เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
4 คน
Level
2
ผัดเผ็ดปลาดุกรสชาติจัดจ้านสไตล์คนไทย ใช้ปลาดุกนำมาทอดเป็นชิ้นเหลืองกรอบ ผัดกับพริกแกงเผ็ด ปรุงรสให้เข้มข้นด้วยน้ำปลา น้ำตาล เพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยพริกไทยอ่อนเเละใบกะเพรา กินแกล้มกับใบบัวบกผักพิ้นบ้านช่วยคลายร้อน
INGREDIENTS
ปลาดุก (ตัวละ 300 กรัม)
2 ตัว
น้ำมันพืช
3 ถ้วย
น้ำพริกแกงเผ็ดที่โขลก
3 ช้อนโต๊ะ
น้ำ
¼ ถ้วย
น้ำปลา
2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย
1 ช้อนชา
ใบมะกรูดฉีก
5 ใบ
พริกไทยอ่อน
5 ช่อ
ใบกะเพราหั่นหยาบ
½ ถ้วย
ใบบัวบกสำหรับจัดเสิร์ฟ
ใบกะเพราและพริกขี้หนูสำหรับตกแต่ง
พริกขี้หนูแห้ง
30 เม็ด
เกลือสมุทร
½ ช้อนชา
พริกขี้หนูสีเขียวและแดง
10 เม็ด
พริกไทยดำเม็ด
15 เม็ด
ข่าแก่หั่นละเอียด
1 ช้อนชา
ตะไคร้ซอย
2 ต้น
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด
1 ช้อนชา
กระเทียมไทยกลีบเล็ก
15 กลีบ
ขมิ้นสดหั่นท่อน 1 นิ้ว
1 ชิ้น
กะปิ
1 ช้อนชา
METHOD
1. ทำน้ำพริกแกงโดยโขลกพริกขี้หนูแห้งกับเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด จากนั้นใส่พริกขี้หนู พริกไทย ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด กระเทียม ขมิ้น และกะปิ โขลกรวมกันจนละเอียด ตักใส่ถ้วย พักไว้
2. ล้างปลาดุก ผ่าท้องควักไส้ออก ล้างด้วยน้ำปูนใสแล้วล้างน้ำอีกครั้งให้สะอาด หั่นเป็นแว่นหนา ½ นิ้วล้างแล้วใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ
3. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางให้ร้อน เคล้าปลาดุกกับเกลือสมุทรเล็กน้อย จากนั้นใส่ลงทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
4. ตักน้ำมันที่ทอดปลาออกให้เหลือ 3 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำพริกแกงที่โขลกลงผัดพอหอม เติมน้ำ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาล ใส่ใบมะกรูดตามด้วยปลาดุกทอด ผัดให้เข้ากัน ใส่พริกไทยอ่อน ใบกะเพรา ผัดพอทั่ว ปิดไฟ
5. ใส่ใบบัวบกในจานหรือชาม ตักผัดเผ็ดปลาดุกพริกไทยอ่อนใส่จาน ตกแต่งด้วยใบกะเพราและพริกขี้หนูเสิร์ฟ
อ่านบทความเพิ่มเติม
Tags:
กับข้าว, ต้านโรค, ทอด, น้ำพริกแกงเผ็ด, ปลาดุก, ผัด, พริกแกง, พริกไทยอ่อน, อาหารไทย, เครื่องแกง, ใบบัวบก
Recommended Articles
ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน
อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
แกงขาหมูใบมะดันกรุบมะพร้าวตำรับอาหารไทยพื้นบ้านจากชุมชนทรงคนอง จังหวัดนครปฐม สมัยก่อนที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำในแม่น้ำลำคลอง จึงใช้ตะพาบน้ำทำเมนูนี้ ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้ขาหมูติดหนังเนื่องจากมีสัมผัสนุ่มหนึบคล้ายกับเชิงตะพาบน้ำ แต่เดี๋ยวนี้สิ่งที่ยากไปกว่าตะพาบน้ำคือการหากรุบมะพร้าว หรือกะลามะพร้าวอ่อน ซึ่งโดยมากหาได้ตามสวนมะพร้าวเพราะไม่ค่อยมีคนนำมาขาย กะลามะพร้าวอ่อนนำมาผ่าเอาเนื้อมะพร้าวที่ติดกับกะลามาแกง รสชาติกะลาอ่อนจะมันๆฝาดๆ แต่เวลาสุกแล้วความฝาดจะหายไปได้สัมผัสกรุบๆสมชื่อเมนู
หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว
เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน
ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน
อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
แกงขาหมูใบมะดันกรุบมะพร้าวตำรับอาหารไทยพื้นบ้านจากชุมชนทรงคนอง จังหวัดนครปฐม สมัยก่อนที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำในแม่น้ำลำคลอง จึงใช้ตะพาบน้ำทำเมนูนี้ ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้ขาหมูติดหนังเนื่องจากมีสัมผัสนุ่มหนึบคล้ายกับเชิงตะพาบน้ำ แต่เดี๋ยวนี้สิ่งที่ยากไปกว่าตะพาบน้ำคือการหากรุบมะพร้าว หรือกะลามะพร้าวอ่อน ซึ่งโดยมากหาได้ตามสวนมะพร้าวเพราะไม่ค่อยมีคนนำมาขาย กะลามะพร้าวอ่อนนำมาผ่าเอาเนื้อมะพร้าวที่ติดกับกะลามาแกง รสชาติกะลาอ่อนจะมันๆฝาดๆ แต่เวลาสุกแล้วความฝาดจะหายไปได้สัมผัสกรุบๆสมชื่อเมนู
หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว
เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน
ซุปธัญพืชแสนอร่อย อิ่มท้อง มีประโยชน์ ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเท่าไรโดยนำถั่วแดงไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปล้างน้ำแล้วแช่ทิ้งไว้ข้ามคืน ล้างน้ำอีกรอบก่อนนำไปต้มให้สุกนุ่ม ใส่รากบัว ปรุงรสด้วยน้ำตาล จากนั้นค่อยใส่เม็ดบัวเป็นอย่างสุดท้าย ต้มจนสุก เสิร์ฟร้อนๆหรือจะนำแช่ตู้เย็นแล้วทานก็ได้เช่นกัน
อาหารเช้าง่ายๆแถมคุณประโยชน์มากมายอย่าง "ข้าวต้มเม็ดบัวกับเก๋าคี่" ที่มีทั้งแครอท เห็ดหอม เม็ดบัว เก๋าคี่ ที่เต็มไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งนั้น ที่บอกว่าง่ายก็คือแค่ต้มส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อจนส่วนผสมทุกอย่างสุก ปรุงรสแค่เกลือและซีอิ๊วเล็กน้อยเพิ่มความหอมด้วยน้ำมันงา โรยด้วยผักชีและพริกไทยดำ แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
แกงขาหมูใบมะดันกรุบมะพร้าวตำรับอาหารไทยพื้นบ้านจากชุมชนทรงคนอง จังหวัดนครปฐม สมัยก่อนที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำในแม่น้ำลำคลอง จึงใช้ตะพาบน้ำทำเมนูนี้ ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้ขาหมูติดหนังเนื่องจากมีสัมผัสนุ่มหนึบคล้ายกับเชิงตะพาบน้ำ แต่เดี๋ยวนี้สิ่งที่ยากไปกว่าตะพาบน้ำคือการหากรุบมะพร้าว หรือกะลามะพร้าวอ่อน ซึ่งโดยมากหาได้ตามสวนมะพร้าวเพราะไม่ค่อยมีคนนำมาขาย กะลามะพร้าวอ่อนนำมาผ่าเอาเนื้อมะพร้าวที่ติดกับกะลามาแกง รสชาติกะลาอ่อนจะมันๆฝาดๆ แต่เวลาสุกแล้วความฝาดจะหายไปได้สัมผัสกรุบๆสมชื่อเมนู
หัวไชเท้าเอามาทำเมนูได้หลากหลาย อย่างเมนูนี้ชาวพม่านำมายำเคล้ากับเครื่องอย่างน้ำตาล เกลือ และงาดำคั่ว และโรยหอมเจียวก่อนกิน เคล็ดลับที่จะทำให้หัวไชเท้ามีรสชาติอร่อย (ไม่เผ็ดเมื่อเวลากินดิบ) คือ จะนำหัวไช้เท้าที่เตรียมเรียบร้อยมาเคล้ากับเกลือ ทิ้งไว้สักพัก จากนั้นบีบเอาน้ำที่คายออกมาออกให้หมด แล้วนำไปเคล้ากับน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สัก 1 คืน ก่อนนำมาปรุงรสตามส่วนผสมข้างต้น เท่านี้ก็ได้ยำหัวไช้เท้าอร่อยกินแล้ว
เมนูต้มส้มรสชาติเปรี้ยวนำหวานตาม ความเปรี้ยวของต้มส้มแต่ละสูตรไม่เหมือนกัน บางสูตรใส่มะนาว บางสูตรใส่มะขามเปียก เพื่อให้เกิดรสชาติที่เปรี้ยว หากแต่ต้มส้มสูตรนี้ใช้น้ำส้มโหนดหรือน้ำส้มจาก ซึ่งเป็นการทำน้ำส้มสายชูจากการทำให้น้ำตาลโตนด (หวาน) ให้กลายเป็นน้ำตาลเปรี้ยว มักนิยมนำไปทำกับข้าวมากมายไม่ว่าจะใส่ในแกงส้ม ทำเป็นพริกส้ม หรือจะเอามาใส่ในต้มส้มอย่างเมนูนี้เลยก็ได้เช่นกัน
Recommended Videos