ภาพอาหารที่เห็นตรงหน้าทำให้เราและอีกหลายคนต้องงุนงงว่ามันคืออะไร ไก่ทอดที่ไหม้? หรือ ไก่ทอดสีดำ? จะเป็นไก่อะไรก็เถอะ ทำไมมันดูไม่น่ากินเอาเสียเลย แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเจ้าไก่ทอดที่ดูไม่น่ากินนี้ กลับมีวางขายอยู่ในท้องตลาด และเพราะความเป็นสีดำสนิทของมันนี่แหละ ที่กำลังฮอตฮิตติดเทรนด์จนขายดิบขายดี!

 

 

ไก่ทอดสีดำจานนี้คือไก่ทอดชาร์โคลนั่นเองค่ะ

พูดถึงตรงนี้ หลายๆ คนคงร้องอ๋อขึ้นมากันแล้ว ในช่วงหนึ่งถึงสองปีมานี้ เจ้าผงสีดำที่มีนามว่า ‘ชาร์โคล’ กลายมาเป็นหนึ่งในส่วนผสมสุดฮิตซึ่งนำมาสร้างความแปลกตาในอาหารนานาชนิด ตั้งแต่ในขนมปัง ขนมเปี๊ยะ ปาท่องโก๋ แยมโรล บิงซู ไอศกรีม โรตี เครป พิซซ่า เกี๊ยวซ่า ไก่ทอด หรือกระทั่งข้าวมันไก่และเส้นก๋วยเตี๋ยว แฝงตัวอยู่ในทั้งอาหารคาวหวาน สีดำสนิททำหน้าที่เรียกร้องความสนใจให้เราได้ทั้งร้องว้าวหรือขมวดคิ้วเพราะความสงสัยในรสชาติไปพร้อมๆ กัน

 

 

 

 

อะไรที่ทำให้ผงชาร์โคลติดเทรนด์ขนาดนี้กันนะ?!

ก่อนที่จะรู้คำตอบนั้น เราอยากพาทุกคนไปรู้จักกับผงชาร์โคลก่อนค่ะ

ผงชาร์โคลหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายวัตถุดิบทำเบเกอรี มีชื่อเต็มๆ ว่า Activated Charcoal หรือถ่านกัมมันต์จากวัตถุดิบจากธรรมชาติ อย่างเปลือกไม้ กะลามะพร้าว ไม้ไผ่ ซึ่งถูกนำไปเผาในความร้อนสูงถึง 1000 องศาเซลเซียสแล้วจึงได้เป็นถ่านกัมมันต์ออกมา นำไปใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน ตั้งแต่อุตสาหกรรมเครื่องฟอกอากาศ ใช้ชาร์โคลเป็นส่วนประกอบในตัวกรอง อุตสาหกรรมโลหะใช้ชาร์โคลในการสกัดทองคำ เลยไปจนถึงอุตสาหกรรมยาที่ใช้ผงถ่านกัมมันต์เพื่อดูดซับสารพิษในทางเดินอาหาร

 

 

ประโยชน์ในการดูดซับสารพิษนี่เองที่ทำให้ให้เจ้าผงสีดำนี้ป๊อปปูลาร์ขึ้นมา ประจวบกับเทรนด์รักสุขภาพกำลังบูม จึงเริ่มมีการนำ “ชาร์โคล” มาผสมในอาหาร เชื่อว่ากินเข้าไปแล้วจะช่วยดูดซับพิษแล้วร่างกายก็จะสะอาดสดชื่นนนน

แต่ก็ยังมีข้อโต้แย้งจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านอาหารและสุขภาพหลายท่านอยู่ว่า ผงชาร์โคลที่ถูกผสมลงในอาหารนั้นได้แค่สี ปริมาณชาร์โคลน้อยเกินกว่าจะเห็นผลด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เทรนด์สีดำซบซาลงแต่อย่างใด

 

 

เหตุแห่งความฮิตติดลมของเจ้าผงชาร์โคลมาจากความแปลกใหม่สะดุดตา ร้านไหนมีของกินสวยๆ สีดำๆ แค่แชะรูปสักช็อตแล้วอัปเพื่อแชร์ความว้าวที่ตัวเองได้เจอมา ก็เกิดกระแสปากต่อปากได้แล้ว น่าแปลกดีที่สีดำซึ่งเคยเป็นของต้องห้ามบนจานอาหาร กลับกลายเป็นสีแห่งความเก๋ที่ใครๆ ก็พร้อมจะพุ่งเข้าหา แต่อย่างไรเสียอย่าลืมว่าอาหารดำดีสะดุดตา ก็ต้องวัดกันด้วยความอร่อยด้วยนะ