“อิตาดาคิมัส” มาทำราเมงกินเองที่บ้านดีกว่า ได้ยินคำว่า ‘ราเมง’ อย่าเพิ่งหนาวกันนะคะ ใครกำลังคิดภาพการทำน้ำซุปทงคตสึราเมงที่แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว แค่นึกถึงว่าต้องเคี่ยวน้ำซุปกระดูกหมูนานเป็นวันๆ แล้วเราจะได้กินกันเมื่อไรหนา ลบความคิดนี้ทิ้งไปได้เลยค่ะ เพราะ KRUA.CO จะชวนทุกคนมาทำ ทงคตสึราเมง กินเองที่บ้าน แบบสบายๆ แค่ดีดนิ้วก็เสร็จแล้ว 

พูดถึงทงคตสึราเมง เราก็จะนึกถึงความเข้มข้นของน้ำซุปที่ผ่านการนำกระดูกของเนื้อสัตว์อย่างเนื้อหมูไปเคี่ยวเป็นเวลานาน รวมๆ เวลาแล้วก็ประมาณ 5 – 6 ชั่วโมงเป็นต้นไป เพื่อดึงความหวานและความเข้มข้นของไขกระดูกออกมา ทำให้น้ำซุปที่ได้มีความเข้มข้น เรียกได้ว่าความเข้มข้นของน้ำซุปนั้นก็ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการเคี่ยวกระดูกหมูของแต่ละร้านนั่นเอง บางร้านใส่มันหมูเข้าไปเคี่ยวด้วยเพื่อเพิ่มความมันของน้ำซุปเข้าไปอีก เรียกได้ว่าน้ำซุปทงคตสึจะเข้มข้นจนหยดสุดท้ายกันเลยทีเดียว

แต่หากจะให้ใช้เวลาเคี่ยวนานเป็น 5 – 6 ชั่วโมงสำหรับสายโฮมเมดอย่างเราก็ไม่น่าจะไหว อย่างที่เกริ่นไปว่า เราจะชวนทุกคนมาทำทงคตสึราเมงแบบรวดเร็วทันใจ ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ก็จะได้ทงคตสึราเมงรสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นน้ำซุปกระดูกหมู แถมเครื่องเคียงก็จัดเต็มเหมือนอย่างในร้านอาหารเลย 

จะทำอย่างไร ออกมาเป็นแบบไหน มาดูกันค่ะ 

เริ่มจากวัตถุดิบที่จะทำน้ำซุปกระดูกหมูก่อน สิ่งแรกที่ต้องมีคือ กระดูกเล้ง อันนี้ใช้ส่วน กระดูกข้อสั้น ก็ได้นะ พอมีกระดูกแล้วก็มีส่วนที่ทำให้น้ำซุปมีความหอมหวานขึ้นไปอีก โดยในสูตรนี้จะใส่ขิง ต้นหอมญี่ปุ่น หอมใหญ่ ลงไปต้มด้วย ใส่สาเกลงไปเพื่อดับกลิ่นกระดูกและทำให้น้ำซุปมีกลิ่นหอมและรสชาติที่หวานมากขึ้น ก่อนจะเคี่ยวน้ำซุปกระดูกหมู เรามีเคล็ดลับเล็กน้อยในการทำให้น้ำซุปสีสวย ด้วยการแช่ส่วนกระดูกที่จะใช้ในน้ำเย็นเป็นเวลา 30 นาที ก่อนนำไปต้ม การทำเช่นนี้จะช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรกที่มากับตัวกระดูก และล้างคราบเลือดออกจากตัวกระดูกด้วย

พอแช่ครบเวลาแล้วก็นำมาใส่ลงหม้อ ใส่เครื่องต่างๆ ตามด้วยน้ำและสาเก ในส่วนของน้ำที่ใส่ลงไปนั้น ให้ใส่แค่พอท่วมกระดูกหรือเสมอกระดูกก็ได้ (เราจะได้น้ำซุปที่เข้มข้นแบบประหยัดเวลา) จากนั้นยกขึ้นตั้งไฟเคี่ยวไปเลย 1 ชั่วโมงเต็มๆ ระหว่างที่เคี่ยว หากมีฟองหรือไขสีน้ำตาลลอยขึ้นมาก็ช้อนออกเสียหน่อย น้ำซุปจะได้หอม หวาน อร่อย และสีสวย ระหว่างเคี่ยวน้ำซุปก็มาทำความรู้จักกับเครื่องเคียงที่นิยมกินคู่กับราเมงกันดีกว่า

เครื่องเคียงหรือทอปปิ้งที่มักเสิร์ฟมาพร้อมกับราเมง หลักๆ มีอยู่ไม่กี่อย่าง อย่างแรก นึกถึงราเมงก็ต้องมี หมูชาชู เป็นที่รู้กันว่าหมูชาชูก็ใช้เวลาในการทำนานพอสมควร เพื่อให้เนื้อหมูนุ่ม รสชาติเข้าเนื้อ แล้วจึงนำมาหั่นบางๆ บางร้านก็นำไปเบิร์นให้มีกลิ่นหอมไหม้ๆ เล็กน้อย ก่อนเสิร์ฟมาในชามราเมง 

คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรหมูชาชู

ไข่ต้มปรุงรส อันนี้ก็ขาดไม่ได้เลยในชามราเมง ไข่ต้มที่ต้มมากำลังดี นำไปแช่ในน้ำปรุงรสซีอิ๊วให้ส่วนของไข่ขาวมีสีน้ำตาลเล็กน้อย หอมกลิ่นซีอิ๊วนิดๆ บางร้านจะต้มไข่ในระดับความสุกที่ยังเป็นยางมะตูมหน่อยๆ แต่บางร้านต้มไข่ได้ความสุกกำลังดี ไข่ไม่เหลวและไม่แข็งจนเกินไป เข้ากันได้ดีกับราเมงทุกน้ำซุป

คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรไข่ต้มปรุงรส

แนะนำหากใครอยากย่นเวลา ลองทำหมูชาชูพร้อมกับการเคี่ยวน้ำซุปกระดูกหมูก็ได้ ส่วนไข่ต้มถ้าจะเอาง่ายก็ใช้น้ำต้มหมูชาชูมาแช่ไข่ต้มแทน นอกจากเครื่องเคียงสองอย่างข้างต้นที่กล่าวถึงแล้วนั้น ยังมีเครื่องเคียงอื่นๆ อีกอย่าง เม็นมะ (หน่อไม้) ต้นหอมซอย สาหร่าย (โนริ) ข้าวโพดปรุงรส เป็นต้น    

หลังจากแวะไปทำความรู้จักเครื่องเคียงมาแล้ว น้ำซุปของเราก็เคี่ยวได้ที่พอดี พอครบกำหนดน้ำซุปที่ได้ก็จะมีสีที่ข้นขึ้น หอมกลิ่นกระดูกหมู เสร็จแล้วให้กรองเอาเฉพาะส่วนน้ำมาใช้เท่านั้น นำมาปรุงรสให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วยการใส่ผงดาชิ เกลือและวิปปิ้งครีม สามอย่างนี้จะเพิ่มความกลมกล่อมให้กับน้ำซุปทงคตสึได้เป็นอย่างดี

เพียงเท่านี้ก็ได้น้ำซุปเข้มข้น หอมกลิ่นกระดูกหมูแล้ว ตักน้ำซุปทงคตสึร้อนๆ ลงในชาม ตามด้วยเส้นราเมงเหนียวนุ่ม ทอปปิ้งด้วยเครื่องเคียงต่างๆ ตามใจชอบ ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็ได้กินทงคตสึราเมงอร่อยๆ 

เคล็ด (ไม่) ลับ ฉบับครัวดอทโค ในการทำราเมง

1. นำมันหมูมาต้มให้นุ่มแล้วนำไปปั่นกับน้ำ ก่อนจะนำมาปรุงรสโดยใช้สัดส่วนมันหมูต้ม 50 กรัม น้ำ 4 ถ้วย ผงดาชิ 3 ช้อนชา เกลือสมุทร ½ ช้อนชา และวิปปิ้งครีม 1/3 ถ้วย เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำซุปทงคตสึเช่นเดียวกัน รับประกันความอร่อย แต่หากใครไม่ชอบกลิ่นมันหมูและไม่ชอบความมัน อาจกินยากหน่อยนะคะ

2. ในส่วนของหมูชาชูกับไข่ต้มปรุงรสนั้น ทำเก็บไว้ก่อนล่วงหน้าได้ จะได้ประหยัดเวลา และหมูชาชูหากไม่อยากม้วนหมูเป็นทรงกลมก็หั่นหมูเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม แล้วนำไปเคี่ยวในสัดส่วนเดิมได้เลย หรือหากจะเอาง่ายก็ซื้อสำเร็จได้เลยค่ะ 

คลิกที่นี่เพื่อดูสูตรทงคตสึราเมน

อ่านบทความเพิ่มเติม

• เต้าหู้ร้อน Yu-dofu กับอาหารวัดพุทธนิกายเซน
• ฮิยะ โซเมน หมี่เย็นยอดนิยมประจำฤดูร้อนของญี่ปุ่น
• โซบะโฮมเมด ทำเส้นสดกินเองก็ได้!
• ผักดองง่ายๆ สไตล์แม่บ้านญี่ปุ่น