เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่

 

food story

บัวบก อาหารบำรุงสมอง

Story by ทีมบรรณาธิการ

ยาบำรุงสมอง ต้านโรคอัลไซเมอร์ ที่มีประสิทธิภาพไม่แพ้ใบแปะก๊วย

ใบบัวบกเป็นผักขึ้นตามดินชื้น เกิดง่ายตายยาก เป็นผักธรรมชาติ ต้นเล็ก ใบกลมหยักที่ก้านใบดูคล้ายใบบัว จึงได้ชื่อว่า บัวบก เป็นพืชล้มลุกตระกูล Umbelliferae วงศ์เดียวกับผักชี ขึ้นฉ่าย เฟนเนล พาร์สเลย์ และแครอท ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Centella asiatica (L.) Urban ชื่อภาษาอังกฤษว่า Indian pennywort, Asiatic pennywort และ Centella

 

เราคนไทยโชคดีมีความคุ้นเคยกับใบบัวบกอย่างมากตั้งแต่ในอดีต คือ อาแปะหาบถังไม้ใส่น้ำแข็งกับน้ำใบบัวบกเร่ขาย จนทุกวันนี้ยังมีน้ำใบบัวบกขายตามข้างทางหลงเหลืออยู่บ้างในย่านเยาวราชและเขตชุมชนหลายแห่ง ที่พัฒนามากไปกว่านั้นก็คือ น้ำใบบัวบกบรรจุขวดแช่น้ำแข็งหรือใส่ตู้เย็นไว้พร้อมขายพร้อมดื่ม

 

ฉันโชคดีมากที่มีแม่บ้านสุดประเสริฐ จึงสามารถดื่มน้ำใบบัวบกผสมใบย่านางคั้นเองได้ทุกวันในเวลาเช้า การคั้นน้ำใบบัวบกดื่มเองมีข้อดีมหาศาล คือ ได้ดื่มน้ำใบบัวบกคั้นสดๆ เพราะยิ่งสดยิ่งมีสารอาหารมาก มีพลังปราณพลังแห่งชีวิตสูงสุด และปลอดน้ำตาล จึงได้ความสมดุลของคลอโรฟิลล์เต็มๆ

 

น้ำใบบัวบกมะนาว

 

 

ฉันมีโอกาสไปกินข้าวต้มใบบัวบกในศรีลังกา ซึ่งเป็นอาหารสุขภาพยอดนิยมของชาวสิงหล ขอบอกว่าอร่อยติดใจทีเดียว ชาวศรีลังกาเรียกใบบัวบกว่า โกตู โคล่ะ (Gotu kola) เขาปรุงด้วยการต้มข้าวต้มกับน้ำซุปผักจนสุกนุ่ม แล้วใส่กะทิลงไป ปรุงด้วยเกลือแต่เพียงเล็กน้อย เมื่อเดือดสุกได้ที่แล้ว ปิดไฟ จึงใส่น้ำใบบัวบกคั้นเข้มข้นสดๆ ลงไป หม้อข้าวต้มก็จะออกเขียวสวย เวลากินสามารถกินได้เลย ข้าวต้มโกตู โคล่ะ กินได้ทั้งแบบเค็มและแบบหวาน ถ้ากินแบบหวานก็เพียงแต่ใส่น้ำตาลคีตุน อันเป็นน้ำตาลท้องถิ่นศรีลังกาที่ทำมาจากต้นคีตุน หน้าตาเหมือนต้นเต่ารั้งอย่างไรอย่างนั้นเลย เพียงแต่ต้นใหญ่กว่า สูงกว่ามากมาย เป็นต้นปาล์มชนิดหนึ่ง ชาวศรีลังกาถือว่าเป็นอาหารยา กินอร่อย ให้สุขภาพที่ดี เป็นยาอายุวัฒนะ ปรับสมดุลให้กับร่างกาย

 

ใบบัวบกมีรสขื่นนิดๆ เฝื่อนออกขมหน่อย มีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ฉันชอบมาก กินได้ทั้งใบ ก้านใบ และราก ความขื่นขมนิดๆ ก็คือรสชาติที่มีเสน่ห์ของใบบัวบก ช่วยทำให้เจริญอาหาร ตัดรสเลี่ยนคาวได้เป็นอย่างดี เสริมรสอาหารให้อร่อยลงตัว ใบบัวบกที่มีสรรพคุณทางยาดีที่สุด คือใบบัวบกขึ้นตามธรรมชาติ ใบมีรสขมเป็นพิเศษ ชาวไทยภาคอีสานเรียกว่า “ผักหนอกขม”

 

วุ้นใบบัวบก

 

 

ใบบัวบกมีฤทธิ์เย็น มีสรรพคุณแก้ร้อนในกระหายน้ำ ช่วยถอนพิษร้อนผ่อนพิษไข้ แก้ช้ำในเพราะช่วยซ่อมแซมเส้นเลือดฝอย ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี จึงช่วยรักษาเยียวยาอาการฟกช้ำดำเขียวได้ทั้งภายนอกและภายใน ได้ทั้งกินและพอกบริเวณฟกช้ำ ช่วยสมานแผลได้ด้วย แก้อาการปัสสาวะมีเลือดกะปริบกะปรอย อาการดีซ่าน อาการเมื่อยล้า และแก้โรคความดันโลหิตสูง

 

ใบบัวบกมีสรรพคุณในการบำรุง ตั้งแต่บำรุงประสาท บำรุงสายตา บำรุงเส้นผม บำรุงเอ็น บำรุงผิวพรรณ และชะลอความแก่ ต้านมะเร็ง ด้วยเหตุนี้ใบบัวบกจึงได้ชื่อว่า เป็นอาหารยาอายุวัฒนะ

 

สรรพคุณที่กำลังมาแรงสุดๆ คือ ใบบัวบกบำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ที่มีคุณสมบัติไม่แพ้ใบแปะก๊วย แถมเป็นผักราคาถูก หากินได้ง่าย ปลูกกินเองก็ได้ง่ายจัง

 

ทั้งนี้เพราะใบบัวบกช่วยทำให้ปลายประสาทสมองส่วนอมิกดาลา (Amygdala) ซึ่งควบคุมเหตุผล อารมณ์ มีการพัฒนาที่ดีขึ้น ทำให้มีปฏิภาณไหวพริบในการหลบหลีกอันตรายได้ดีในทารก เพิ่มสมาธิ และความสามารถในการตัดสินใจ

 

ใบบัวบกยังช่วยให้การหายใจในระดับเซลล์สมองดีขึ้น ช่วยให้ร่างกายหลั่งสารกาบา (GABA-Gamma Aminobutyric Acid) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่สำคัญในปริมาณที่มากขึ้น สารกาบานี้ทำหน้าที่รักษาสมดุลของจิตใจ ทำให้ผ่อนคลายและหลับได้ง่าย ทำให้หลอดเลือดแข็งแรง

 

ดังนั้น ใบบัวบกจึงคืออาหารเพิ่มไอคิว เพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมอง ช่วยคลายเครียดเป็นอย่างดี เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี เพราะหลานตัวน้อยของฉันดื่มน้ำคลอโรฟิลล์จากใบบัวบกและใบย่านางตั้งแต่อายุ 6 เดือน ดื่มแบบเจือจาง ผสมน้ำให้มากหน่อย หลานตัวน้อยของฉันจึงได้ฉลาดไม่เบา

 

น้ำพริกไตปลา

 

 

พวกเราอย่ารอช้า รีบหาใบบัวบกมาไว้เป็นผักประจำบ้านเสียแต่วันนี้ เพราะทางเมืองนอกได้ผลิตแคปซูลใบบัวบกออกมาแล้ว ให้ชื่อว่า เบรน โทนิก (brain tonic) หรืออาหารเสริมสมองนั่นเอง          

 

คุณค่าทางโภชนาการของใบบัวบก 100 กรัม ให้พลังงาน 44 กิโลแคลอรี ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต 7.1 กรัม โปรตีน 1.8 กรัม ไขมัน 0.9 กรัม เส้นใย 2.6 กรัม แคลเซียม 146 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 30 มิลลิกรัม เหล็ก 3.9 มิลลิกรัม วิตามินเอ 10,962 IU วิตามินบี1 0.24 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.09 มิลลิกรัม ไนอะซิน 0.8 มิลลิกรัม วิตามินซี 4 มิลลิกรัม

 

ว่ากันว่า กินใบบัวบกต่อเนื่องกันเพียง 1 เดือน โรคร้ายหายสิ้น แล้วยังมีปัญญารุ่งเรือง ชาวศรีลังกาเชื่อว่า กินใบบัวบกเพียงวันละ 2 ก้านใบ ความแก่ชราก็จะห่างไกลออกไป “Take two leaves a day will keep old age away”

 

ยำใบบัวบกโบราณ

 

 

กินใบบัวบกให้อร่อยในวิถีชีวิตไทย ได้แก่กินกับผัดไทย ผัดหมี่ หมี่กะทิ ขนมจีนน้ำยา ขนมจีนน้ำพริก กินแนมแกมกับลาบ ทำยำใบบัวบก กินกับน้ำพริกเครื่องจิ้มทั้งหลาย อย่างไรก็ตาม กินใบบัวบกสดๆ กับอะไรก็ได้ หรือกินแนมแกมกับอาหารรสจัดทั้งหลายก็อร่อยดี

 

การเลือกใบบัวบกมาทำกินนั้น ถ้านำไปคั้นเป็นน้ำคั้น ให้เลือกใบที่สด ไม่ช้ำ ใบเขียว แก่สักหน่อย จะได้คลอโรฟิลล์มาก สารอาหารมาก แต่รสจะแรง ถ้านำมากินสดหรือยำ ให้เลือกใบที่อ่อนลงมาสักนิด ใบเขียวสดใส ก้านอวบ ก็จะเคี้ยวได้ง่ายกว่า รสละมุนละไมกว่า

 

ถ้าจะปลูกต้นบัวบก ปลูกในกระถางต้นไม้ก็ได้ เพราะเป็นพืชล้มลุก รากสั้น แพร่พันธุ์ด้วยรากไหล ดังนั้น เพียงเอาไหลที่ติดมากับราก ฝังลงดินในกระถาง ตั้งไว้ในที่มีแดด แดดครึ่งวันก็ได้ รดน้ำให้ดินชุ่มสักหน่อย รดเช้าเย็นได้ยิ่งดี ไม่ช้าไหลก็จะเติบโตเป็นต้นให้เราได้ชื่นชม ไม่นานก็สามารถเด็ดใบทั้งก้านมากินได้แล้ว ผักสดจากต้นด้วยมือเราเองแสนอร่อย พลังปราณสูง คุณค่าอาหารเพียบ

 

แกงกะทิใบบัวบก

 

 

ข้าวคลุกขมิ้น

 

 

ผัดเผ็ดปลาดุกพริกไทยอ่อน

 

 

เรื่อง นิดดา หงษ์วิวัฒน์

 

สูตรอาหาร อบเชย อิ่มสบาย

Share this content

Contributor

Recommended Articles

Food Storyลองกิน “มตสึนาเบะ” ครั้งแรก หม้อไฟไส้วัว เมนูถิ่นแสนอร่อยที่ฮากาตะ
ลองกิน “มตสึนาเบะ” ครั้งแรก หม้อไฟไส้วัว เมนูถิ่นแสนอร่อยที่ฮากาตะ

 

 

Recommended Videos