ข่าวการประกาศผลรางวัลมิชลินไกด์ให้ร้านอาหารในประเทศไทย ที่ปรากฏว่า ‘ร้านเจ๊ไฝอาหารตามสั่ง’ ติดมิชลินหนึ่งดาวไปด้วย ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันใหญ่โตยังไม่ทันจะจาง ก็พอดีกับที่ฉันมีโอกาสเดินทางไปฮ่องกง ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อย เต็มไปด้วยร้านอาหารที่ได้ดาวมิชลิน ที่นี่ถือเป็นสวรรค์ของนักชิมทั้งหลาย โดยเฉพาะชาวไทย เพราะไม่ว่าร้านข้างทาง ภัตตาคาร ร้านอาหารตามโรงแรมล้วนมีของอร่อยถูกปากทั้งนั้น

ส่วนตัวฉันคิดว่าคงเป็นเพราะอาหารจีนสไตล์ฮ่องกงหรืออาหารจีน Cantonese เป็นรสชาติที่คนไทยคุ้นเคย ถึงจะรู้ดีเต็มอกแต่จุดหมายครั้งนี้ของฉันไม่ใช่การกิน แต่มาเพื่อช็อปปิ้งและไหว้พระต่างหาก แต่ (อีกที) คนมันจะต้องเกี่ยวพันกับการกินก็ต้องได้กิน มีความโชคดีได้กินอาหารอร่อยระดับมิชลินแบบไม่ตั้งใจซะงั้น! แถมเป็นมิชลินราคาถูกซะด้วย ก็เลยอยากจะเล่าให้ได้อิ่มไปพร้อมๆ กัน เผื่อมีโอกาสจะได้ไปลิ้มลองแล้วมาเล่าสู่กันฟังบ้าง

ฉันเดินทางไปถึงฮ่องกงตอนค่ำวันศุกร์ เพื่อรุ่งขึ้นจะได้ไปไหว้พระที่วัด Wong Tai Sin ก่อนเริ่มเส้นทางบุญ แน่นอนว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง เลยไปหาอะไรกินง่ายๆ เเถวสถานีรถไฟใต้ดินซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงเเรม บังเอิญไปเจอร้าน Shek Kee Kitchen ซึ่งเป็นร้านเดียวที่เปิดตอนเช้าตรู่ ก็เลี้ยวเข้าไปเลย ไม่ต้องลังเล ร้านนี้ขายอาหารเช้าสไตล์ฮ่องกงง่ายๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยว ซุปมักกะโรนี ซึ่งเลือกท็อปปิ้งได้ว่าจะใส่เป๋าฮื้อ แฮม หรือไก่ สายเนื้ออย่างฉันเลือกสั่งบะหมี่น้ำเนื้อแบบฮ่องกง จริงๆ มันก็คือเส้นมาม่าธรรมดานี่แหละ แต่ชอบเนื้อหมักสไตล์ฮ่องกงที่มีความนิ่มๆ เด้งดึ๋งๆ แล้วพอน้ำหมักเนื้อออกมาละลายกับน้ำซุปกระดูกหมูข้นๆ ร้อนๆ ก็ยิ่งอร่อย ส่วนพี่สาวฉันสั่งซุปมักกะโรนีกับเห็ดเป๋าฮื้อ เธอบอกว่าน้ำซุปรสกลมกล่อม มักกะโรนีนุ่มกำลังดี ไม่เละ เป๋าฮื้อมีรสเค็มพอดีๆ กินอิ่มเดินออกมาหน้าร้านถึงได้รู้ว่าร้านนี้ก็อยู่ใน Michelin Guide กับเขาเหมือนกัน แต่จัดอยู่ในหมวด Bib Gourmand ซึ่งเป็นหมวดร้านที่เสิร์ฟอาหารยอดเยี่ยมแต่ราคาย่อมเยา

พิกัดร้าน: Shek Kee, G/F, Fai Hon Building, 17 Ngan Mok St, Tin Hau, Tin Hau, Hong Kong

ร้านที่ 2 เป็นร้านข้างถนนสุดๆ อยู่ในย่านตลาดรองเท้ากีฬา หรือถนน Fa Yuen ชื่อร้าน Cheung Hing Kee Shanghai Pan-fried Buns ร้านขายเสี่ยวหลงเปาแบบทอดในกระทะ อันนี้ตั้งใจกินรองท้องระหว่างช็อปปิ้ง แต่เชื่อไหมว่าอร่อยจนต้องเดินกลับไปซื้อใหม่ ที่นี่ขายเสี่ยวหลงเปาทอดเป็นหลัก มีเมนูหนักๆ อย่างบะหมี่อยู่บ้าง เพราะเป็นร้านเล็ก มีแต่เคาน์เตอร์ให้นั่งเรียงหน้ากระดานกินเสี่ยวหลงเปามีให้เลือก 3 ไส้ กุ้ง หมู และเห็ดทรัฟเฟิล แนะนำมากๆ คือเห็ดทรัฟเฟิล กัดลงไปเจอน้ำซุปร้อนๆ อยู่ด้านใน พอเคี้ยว กลิ่นทรัฟเฟิลหอมคลุ้งในปาก แต่เตือนไว้ก่อนว่าน้ำซุปด้านในร้อนมาก ถ้าไม่ระวังมีปากพองได้ ส่วนไส้หมูก็จัดว่าอร่อยแต่ยังสู้เห็ดทรัฟเฟิลไม่ได้ ที่นี่ห่อเสี่ยวหลงเปากันแบบสดใหม่ ปั้นเสร็จก็นำไปเรียงอัดในกระทะทาน้ำมัน ทอดด้านเดียวจนแป้งเหลืองกรอบ ส่วนไส้ที่ผสมเจลาตินน้ำซุปพอโดนความร้อนจัดๆ ก็ละลายออกมาเป็นน้ำเหมือนกับกินเสี่ยวหลงเปานึ่งนั่นแหละ สนนราคาเพียงลูกละ 30 บาท ถือเป็นมิชลินราคาถูกสุดๆ เลยก็ว่าได้

พิกัดร้าน: Cheung Hing Kee Shanghai Pan-fried Buns, 48 Lock Rd, Tsim Sha Tsui, Hong Kong

ร้านที่ 3 ร้าน Ho Hung Kee ร้านนี้ได้มิชลิน 1 ดาว ในปี 2016 หรูขึ้นมาหน่อยเพราะอยู่ที่ชั้น 12 ของตึก Hysan Place ขนาดไปในช่วงที่ไม่ใช่เวลาอาหารเย็นแต่คนต่อคิวกันยาวเชียว อาจเพราะราคาอาหารสมเหตุสมผล (ยกเว้นราคาโจ๊กเป๋าฮื้อเกือบสองพันบาทต่อชาม ซึ่งเราเกือบเผลอสั่ง) มารู้ทีหลังว่าร้านนี้เป็นร้านโจ๊กชื่อดัง และจุดพีคอีกอย่าง คือเจ้าของร้านเป็นศิษย์เอกของ Mak’s Noodle ร้านบะหมี่อันดับต้นๆ ของฮ่องกง

ฉันสั่งโจ๊กรวมมิตรที่มีทั้งหอยเชลล์ ไก่ แฮม หมู หมึก เนื้อโจ๊กนวลเนียนไม่เหมือนโจ๊กแบบไทย รสชาติกลมกล่อมแบบไม่ต้องปรุงซีอิ๊ว โรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่วทั้งเปลือกกับต้นหอมซอย เพิ่มความกรุบกรอบ ที่อร่อยแปลกอีกอย่างคือก๋วยเตี๋ยวหลอดปาท่องโก๋ ตอนแรกนึกว่ามีไส้ด้านในเป็นกุ้ง ปรากฏมีแต่แป้งล้วนซึ่งทอดแบบไม่อมน้ำมันแม้แต่น้อย แป้งก๋วยเตี๋ยวที่ห่อก็บางเฉียบ เสิร์ฟมากับน้ำจิ้มสองอย่างคือ น้ำจิ้มถั่วกับซีอิ๊ว จิ้มพร้อมกันแล้วเข้ากันดีมาก จนสุดท้ายกินคนเดียวหมดจาน ฟองเต้าหู้ห่อกุ้งทอดก็อร่อย เสียดายที่อิ่มจนกินไม่ลงแล้ว เลยได้แต่คิดว่าครั้งหน้าต้องมาลองบะหมี่ของขึ้นชื่อของร้านเขาให้ได้

พิกัดร้าน: Ho Hung Kee, 12 Hysan Place, 500 Hennessy Rd, East Point, Hong Kong