เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
ถาด 9x9 นิ้ว จำนวน 1 ถาด ถาด 8x8x นิ้ว จำนวน 1 ถาด
Level
4
ขนมชั้นนุ่มนวลเนื้อหนึบเหนียวกำลังพอดี หอมมันจากกะทิคั้นสด ขนมชั้นที่ดีนึ่งแล้วดึงลอกได้เป็นชั้นๆ ขนมชั้นสีเขียวธรรมชาติจากน้ำใบเตยคั้นข้นๆนำมาใส่ครึ่งหนึ่งของเเป้งขนมชั้นที่ผสมไว้ เสร็จแล้วแบ่งใส่นึ่งทีละชั้นสลับสีกันไปบางๆจนครบ 9 ชั้น
INGREDIENTS
แป้งมัน
500 กรัม
แป้งข้าวเจ้า
30 กรัม
แป้งท้าวยายม่อม
160 กรัม
กะทิ
1440 กรัม
(มะพร้าวขูดขาว 1.2 กิโลกรัม คั้นให้ได้หัวกะทิ 700 กรัม หางกะทิ 740 กรัม)
เกลือสมุทร
1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย
780 กรัม
น้ำ
360 กรัม
กลิ่นมะลิ
1/4 ช้อนชา
น้ำใบเตย
120-150 กรัม
อุปกรณ์ ผ้าขาวบาง ถาดขนาด 9x9 นิ้ว และ 8x8 นิ้ว ลังถึง
METHOD
- ใส่แป้งมัน แป้งข้าวเจ้า และแป้งเท้าลงในอ่างผสม ค่อยๆใส่หัวกะทิลงไปนวดช้าๆ นวดแป้งปั้นได้เป็นก้อนให้เหนียว ประมาณ 20 นาที แล้วใส่หางกะทิที่เหลือเพื่อคลายแป้ง ใส่เกลือสมุทร คนให้ละลาย พักไว้ก่อน
- ใส่น้ำตาล น้ำ และกลิ่นมะลิตั้งไฟกลางคนให้น้ำตาลละลาย พอเดือด ลดไฟอ่อน เคี่ยวต่อ 5 นาที จะได้น้ำเชื่อมลอยดอกมะลิประมาณ 1100 กรัม
- เทน้ำเชื่อมอุ่นๆลงในแป้งที่ผสมไว้ เทลงช้าๆแล้วค่อยๆคนแป้งไปทางเดียวกันจนหมด กรองผ่านผ้าขาวบาง (ได้น้ำหนักประมาณ 3,130 กรัม)
- เตรียมแป้งสีขาวโดยแบ่งแป้งออกมา 1,440 กรัม สำหรับถาด 9×9 นิ้ว (แบ่งเป็น 4 ส่วน 210 กรัม/ส่วน) และสำหรับถาด 8×8นิ้ว (แบ่งเป็น 4 ส่วน 150 กรัม/ส่วน)
- เตรียมแป้งสีเขียวโดยแบ่งแป้งออกมา 1,680 กรัม ใส่น้ำใบเตยเข้มข้นลงไป จนได้น้ำหนักรวมแป้ง 1,800 กรัม สำหรับถาด 9×9 นิ้ว (แบ่งเป็น 5 ส่วน 210 กรัม/ส่วน) และสำหรับถาด8×8นิ้ว (แบ่งเป็น 5 ส่วน 150/ส่วน)
- ทาน้ำมันขี้โล้ให้ทั่วถาดนึ่ง นึ่งถาดให้ร้อน 3 นาที ใช้ไฟปานกลางใส่สีเขียวสลับกับสีขาว ปิดท้ายด้วยสีเขียว นึ่งชั้นละ 5 นาที + 1 นาทีในชั้นถัดไปจนหมด 9 ชั้น (5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13 นาที)
- วางไว้ให้เย็นสนิทอย่างน้อย 4 ชั่วโมง แล้วตัดแบ่งตามชอบ โดยใช้น้ำมันขี้โล้ทามีดก่อนตัด
หมายเหตุ
- ทำน้ำใบเตยโดยปั่นใบเตย 200 กรัมกับน้ำ 200 กรัม กรองแยกน้ำและกาก นำน้ำที่แยกกลับไปปั่นซ้ำกับกากใบเตย ปั่นทั้งหมดประมาณ 3 รอบจนได้น้ำใบเตยสีเข้ม สามารถนำไปใช้ได้เลย แต่ถ้าต้องการแบบสีเข้ม ก็วางให้ตกตะกอนแล้วใช้น้ำส่วนที่ตกตะกอนไปใช้จะได้สีจะเข้มขึ้น หรืออาจใช้ดอกอัญชันมาผสมช่วงปั่นเพื่อให้ได้สีเขียวเข้มขึ้น
- ทำน้ำมันขี้โล้โดยเคี่ยวหัวกะทิบนไฟกลางจนเริ่มแตกมัน น้ำจะระเหยจนเหลือแต่น้ำมันมะพร้าวใสๆกับกากขี้มัน
- ถาดขนาดไซส์ต่างๆสำหรับปริมาณแป้ง 1สูตร
- ถาด12×12 นิ้ว จำนวน 1 ถาดแป้งสีเขียว (350×5) แป้งขาว (350×4)
- ถาด 9×9 นิ้ว จำนวน 1 ถาด แป้งสีเขียว (210×5) แป้งขาว (210×4) และถาด 8×8 นิ้ว จำนวน 1 ถาด แป้งเขียว (150×5) แป้งขาว (150×4)
- ถาดเล็กขนาด 10.5×10.5 ซม. สูง 2.5 ซม. จำนวน 7 ถาด
ทำ 5 ชั้น น้ำหนักทั้งหมด 230 กรัม/ถาด = 46 กรัม/ชั้น
Gallery
Recommended Articles
มะเขือเทศอบแห้งหรือตากแห้งเป็นภูมิปัญญาของชนชาติอิตาเลียนที่ผูกพันธ์กับมะเขือเทศเป็นชีวิตจิตใจจนหาวิธีถนอมมะเขือเทศเทศลูกเล็กใหญ่ให้ออกมาเป็นของแห้งเก็บไว้กินได้นานขึ้น วิธีการทำก็ไม่ยากเลย หาช่วงที่อากาศเป็นใจ แดดร้อนจัดๆ นำมะเขือเทศผ่าครึ่งแล้วโรยเกลือไปตากแดด 7-10วันจนแห้งสนิท แล้วเก็บไว้ในน้ำมันมะกอก ใครชอบกลิ่นเครื่องเทศ สมุนไพรหน่อยจะใส่กระเทียม พริกไทยเข้าไป น้ำมันนี้เอาไปผัดพาสต้าหรือใส่น้ำสลัดก็อร่อย หาวันที่ฟ้าฝนเป็นใจแล้วลองทำดูค่ะ
เรดโอ๊กนอกจากกินเป็นผักสลัดสดชื่นแล้วนั้นยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำปั่นได้อีกด้วย เพียงเพิ่มวัตถุดิบอย่างอื่นเพื่อให้รสชาติอร่อยขึ้นอย่างสตรอวเบอร์รี น้ำมะนาว น้ำสับปะรดและน้ำเชื่อมสีแดง จากนั้นก็ปั่นให้เข้ากันก่อนนำไปแช่ให้เย็นเป็นเกล็ดน้ำแข็งแล้วปั่นอีกครั้งแค่นี้ก็ได้เครื่องดื่มดับร้อนกินในช่วงนี้ที่อุณหภูมิทะลุไปถึง 40 องศาแบบนี้
จิ้นแดง จิ้นเเห้งหรือจิ้นเกลือ คือ วิธีการถนอมอาหารของคนภาคเหนือ เเต่เดิมใช้เนื้อวัวทำให้ได้เนื้อที่มีสีเเดงเเต่ในปัจจุบันหันมาใช้เนื้อหมูมากขึ้น วิธีการทำคือสไลด์เนื้อสัตว์เป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงต่างๆ ใส่สีผสมอาหารเพื่อทำให้เนื้อมีสีเเดง จากนั้นนำไปตากแดดให้ได้ที่แล้วนำย่างบนเตาถ่านให้พอสุกเเละเเห้ง สามารถเก็บไว้ได้นาน
Baked Alaska เค้กไอศกรีมเก่าแก่ มีประวัติน่าสนใจได้ถูกคิดค้นขึ้นโดย Charles Ranhofer เชฟชาวฝรั่งเศสเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาได้ซื้อเกาะอลาสก้าจากรัสเซีย อีกทั้งยังเป็นขนมที่ได้แรงบันดาลใจจากการค้นพบทฤษฏีการนำพาความร้อนของ Sir Benjamin Thomson ก่อนหน้านั้นที่พบว่าเมอร์แรงก์ไข่ขาวที่มีฟองอากาศมากมายนั้นเป็นฉนวนความร้อนอย่างดีจนทำให้ไอศกรีมด้านในไม่ละลาย
แป้งพัฟฟ์สำเร็จรูปทำอะไรก็อร่อย เรียกได้ว่าง่ายด้วย อร่อยด้วย จะเอามาทำในรูปทรงแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น หากใครคิดไม่ออกว่าแป้งพัฟฟ์เป็นยังไงบอกเลยว่าแป้งพัฟฟ์เป้นอะไรที่ทำยากมากเพราะเป็นการสอดไส้เนยเข้าไปในแป้งโดเป็นชั้นๆ โดยอาศัยการห่อเนยให้อยู่ในแป้งโดรอบแรก แล้วพับแป้งทบไปมาประมาณ 3-4 ครั้ง (ขึ้นกับลักษณะการพับ) จนได้ชั้นแป้งและเนยสลับกัน เมื่อแป้งพัฟฟ์โดนความร้อนในเตาอบ เนยที่อยู่ระหว่างชั้นจะละลาย เกิดเป็นไอน้ำทาให้แป้งยกตัวพองขึ้นเป็นชั้นสวยงาม การทำพัฟฟ์เพสตรีในอากาศร้อนอย่างบ้านเราจึงเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะเนยในแป้งโดจะละลายออกมาระหว่างการคลึงและพับแป้ง
มะเขือเทศอบแห้งหรือตากแห้งเป็นภูมิปัญญาของชนชาติอิตาเลียนที่ผูกพันธ์กับมะเขือเทศเป็นชีวิตจิตใจจนหาวิธีถนอมมะเขือเทศเทศลูกเล็กใหญ่ให้ออกมาเป็นของแห้งเก็บไว้กินได้นานขึ้น วิธีการทำก็ไม่ยากเลย หาช่วงที่อากาศเป็นใจ แดดร้อนจัดๆ นำมะเขือเทศผ่าครึ่งแล้วโรยเกลือไปตากแดด 7-10วันจนแห้งสนิท แล้วเก็บไว้ในน้ำมันมะกอก ใครชอบกลิ่นเครื่องเทศ สมุนไพรหน่อยจะใส่กระเทียม พริกไทยเข้าไป น้ำมันนี้เอาไปผัดพาสต้าหรือใส่น้ำสลัดก็อร่อย หาวันที่ฟ้าฝนเป็นใจแล้วลองทำดูค่ะ
เรดโอ๊กนอกจากกินเป็นผักสลัดสดชื่นแล้วนั้นยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำปั่นได้อีกด้วย เพียงเพิ่มวัตถุดิบอย่างอื่นเพื่อให้รสชาติอร่อยขึ้นอย่างสตรอวเบอร์รี น้ำมะนาว น้ำสับปะรดและน้ำเชื่อมสีแดง จากนั้นก็ปั่นให้เข้ากันก่อนนำไปแช่ให้เย็นเป็นเกล็ดน้ำแข็งแล้วปั่นอีกครั้งแค่นี้ก็ได้เครื่องดื่มดับร้อนกินในช่วงนี้ที่อุณหภูมิทะลุไปถึง 40 องศาแบบนี้
จิ้นแดง จิ้นเเห้งหรือจิ้นเกลือ คือ วิธีการถนอมอาหารของคนภาคเหนือ เเต่เดิมใช้เนื้อวัวทำให้ได้เนื้อที่มีสีเเดงเเต่ในปัจจุบันหันมาใช้เนื้อหมูมากขึ้น วิธีการทำคือสไลด์เนื้อสัตว์เป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงต่างๆ ใส่สีผสมอาหารเพื่อทำให้เนื้อมีสีเเดง จากนั้นนำไปตากแดดให้ได้ที่แล้วนำย่างบนเตาถ่านให้พอสุกเเละเเห้ง สามารถเก็บไว้ได้นาน
Baked Alaska เค้กไอศกรีมเก่าแก่ มีประวัติน่าสนใจได้ถูกคิดค้นขึ้นโดย Charles Ranhofer เชฟชาวฝรั่งเศสเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาได้ซื้อเกาะอลาสก้าจากรัสเซีย อีกทั้งยังเป็นขนมที่ได้แรงบันดาลใจจากการค้นพบทฤษฏีการนำพาความร้อนของ Sir Benjamin Thomson ก่อนหน้านั้นที่พบว่าเมอร์แรงก์ไข่ขาวที่มีฟองอากาศมากมายนั้นเป็นฉนวนความร้อนอย่างดีจนทำให้ไอศกรีมด้านในไม่ละลาย
แป้งพัฟฟ์สำเร็จรูปทำอะไรก็อร่อย เรียกได้ว่าง่ายด้วย อร่อยด้วย จะเอามาทำในรูปทรงแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น หากใครคิดไม่ออกว่าแป้งพัฟฟ์เป็นยังไงบอกเลยว่าแป้งพัฟฟ์เป้นอะไรที่ทำยากมากเพราะเป็นการสอดไส้เนยเข้าไปในแป้งโดเป็นชั้นๆ โดยอาศัยการห่อเนยให้อยู่ในแป้งโดรอบแรก แล้วพับแป้งทบไปมาประมาณ 3-4 ครั้ง (ขึ้นกับลักษณะการพับ) จนได้ชั้นแป้งและเนยสลับกัน เมื่อแป้งพัฟฟ์โดนความร้อนในเตาอบ เนยที่อยู่ระหว่างชั้นจะละลาย เกิดเป็นไอน้ำทาให้แป้งยกตัวพองขึ้นเป็นชั้นสวยงาม การทำพัฟฟ์เพสตรีในอากาศร้อนอย่างบ้านเราจึงเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะเนยในแป้งโดจะละลายออกมาระหว่างการคลึงและพับแป้ง
มะเขือเทศอบแห้งหรือตากแห้งเป็นภูมิปัญญาของชนชาติอิตาเลียนที่ผูกพันธ์กับมะเขือเทศเป็นชีวิตจิตใจจนหาวิธีถนอมมะเขือเทศเทศลูกเล็กใหญ่ให้ออกมาเป็นของแห้งเก็บไว้กินได้นานขึ้น วิธีการทำก็ไม่ยากเลย หาช่วงที่อากาศเป็นใจ แดดร้อนจัดๆ นำมะเขือเทศผ่าครึ่งแล้วโรยเกลือไปตากแดด 7-10วันจนแห้งสนิท แล้วเก็บไว้ในน้ำมันมะกอก ใครชอบกลิ่นเครื่องเทศ สมุนไพรหน่อยจะใส่กระเทียม พริกไทยเข้าไป น้ำมันนี้เอาไปผัดพาสต้าหรือใส่น้ำสลัดก็อร่อย หาวันที่ฟ้าฝนเป็นใจแล้วลองทำดูค่ะ
เรดโอ๊กนอกจากกินเป็นผักสลัดสดชื่นแล้วนั้นยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำปั่นได้อีกด้วย เพียงเพิ่มวัตถุดิบอย่างอื่นเพื่อให้รสชาติอร่อยขึ้นอย่างสตรอวเบอร์รี น้ำมะนาว น้ำสับปะรดและน้ำเชื่อมสีแดง จากนั้นก็ปั่นให้เข้ากันก่อนนำไปแช่ให้เย็นเป็นเกล็ดน้ำแข็งแล้วปั่นอีกครั้งแค่นี้ก็ได้เครื่องดื่มดับร้อนกินในช่วงนี้ที่อุณหภูมิทะลุไปถึง 40 องศาแบบนี้
จิ้นแดง จิ้นเเห้งหรือจิ้นเกลือ คือ วิธีการถนอมอาหารของคนภาคเหนือ เเต่เดิมใช้เนื้อวัวทำให้ได้เนื้อที่มีสีเเดงเเต่ในปัจจุบันหันมาใช้เนื้อหมูมากขึ้น วิธีการทำคือสไลด์เนื้อสัตว์เป็นแผ่นบางๆ แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงต่างๆ ใส่สีผสมอาหารเพื่อทำให้เนื้อมีสีเเดง จากนั้นนำไปตากแดดให้ได้ที่แล้วนำย่างบนเตาถ่านให้พอสุกเเละเเห้ง สามารถเก็บไว้ได้นาน
Baked Alaska เค้กไอศกรีมเก่าแก่ มีประวัติน่าสนใจได้ถูกคิดค้นขึ้นโดย Charles Ranhofer เชฟชาวฝรั่งเศสเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในช่วงเวลาที่สหรัฐอเมริกาได้ซื้อเกาะอลาสก้าจากรัสเซีย อีกทั้งยังเป็นขนมที่ได้แรงบันดาลใจจากการค้นพบทฤษฏีการนำพาความร้อนของ Sir Benjamin Thomson ก่อนหน้านั้นที่พบว่าเมอร์แรงก์ไข่ขาวที่มีฟองอากาศมากมายนั้นเป็นฉนวนความร้อนอย่างดีจนทำให้ไอศกรีมด้านในไม่ละลาย
แป้งพัฟฟ์สำเร็จรูปทำอะไรก็อร่อย เรียกได้ว่าง่ายด้วย อร่อยด้วย จะเอามาทำในรูปทรงแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น หากใครคิดไม่ออกว่าแป้งพัฟฟ์เป็นยังไงบอกเลยว่าแป้งพัฟฟ์เป้นอะไรที่ทำยากมากเพราะเป็นการสอดไส้เนยเข้าไปในแป้งโดเป็นชั้นๆ โดยอาศัยการห่อเนยให้อยู่ในแป้งโดรอบแรก แล้วพับแป้งทบไปมาประมาณ 3-4 ครั้ง (ขึ้นกับลักษณะการพับ) จนได้ชั้นแป้งและเนยสลับกัน เมื่อแป้งพัฟฟ์โดนความร้อนในเตาอบ เนยที่อยู่ระหว่างชั้นจะละลาย เกิดเป็นไอน้ำทาให้แป้งยกตัวพองขึ้นเป็นชั้นสวยงาม การทำพัฟฟ์เพสตรีในอากาศร้อนอย่างบ้านเราจึงเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะเนยในแป้งโดจะละลายออกมาระหว่างการคลึงและพับแป้ง
Recommended Videos