดิมใช้เนื้อวัวทำให้ได้เนื้อที่มีสีเเดงเเต่ในปัจจุบันหันมาใช้เนื้อหมูมากขึ้น วิธีการทำคือสไลด์เนื้อสัตว์เป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงต่างๆ ใส่สีผสมอาหารเพื่อทำให้เนื้อมีสีเเดง จากนั้นนำไปตากแดดให้ได้ที่แล้วนำย่างบนเตาถ่านให้พอสุกเเละเเห้ง สามารถเก็บไว้ได้นาน
Baked Alaska เค้กไอศกรีมเก่าแก่ มีประวัติน่าสนใจได้ถูกคิดค้นขึ้นโดย Charles Ranhofer เชฟชาวฝรั่งเศสเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาได้ซื้อเกาะอลาสก้าจากรัสเซีย อีกทั้งยังเป็นขนมที่ได้แรงบันดาลใจจากการค้นพบทฤษฏีการนำพาความร้อนของ Sir Benjamin Thomson ก่อนหน้านั้นที่พบว่าเมอร์แรงก์ไข่ขาวที่มีฟองอากาศมากมายนั้นเป็นฉนวนความร้อนอย่างดีจนทำให้ไอศกรีมด้านในไม่ละลาย
แป้งพัฟฟ์สำเร็จรูปทำอะไรก็อร่อย เรียกได้ว่าง่ายด้วย อร่อยด้วย จะเอามาทำในรูปทรงแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น หากใครคิดไม่ออกว่าแป้งพัฟฟ์เป็นยังไงบอกเลยว่าแป้งพัฟฟ์เป้นอะไรที่ทำยากมากเพราะเป็นการสอดไส้เนยเข้าไปในแป้งโดเป็นชั้นๆ โดยอาศัยการห่อเนยให้อยู่ในแป้งโดรอบแรก แล้วพับแป้งทบไปมาประมาณ 3-4 ครั้ง (ขึ้นกับลักษณะการพับ) จนได้ชั้นแป้งและเนยสลับกัน เมื่อแป้งพัฟฟ์โดนความร้อนในเตาอบ เนยที่อยู่ระหว่างชั้นจะละลาย เกิดเป็นไอน้ำทาให้แป้งยกตัวพองขึ้นเป็นชั้นสวยงาม การทำพัฟฟ์เพสตรีในอากาศร้อนอย่างบ้านเราจึงเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะเนยในแป้งโดจะละลายออกมาระหว่างการคลึงและพับแป้ง
มะเขือเทศอบแห้งหรือตากแห้งเป็นภูมิปัญญาของชนชาติอิตาเลียนที่ผูกพันธ์กับมะเขือเทศเป็นชีวิตจิตใจจนหาวิธีถนอมมะเขือเทศเทศลูกเล็กใหญ่ให้ออกมาเป็นของแห้งเก็บไว้กินได้นานขึ้น วิธีการทำก็ไม่ยากเลย หาช่วงที่อากาศเป็นใจ แดดร้อนจัดๆ นำมะเขือเทศผ่าครึ่งแล้วโรยเกลือไปตากแดด 7-10วันจนแห้งสนิท แล้วเก็บไว้ในน้ำมันมะกอก ใครชอบกลิ่นเครื่องเทศ สมุนไพรหน่อยจะใส่กระเทียม พริกไทยเข้าไป น้ำมันนี้เอาไปผัดพาสต้าหรือใส่น้ำสลัดก็อร่อย หาวันที่ฟ้าฝนเป็นใจแล้วลองทำดูค่ะ
เรดโอ๊กนอกจากกินเป็นผักสลัดสดชื่นแล้วนั้นยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำปั่นได้อีกด้วย เพียงเพิ่มวัตถุดิบอย่างอื่นเพื่อให้รสชาติอร่อยขึ้นอย่างสตรอวเบอร์รี น้ำมะนาว น้ำสับปะรดและน้ำเชื่อมสีแดง จากนั้นก็ปั่นให้เข้ากันก่อนนำไปแช่ให้เย็นเป็นเกล็ดน้ำแข็งแล้วปั่นอีกครั้งแค่นี้ก็ได้เครื่องดื่มดับร้อนกินในช่วงนี้ที่อุณหภูมิทะลุไปถึง 40 องศาแบบนี้
จิ้นแดง จิ้นเเห้งหรือจิ้นเกลือ คือ วิธีการถนอมอาหารของคนภาคเหนือ เเต่เดิมใช้เนื้อวัวทำให้ได้เนื้อที่มีสีเเดงเเต่ในปัจจุบันหันมาใช้เนื้อหมูมากขึ้น วิธีการทำคือสไลด์เนื้อสัตว์เป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงต่างๆ ใส่สีผสมอาหารเพื่อทำให้เนื้อมีสีเเดง จากนั้นนำไปตากแดดให้ได้ที่แล้วนำย่างบนเตาถ่านให้พอสุกเเละเเห้ง สามารถเก็บไว้ได้นาน
Baked Alaska เค้กไอศกรีมเก่าแก่ มีประวัติน่าสนใจได้ถูกคิดค้นขึ้นโดย Charles Ranhofer เชฟชาวฝรั่งเศสเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาได้ซื้อเกาะอลาสก้าจากรัสเซีย อีกทั้งยังเป็นขนมที่ได้แรงบันดาลใจจากการค้นพบทฤษฏีการนำพาความร้อนของ Sir Benjamin Thomson ก่อนหน้านั้นที่พบว่าเมอร์แรงก์ไข่ขาวที่มีฟองอากาศมากมายนั้นเป็นฉนวนความร้อนอย่างดีจนทำให้ไอศกรีมด้านในไม่ละลาย
แป้งพัฟฟ์สำเร็จรูปทำอะไรก็อร่อย เรียกได้ว่าง่ายด้วย อร่อยด้วย จะเอามาทำในรูปทรงแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น หากใครคิดไม่ออกว่าแป้งพัฟฟ์เป็นยังไงบอกเลยว่าแป้งพัฟฟ์เป้นอะไรที่ทำยากมากเพราะเป็นการสอดไส้เนยเข้าไปในแป้งโดเป็นชั้นๆ โดยอาศัยการห่อเนยให้อยู่ในแป้งโดรอบแรก แล้วพับแป้งทบไปมาประมาณ 3-4 ครั้ง (ขึ้นกับลักษณะการพับ) จนได้ชั้นแป้งและเนยสลับกัน เมื่อแป้งพัฟฟ์โดนความร้อนในเตาอบ เนยที่อยู่ระหว่างชั้นจะละลาย เกิดเป็นไอน้ำทาให้แป้งยกตัวพองขึ้นเป็นชั้นสวยงาม การทำพัฟฟ์เพสตรีในอากาศร้อนอย่างบ้านเราจึงเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะเนยในแป้งโดจะละลายออกมาระหว่างการคลึงและพับแป้ง
Recommended Videos