![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2024/12/Banner_1140x507-3.jpg)
เมื่อนักวาดภาพประกอบออกเดินทาง บันทึกแสนอร่อยก็เกิดขึ้น
ทริปนี้เป็นทริปตามใจปากโดยแท้ … วางแผนว่า จะนั่งรถไฟนอนตะลอนไปตรัง หาอะไรกินจุบกินจิบไปเรื่อย ทั้งบนรถ ในเมือง ตามตลาด คาเฟ่ ฯลฯ ทำตัวให้เหมือนกับคนตรังที่เขาว่ากันว่ากินกันวันละ 9 มื้อ
ผมและครอบครัวนั่งรถไฟด่วนขบวน 83 จากสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ – ตรัง รถออกตอนค่ำ 6:50 น. ถึงตรัง 8:50 น. สถานีใหม่ รถก็ใหม่ วิ่งบนรางยกระดับหรูหราทันสมัย รู้สึกเหมือนนั่งรถไฟฟ้า จนถึงสถานีศาลายา บรรยากาศก็เริ่มคึกคักขึ้น มีสีสันมากขึ้น บรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างหิ้วตะกร้าสินค้าหลากหลายขี้นมาขาย มีของกินของฝาก ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ขนมหม้อแกง กุนเชียง และก๋วยเตี๋ยวแห้งห่อเล็กๆ ที่เรียกว่า ‘ก๋วยเตี๋ยวรถไฟ’
ด้วยความคิดถึงจึงชื้อมาชิม 1 ห่อ แบ่งกับลูกได้คนละคำสองคำ อร่อยดี แต่คิดว่าคงดีกว่านี้ถ้าได้กิน ‘คนเดียว!’ 2 ห่อ (เหอะๆ)
![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2024/12/FBcover_1920x1920half-02-1024x1024.jpg)
กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ สักพัก พนักงานรถไฟก็มาปรับเบาะนั่งให้เป็นที่นอน ได้เวลาแยกย้าย เข้านอนที่ใครที่มัน
พระอาทิตย์ขึ้นที่สถานีนาสาร สุราษฎร์ธานี แต่กว่าผมจะรู้สึกตัวว่าเช้าแล้วจริงๆ ก็เมื่อรถไฟถึงทุ่งสง ที่นี่เป็นสถานีชุมทางใหญ่รถจอดนาน ผู้โดยสารขึ้นลงเยอะ พ่อค้าแม่ค้าก็เยอะ อธิบายให้เห็นภาพคือถ้าบรรยากาศที่สถานีศาลายาเป็นเหมือนเวิ้งรถเข็นขายอาหารริมทาง สถานีทุ่งสงนี่ก็จะใหญ่และหลากหลายระดับตลาดโต้รุ่งประจำอำเภอกันเลยทีเดียว
แน่นอนว่าเมื่อมีการค้าก็ต้องมีเหยื่อทางการตลาด ลูกสาวผมซื้อข้าวเหนียวไก่ทอดสีแดงๆ มากิน บอกเค็มๆ มีแต่รสเค็ม ภรรยาซื้อข้าวต้มใบกะพ้อมา 1 พวง คงเห็นว่าห่อสวยดี? ส่วนผมก็ต้องรับจบทั้งสองอย่าง
![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2024/12/ArticlePic_1920x1280px_Artboard-1-01-3-1024x974.jpg)
รถไฟมาถึงตรังตามเวลา 8:50 น. (ตรงตามเวลาจริงๆ ไม่ใช่มุกที่ว่า เวลามาก่อนแล้วรถค่อยตามมา ฮา) เราลงรถแล้วก็ตัดสินใจเดินไปที่พักที่จองไว้เลย เพราะถึงจะยังเช็คอินไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็จะได้ฝากกระเป๋าและเขาคงมีห้องน้ำให้เราล้างหน้าล้างตาบ้างก็ยังดี
ระหว่างทางมีรถขายขนมครก พ่อค้ากำลังหยอด กำลังแคะกันอย่างเมามัน ส่งกลิ่นหอมหวานๆ เกรียมๆ กลิ่นกะทิหอมฟุ้ง และแล้วก็เกิดเหยื่อทางการตลาดขึ้นมาอีกราย (ฮา)
![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2024/12/ArticlePic_1920x1280px_Artboard-1-02-3-1024x974.jpg)
ฝากกระเป๋าเป็นที่เรียบร้อย เราก็ไปเริ่มมื้อเช้าอย่างเป็นทางการที่ร้านข้าวแกงหน้าโรงแรม ซึ่งอร่อยมาก เป็นข้าวแกงใต้รสนุ่มนวลผู้ดี๊ผู้ดี ใช้วัตถุดิบดี ปรุงรสถึงเครื่องแต่ไม่เผ็ดจัดร้อนแรงจนเกินไป กลมกล่อม กินแล้วสบายใจ สบายปาก สบายท้อง (ได้กินเคาหยกแบบคนตรังแล้ว)
กินเสร็จแล้วตั้งใจจะไปเดินเล่นชมเมือง หาคาเฟ่น่ารักๆ นั่ง ตามหาร้านขนม ตามหากราฟิตี้ แต่อากาศร้อนอบอ้าวบวกกับแดดแรงมหาโหดเผาจนหมดสนุก กลับไปอาบน้ำนอนตากแอร์ที่โรงแรมดีกว่า
สลบไป กว่าจะฟื้นอีกทีเกือบจะ 6 โมงเย็นเพราะหิว
หาข้อมูลมาว่า ในเมืองตรังจะมีแหล่งกินตอนค่ำอยู่ 2 แห่ง ที่แรกคือ ‘ตลาดเซ็นเตอร์พอยท์’ อยู่ในซอยรื่นรมย์แถวๆ ศาลากลางจังหวัดตรัง ใกล้วงเวียนพะยูน ห่างจากที่พักไปประมาณ 1 กิโล เปิดวันธรรมดา (หรือทุกวันไม่แน่ใจ) และวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จะมีถนนคนเดินที่หน้าสถานีรถไฟ อยู่ใกล้ที่พักเราไม่เกิน 200 เมตร ซึ่งวันที่เราไปเป็นวันดี วันพฤหัสบดี เลยได้ออกกำลังกายเยอะหน่อย (แหะๆ)
![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2024/12/ArticlePic_1920x1280px_Artboard-1-copy-3-1024x974.jpg)
![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2024/12/ArticlePic_1920x1280px_Artboard-1-04-3-1024x974.jpg)
ขากลับ เดินมาทางถนนเพชรเกษม ผ่านสถานีตำรวจ ผ่านศาล ผ่านศรีตรังต้นใหญ่กำลังออกดอกแต่ก็มืดเสียแล้ว มองไม่เห็น…
เราเดินมาเรื่อยๆ จนถึงตลาดสดเทศบาล ทะลุผ่านซอยเล็กๆ มาโผล่ทะลุมาหลัง ร้านโกปี๊สมบัติ เฉยเลย
สมเป็นร้านชื่อดังประจำเมืองตรัง คนแน่นเอี้ยด แต่โชคดี เราโผล่มาตอนโต๊ะว่างพอดี เลยได้ลองหลายอย่างตามแบบที่ YouTuber เขารีวิวกัน หมี่ฮุ้น โจ๊ก ปาท่องโก๋ ขนมจีบติ๋มซำนึ่งทอดสารพัด ฯลฯ รวมๆ กินได้ อร่อยดี กินเสร็จแล้วก็รีบกลับที่พักไปนอนเอาแรงเพราะพรุ่งนี้จะไปเที่ยวเกาะกระดาน (เย้)
เกาะกระดานน้ำใสแจ๋ว ปลาเอย ปะการังเอย หาดทรายเอย สวยหมดจด ถ้ำมรกตก็ดีงามสมเป็นไฮไลท์ของจังหวัด ผมเห็นเต่าด้วย! หลายตัวเลยที่เกาะมุก เสียดายที่ไม่เจอพะยูน แต่ไม่เป็นไรแค่เห็นสถานที่อยู่ของมันก็พอจินตนาการได้ แค่นี้พอใจแล้ว
ขึ้นฝั่งแล้ว ได้เดินชมเมืองสมใจ
ตรังเป็นเมืองค่อนข้างใหญ่แต่น่ารักมีชีวิตชีวา มีเอกลัษณ์เฉพาะตัว มีตึกสวยๆ เยอะ ของกินเยอะ เดินสนุก ประทับใจ ถ้ามีโอกาสจะกลับไปอีกแน่ๆ
บนรถไฟขากลับ ผมเจอของกินน่าประทับใจ สมควรวาดรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกหนึ่งอย่าง
![](https://api2.krua.co/wp-content/uploads/2024/12/ArticlePic_1920x1280px_Artboard-1-copy-5-1024x974.jpg)
ถ้าเทียบกัน รู้สึกว่าการขายของบนรถไฟสมัยนี้เงียบเหงาและจืดชืดกว่าเมื่อก่อนเยอะเลย ไม่มีอีกแล้วไอ้ประเภทตะโกนร้อง “จับ ไข่ แข็ง ปั๋ง~” หรือ “หอม อม ดม หม่อง ~” (เพราะนั่งรถนอนชั้น 2 หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ) แต่ที่สถานีทุ่งสงผมเจอลุงคนหนึ่ง ท่าทางอารมณ์ดี สุภาพ บุคลิกคล้ายๆ ลุงสีเทาในเรื่องมหา’ลัยเหมืองแร่ ขึ้นรถมาแล้วร้องขาย
“ยาโหนมมม…ไมคร้าบ~ ..หมวกก็มีน่ะคร้าบ ใส่แล้วเสียงดี หมวกมี ยาหนมก็มีน่ะคร้าบ~” (ทำนองเพลง สมหวังนะครับ ของ ก็อต จักรพันธ์)
สรุป ลุงแกขายยาหนมกับหมวกใบมะพร้าวสาน ‘ยาหนม’ ที่ว่าก็คือกาละแมนั่นแหละ ลุงว่าเป็นขนมประเภทเดียวกัน ผมชิมคำแรกกาละแม คำที่สองก็กาละแม หลับตาชิมก็กาละแม (ฮา) ส่วนหมวกก็สานเอง สานเล่นๆ ขายเล่นๆ แก้เซ็ง ลุงแกว่างั้น
ขายได้แล้วก็เดินร้องขายต่อตู้ถัดไป เหมือนเสียงชองลุงจะกังวานขี้นหน่อย …
ขากลับแกไม่ร้องขายของแล้ว แต่ร้องเป็นเพลงเลย ตอนเดินผ่านที่นั่งผม ลุงแกบอก “ขอบคุณนะลูก” แล้วยิ้ม ผมก็ยิ้มตอบ
ยาหนมเก่าหน่อย แต่ก็อร่อยดีน่ะคร้าบบบ~ ผมฮัมเพลงตอบในใจ… “แหม ทำนองติดหูเหมือนกันแฮะ”
เรื่องและภาพโดย: Monkeynumber4 : อดีตเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ในยุคดอทคอมรุ่งเรือง ปัจจุบันเป็นพ่อบ้านที่วาดภาพประกอบ เขียนบล็อกและทำอนิเมชั่นไปด้วย
Contributor
Recommended Articles
Recommended Videos