เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
“ทาร์ตไวท์ช็อกโกแลตราสเบอร์รี” ที่นำเอาไวท์ช็อกโกแลตมาผสมรวมกันกับมัสคาโปร์เนชีส วิปปิ้งครีม และมะนาวเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ตัวไส้มีความหวานมากเกินไป เพิ่มความพิเศษด้วยราสเบอร์รีแยม ด้านฐานล่าง และราสเบอร์รีสดตกแต่งด้านบน ตัวแยมด้านล่างจะช่วยลดทอนความหวานได้ดีของตัวไวท์ช็อกโกแลตได้ดี
INGREDIENTS
ราสเบอร์รีสำหรับตกแต่ง
น้ำตาลไอซิ่งสำหรับโรย
เเอปริคอตเกลซสำหรับทาเคลือบ
อุปกรณ์ พิมพ์ทาร์ตวงกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 11 ซม. จำนวน 4 พิมพ์ ไม้คลึงแป้ง กระดาษไข ถั่ว และแผ่นอบซิลิโคนสำหรับรองอบ
แป้งสาลีอเนกประสงค์
370 กรัม
น้ำตาลทราย
60 กรัม
เกลือป่น
1/8 ช้อนชา
เนยสดชนิดจืดเย็นจัด
200 กรัม
ไข่ไก่ตีพอเข้ากัน
25 – 27 กรัม
ไวท์ช็อกโกแลต
300 กรัม
มัสคาร์โปเนชีส
400 กรัม
วิปปิ้งครีม
120 กรัม
น้ำมะนาว
60 กรัม
ราสเบอร์รีแช่แข็ง
400 กรัม
น้ำตาลทราย
100 กรัม
METHOD
1. ทำแป้งทาร์ตโดยร่อนแป้งสาลี น้ำตาลทราย และเกลือ เข้าด้วยกัน ใส่เนย ใช้ปลายนิ้วมือถูแป้งกับเนยจนแป้งเข้ากันดี ส่วนผสมมีลักษณะคล้ายเม็ดทรายหยาบๆ ใส่ไข่ไก่ นวดแป้งให้เข้ากันเป็นก้อนเดียว ห่อแป้งทาร์ตด้วยพลาสติกแรป นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาอย่างน้อย 30 นาที จนถึง 1 ชั่วโมง
2. ระหว่างนั้นทำไส้ไวท์ช็อกโกแลตโดยใส่น้ำลงในหม้อประมาณ ¼ ของหม้อ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนเดือด ลดเป็นไฟอ่อนจากนั้นใส่ไวท์ช็อกโกแลต มัสคาร์โปเนชีส และวิปปิ้งครีมลงในอ่างผสม นำอ่างขึ้นวางบนหม้อน้ำเดือดอ่อนๆ (ระวังอย่าให้ก้นอ่างผสมสัมผัสน้ำเดือด เพราะจะทำให้ไวท์ช็อกโกแลตร้อนเกินไป) รอจนไวท์ช็อกโกแลตเริ่มละลาย ใช้พายยางคนให้ส่วนผสมเข้ากันดี ยกลงจากหม้อ ใส่น้ำมะนาว คนให้เข้ากันอีกครั้ง พักไว้
3. ทำราสป์เบอร์รีแยมโดยใส่ราสป์เบอร์รีและน้ำตาลลงในหม้อ ใช้ช้อนคนให้ส่วนผสมเข้ากัน ยกขึ้นตั้งบนไฟกลาง เคี่ยวไปเรื่อยๆจนส่วนผสมเริ่มข้นขึ้น ปิดไฟ พักไว้ ให้หายร้อน
4. นำแป้งทาร์ตออกจากตู้เย็น พักไว้ 10 นาที หรือจนแป้งคลายความเย็นลง คลึงแป้งทาร์ตหนาประมาณ 2 มม. นำแป้งกรุลงในพิมพ์ตัดขอบแป้งส่วนเกินออก ใช้ส้อมจิ้มด้านล่างแป้งทาร์ตให้ทั่ว พักไว้ในตู้เย็นอีกประมาณ 30 นาที ระหว่างนั้นอุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส พอแป้งทาร์ตครบกำหนด วางกระดาษไขลงบนแป้งทาร์ต นำถั่ววางทับลงบนกระดาษไข (เพื่อป้องกันแป้งทาร์ตยกตัวเวลาอบ) นำเข้าเตาอบที่อุ่นไว้ อบนานประมาณ 15 นาที นำออกจากเตา เอากระดาษไขและถั่วออก ลดไฟลงเหลือ 170 องศาเซลเซียส อบต่ออีก 8 นาที นำออกจากเตาอบ พักให้หายร้อนก่อนนำออกจากพิมพ์
5. ใส่ราสป์เบอร์รีแยมให้ทั่วฐานทาร์ต ประมาณ ½ ของพิมพ์ ตามด้วยไส้ไวท์ช็อกโกแลต นำแช่ในตู้เย็นให้เซ็ตตัวประมาณ 15 นาที นำออกมาตกแต่งด้วยราสป์เบอร์รี ทาแอปริคอตเกลซให้ทั่วราสป์เบอร์รี โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง เสิร์ฟ
อ่านบทความเพิ่มเติม
Gallery
Recommended Articles
ฮ่องกงแหล่งท่องเที่ยวใกล้ไทยที่มีของกินของอร่อยเยอะมาก ทั้งของหวานของคาว ติ่มซำ ข้าวหมูแดงหมูกรอบ โจ๊กเนื้อเนียน ทาร์ตไข่ รวมถึงเมนูยอดฮิตที่กำลังเป็นกระแสเรียกว่าใครไปฮ่องกงต้องไปกินไม่งั้นมาไม่ถึง นั่นก็คือ ข้าวหมูทอด ความพิเศษของข้าวหมูทอดสไตล์ฮ่องกง คือเค้าจะใช้เนื้อหมูส่วนพอร์คชอปติดกระดูก นำมาทอดจนสุกเหลืองสวย ให้ผิวนอกกรอบนิดๆ ส่วนเนื้อด้านในมีความนุ่ม โปะหมูบนข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยซอสรสหวานๆ เค็มๆ เสิร์ฟพร้อมไข่ดาวแบบไม่สุก เป็นเมนูง่ายๆ ที่โคตรจะน่ากิน
เมนูนี้เป็นหนึ่งใน comfort foods ของบ้านเชฟน่านเลยก็ว่าได้ คอหมูเเท้ย่างหอมๆ เคล้าด้วยข้าวคั่วอย่างจุใจ ให้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเจ้าแบบเวียดนามกับผักหอมนานาชนิด จิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เติมความมันด้วยถั่ว อร่อยมากๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพประจำบ้านเชฟน่านเลย
เมนูประจำฤดูฝน เป็นเห็ดป่าที่ขึ้นในแถบภาคตะวันตกของประเทศไทย แถวจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เห็ดระโงกมีสมผัสนุ่มนวล ทุกครั้งที่ได้เห็ดระโงกมา เราจะเอามาแกงยอดมะขามเท่านั้น โดยไม่มีเนื้อสัตว์ปะปนเลย ให้เห็ดระโงกเป็นพระเอกอย่างแท้จริง น้ำแกงจะมีความข้นเล็กๆจากเห็ด ออกเปรี้ยวนำจากยอดมะขามอ่อน กลมกล่อมมากๆ
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
ฮ่องกงแหล่งท่องเที่ยวใกล้ไทยที่มีของกินของอร่อยเยอะมาก ทั้งของหวานของคาว ติ่มซำ ข้าวหมูแดงหมูกรอบ โจ๊กเนื้อเนียน ทาร์ตไข่ รวมถึงเมนูยอดฮิตที่กำลังเป็นกระแสเรียกว่าใครไปฮ่องกงต้องไปกินไม่งั้นมาไม่ถึง นั่นก็คือ ข้าวหมูทอด ความพิเศษของข้าวหมูทอดสไตล์ฮ่องกง คือเค้าจะใช้เนื้อหมูส่วนพอร์คชอปติดกระดูก นำมาทอดจนสุกเหลืองสวย ให้ผิวนอกกรอบนิดๆ ส่วนเนื้อด้านในมีความนุ่ม โปะหมูบนข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยซอสรสหวานๆ เค็มๆ เสิร์ฟพร้อมไข่ดาวแบบไม่สุก เป็นเมนูง่ายๆ ที่โคตรจะน่ากิน
เมนูนี้เป็นหนึ่งใน comfort foods ของบ้านเชฟน่านเลยก็ว่าได้ คอหมูเเท้ย่างหอมๆ เคล้าด้วยข้าวคั่วอย่างจุใจ ให้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเจ้าแบบเวียดนามกับผักหอมนานาชนิด จิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เติมความมันด้วยถั่ว อร่อยมากๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพประจำบ้านเชฟน่านเลย
เมนูประจำฤดูฝน เป็นเห็ดป่าที่ขึ้นในแถบภาคตะวันตกของประเทศไทย แถวจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เห็ดระโงกมีสมผัสนุ่มนวล ทุกครั้งที่ได้เห็ดระโงกมา เราจะเอามาแกงยอดมะขามเท่านั้น โดยไม่มีเนื้อสัตว์ปะปนเลย ให้เห็ดระโงกเป็นพระเอกอย่างแท้จริง น้ำแกงจะมีความข้นเล็กๆจากเห็ด ออกเปรี้ยวนำจากยอดมะขามอ่อน กลมกล่อมมากๆ
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
ฮ่องกงแหล่งท่องเที่ยวใกล้ไทยที่มีของกินของอร่อยเยอะมาก ทั้งของหวานของคาว ติ่มซำ ข้าวหมูแดงหมูกรอบ โจ๊กเนื้อเนียน ทาร์ตไข่ รวมถึงเมนูยอดฮิตที่กำลังเป็นกระแสเรียกว่าใครไปฮ่องกงต้องไปกินไม่งั้นมาไม่ถึง นั่นก็คือ ข้าวหมูทอด ความพิเศษของข้าวหมูทอดสไตล์ฮ่องกง คือเค้าจะใช้เนื้อหมูส่วนพอร์คชอปติดกระดูก นำมาทอดจนสุกเหลืองสวย ให้ผิวนอกกรอบนิดๆ ส่วนเนื้อด้านในมีความนุ่ม โปะหมูบนข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยซอสรสหวานๆ เค็มๆ เสิร์ฟพร้อมไข่ดาวแบบไม่สุก เป็นเมนูง่ายๆ ที่โคตรจะน่ากิน
เมนูนี้เป็นหนึ่งใน comfort foods ของบ้านเชฟน่านเลยก็ว่าได้ คอหมูเเท้ย่างหอมๆ เคล้าด้วยข้าวคั่วอย่างจุใจ ให้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว ห่อด้วยแผ่นแป้งข้าวเจ้าแบบเวียดนามกับผักหอมนานาชนิด จิ้มกับน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน เติมความมันด้วยถั่ว อร่อยมากๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพประจำบ้านเชฟน่านเลย
เมนูประจำฤดูฝน เป็นเห็ดป่าที่ขึ้นในแถบภาคตะวันตกของประเทศไทย แถวจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี เห็ดระโงกมีสมผัสนุ่มนวล ทุกครั้งที่ได้เห็ดระโงกมา เราจะเอามาแกงยอดมะขามเท่านั้น โดยไม่มีเนื้อสัตว์ปะปนเลย ให้เห็ดระโงกเป็นพระเอกอย่างแท้จริง น้ำแกงจะมีความข้นเล็กๆจากเห็ด ออกเปรี้ยวนำจากยอดมะขามอ่อน กลมกล่อมมากๆ
‘น้อยหน่า’ ผลไม้ไทยรสหอมหวานเนื้อละมุนลิ้นที่นอกจากกินเป็นผลไม้แล้วคนโบราณยังนิยมนำมาทำเป็นของหวานได้อีกด้วยกับเมนู น้อยหน่าน้ำกะทิ ซึ่งจะใช้น้อยหน่าหนังพันธุ์เพชรปากช่อง ความพิเศษของพันธุ์นี้คือ ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ เมื่อสุกกำลังดีเนื้อจะนุ่มหนึบไม่เละง่าย ที่สำคัญเมล็ดน้อย เป็นเมนูขนมหวานที่ไม่อยากให้พลาดในฤดูกาลนี้จริงๆ
ปลาเค็มทอดกะทิ เป็นเมนูเด็ดประจำ ‘ร้านยายปวด‘ ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร เรียกว่าใครมาร้านยายปวดต้องสั่ง! ถ้าไม่สั่งถือว่ามาไม่ถึง! วัตถุดิบหลักๆ จะใช้ปลาอินทรีเค็มทอดมาเคี่ยวกับหัวกะทิจนแตกมัน เติมรสหวานด้วยน้ำตาลมะพร้าว ผัดจนเปลี่ยนสี รสจะออกหวานเค็มมัน หอมกลิ่นกะทิ กินคู่กับผักสด หอมแดง กระเทียมและพริกขี้หนูซอยคล้ายเมนูประเภทน้ำพริก ลักษณะหน้าตาถึงจะดูไม่เป็นรูปเป็นร่าง สีออกคล้ำๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าอร่อยมาก
Recommended Videos