เดินตลาดพื้นบ้านชาวกะเหรี่ยง นั่งชิลล์กินของอร่อยท่ามกลางธรรมชาติ ริมธาร และป่าเขา
สวนผึ้งเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดราชบุรีมีภูมิทัศน์ที่สวยงามห้อมล้อมด้วยธรรมชาติและภูเขาสลับซับซ้อนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับสัมผัสกลิ่นอายธรรมชาติที่อยู่ใกล้แสนใกล้กรุงเทพฯ ขับรถไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว และด้วยความที่เราเป็นคนราชบุรีเกิดและโตในแถบชานเมืองได้ใกล้ชิดกับทุ่งนาและธรรมชาติ บวกกับครอบครัวเป็นขาลุยกันอยู่แล้วเลยทำให้เราทั้งชื่นชอบและหลงใหลป่าเขาลำเนาไพรเอามากๆ ต้นไม้เยอะๆ ภูเขา ลำธารหน่อย…นั่นแหละสวรรค์เลย!
ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อ ‘ตลาดโอ๊ะป่อย’ จากปากแม่ก็สงสัยว่าเอ๊ะ! มันคือตลาดอะไรทำไมชื่อแปลกจัง? หลังฟังคำสาธยายถึงความดีงามของบรรยากาศ ผู้คน รวมถึงอาหารของที่นั่นแล้วทำให้เราอดใจไม่ไหวต้องเดินทางไปหาคำตอบด้วยตัวเอง และสิ่งที่ได้กลับมาก็คือรอยยิ้มและความประทับใจ เลยอยากชวนทุกคนหลีกหนีความวุ่นวายของชีวิตเมือง เอาตัวและใจไปสัมผัสธรรมชาติด้วยกันนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ เอาเท้าจุ่มน้ำฟังเสียงน้ำไหลในลำธาร กินอาหารพื้นบ้านอร่อยๆ สัมผัสวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงกับตลาดริมลำธารที่ชิคและชิลล์ที่สุดของอำเภอสวนผึ้ง
‘ตลาดโอ๊ะป่อย’ เป็นตลาดพื้นบ้านของชาวกะเหรี่ยง คำว่า ‘โอ๊ะป่อย’ ในภาษากะเหรี่ยงหมายถึง ‘พักผ่อน’ตลาดจึงตั้งอยู่ติดริมน้ำลำภาชี สายน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวบ้านโดยเกิดจากความร่วมมือกันของผู้ประกอบการ ชุมชน วัด โรงเรียน ผู้ใหญ่บ้าน และภาครัฐท้องถิ่นในอำเภอสวนผึ้ง เพื่อก่อให้เกิดความยั่งยืนรวมทั้งรายได้เข้าสู่ชุมชนพร้อมความตั้งใจอยากให้นักท่องเที่ยวที่มามีความสุข ได้ชิมอาหารที่เป็นอัตลักษณ์ ซึมซับบรรยากาศธรรมชาติ เรียนรู้วิถีชีวิตและภูมิปัญญาของชาวกะเหรี่ยงอย่างแท้จริง
กิจกรรมไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดของที่นี่คือ ‘ตักบาตรพระล่องแพ’ ในช่วง 07:30-08:00 น. โดยจะมีพระจากวัดท่ามะขามล่องแพไม้ไผ่มาตามลำธารให้เราได้ร่วมใส่บาตรรับบุญกัน แนะนำว่าให้รีบมาแต่เช้า เพราะคนรอคิวใส่บาตรเยอะมากจะซื้อชุดใส่บาตรเป็นชะลอมน่ารักๆ ที่มีขายที่นี่หรือใครอยากนำอาหารมาใส่บาตรเองก็ได้เช่นกัน
ตักบาตรเสร็จแล้วเดินมาสักหน่อยจะเจอกับต้นผึ้งสองต้นชื่อว่า ‘มั่งมี’ และ ‘ศรีสุข’ เราสามารถตักน้ำจากลำธารมารดได้ ต้นผึ้งเป็นไม้ยืนต้นที่พบมากในอำเภอสวนผึ้ง มีรากแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ อายุยืนยาว ชาวกะเหรี่ยงเชื่อว่า ยิ่งเรารดน้ำต้นผึ้งมากเท่าไร ก็เหมือนรดน้ำให้ชีวิต ทำให้มีรากฐานมั่นคง แข็งแรง อายุยืนยาว เหมือนกับต้นผึ้งนั่นเอง
ใกล้กันจะมีน้องๆ ชาวกะเหรี่ยงให้บริการเช่าชุดกะเหรี่ยงอยู่ ใครอยากเข้าถึงบรรยากาศวิถีชีวิตแบบกะเหรี่ยง แนะนำให้ลองเช่ามาใส่เดินตลาดดูค่ะ หรือจะใส่ถ่ายรูปเก๋ๆ อัปลงโซเชียลก็เท่ไม่แพ้กัน ค่าเช่าชุดก็ไม่แพงแค่ 40 บาทเท่านั้น
พาเข้าสู่โหมดอาหารการกินกันบ้างดีกว่า บอกเลยว่าของกินที่นี่อร่อยทุกร้าน ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย มาเที่ยวโอ๊ะป่อยทั้งทีต้องไม่พลาดการนั่งจิบชาถั่วดาวอินคายามเช้า ถั่วดาวอินคาเป็นพืชที่มีผลคล้ายดาว ชาวกะเหรี่ยงแถวนั้นปลูกกันมาก เมล็ดถั่วนำไปคั่วเกลือ กินเล่นๆ หรือจะไปแปรรูปเป็นน้ำมันหรือชาอย่างที่เราเห็นก็ได้ ตัวชามีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฝาดเลย กินแล้วโล่งคอดี จิบได้เพลินๆ ที่นั่งของร้านเป็นขอนไม้เล็กๆ วางเรียงกันเป็นโต๊ะ เป็นเก้าอี้ อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นมาก จิบชาไปด้วยสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติไปด้วยสุดๆ อ่ะบอกเลย! ถ้าติดใจ ร้านก็มีถั่วดาวอินคาขายให้ซื้อกลับบ้านได้
ไฮไลต์อาหารที่พลาดไม่ได้คือข้าวแดกงา อาหารประจำท้องถิ่นชาวกะเหรี่ยง ทำจากข้าวเหนียวนึ่งสุก ตำกับงาดำคั่วบดใส่เกลือนิดหน่อย ตำจนเนื้อเนียนเข้ากัน นำมารีดให้เป็นแผ่น ย่างให้หอม
เวลากินก็ราดน้ำตาลโตนดที่เคี่ยวกับน้ำผึ้ง บอกเลยว่าตัวนี้เด็ดมาก ข้าวเหนียวมีความหนึบหนับหอมงาดำขึ้นจมูก รสเค็มนิดๆ เข้ากับรสชาติหวานหอมของน้ำตาลโตนดและน้ำผึ้งได้ดีจริงๆ
เมี่ยงถั่วดาวอินคาเมี่ยงห่อเป็นคำเล็กๆ น่ารัก มีความเก๋คือใช้ใบถั่วดาวอินคามาห่อแทนใบชะพลู ใส่เครื่องเมี่ยงแบบจัดเต็ม ราดน้ำเมี่ยงหวานๆ กินเพลินมาก ขายเป็นคำคำละ 5 บาทเท่านั้น แล้วหวานกันต่อยาวๆ กับขนมบ้าบิ่นน้ำมันมะพร้าว เป็นบ้าบิ่นที่หอมมะพร้าวสุดๆ เนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน เนื้อมะพร้าวจัดเต็มมาก
หรือจะลอง ขนมใส่ไส้ ขนมต้ม ก็มีนะ ตัวแป้งนุ่มละมุน รสชาติกำลังดี ไส้มะพร้าวก็ไม่หวานเกินไป หอมกลิ่นน้ำตาลมะพร้าวมาก
เดินถัดจากของกินมาหน่อยจะเจอคุณยายชาวกะเหรี่ยงนั่งผูกข้อมือให้กับนักท่องเที่ยวอยู่ ภาษากะเหรี่ยงเรียกว่า ‘ไคจุ้ง’เป็นการผูกแขนเรียกขวัญเพื่อเป็นสิริมงคล ใกล้กันยังมีข้าวห่อนึ่งหรืออั้งหมี่ถ่อ อาหารมงคลของชาวกระเหรี่ยงเป็นข้าวเหนียวห่อใบตองต้มให้สุก รสชาติจะจืดๆ หน่อย จิ้มกินกับมะพร้าวขูดกวนกับน้ำตาลปี๊บหวานๆ หอมๆ ที่คุณยายทำมาเองรสชาติค่อนข้างแปลกใหม่ แต่ถือว่ากินเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้วกันเนอะ ใครอยากลองชิมก็อุดหนุนคุณยายได้
กินหวานแล้วก็ต้องลองกินคาวบ้าง เมนูที่อยากให้ลองคือ ขนมจีนหยวกกล้วยที่ใส่หยวกกล้วยลงไปผสมกับน้ำยา คล้ายน้ำยากะทิบ้านเรา รสชาตินัวกลมกล่อม เสิร์ฟมาในถ้วยปิ่นโตเล็กๆ น่ารัก เวลากินจะเจอเนื้อหยวกกล้วยนิ่มๆ พร้อมหอมกลิ่นเครื่องแกง หรือจะเป็น ผัดไทยของครัวม่อนไข่ร้านอาหารประจำอำเภอสวนผึ้งที่ขอคอนเฟิร์มว่าอร่อยจริงว่าแล้วกลิ่นหอมก็ลอยมาแต่ไกล… ร้านใช้เส้นจันท์ผัดกับน้ำผัดไทยสูตรเฉพาะของทางร้าน รสชาติหวานนำเปรี้ยวเค็มครบสามรส ที่สำคัญให้เยอะแบบไม่แคร์ราคาเลย
อีกเมนูคือ ข้าวผัดปลาทูจากไร่พสุธารา ไร่ผักออร์แกนิกปลอดสารเคมี ใช้ข้าวกล้องงอกผัดกับเนื้อปลาทู โรยเครื่องสมุนไพรต่างๆ แนมกับใบทารากอนที่มีกลิ่นหอมและรสชาติคล้ายโหระพา เวลากินก็คลุกเคล้าให้เข้ากัน จะได้ความหอมมันของข้าวกล้องที่ผัดกับปลาทู บวกกับเครื่องสมุนไพรรสเผ็ดนิดๆ เปรี้ยวหน่อยๆ เป็นจานที่ทั้งอร่อยทั้งมีคุณประโยชน์
อาหารและเครื่องดื่มของที่นี่ยังมีให้เลือกอีกเยอะมากกกกทั้งกาแฟดริป ขนมเบื้อง ข้าวยำสมุนไพร ข้าวเกรียบปากหม้อ ขนมครก กล้วยปิ้งมันปิ้ง ฯลฯ เตรียมท้องมากินให้พุงกางได้เลย!กินอิ่มแล้วอยากเดินชอปฯ ของฝากก็มีนะ ทั้งเครื่องจักสานไม้ไผ่กลุ่มแม่บ้าน สบู่สมุนไพรโฮมเมด กระเป๋าเสื้อผ้ากะเหรี่ยง หรือใครเป็นสายต้นไม้ก็มีเมล็ดและต้นถั่วดาวอินคาขายให้ซื้อกลับไปปลูกที่บ้านกันได้ เรียกว่า ชม ชิม ชอปฯ จบที่เดียวกันไปเลย
ใครอยากซึมซับบรรยากาศธรรมชาติแบบสุดๆ แนะนำให้ซื้ออาหารมานั่งกินริมลำธารไปเอาเท้าจุ่มน้ำในลำธารไป น้ำใส เย็นสดชื่นมาก แถมความสนุกยังอยู่ที่เราต้องถอดรองเท้าเดินบนแคร่ไม้ไผ่ด้วยนี่แหละ เป็นการนวดผ่อนคลายเท้าได้ดีจริงๆ อยากล่องแพชมธรรมชาติริมน้ำก็ได้ ค่าบริการ 200 บาท/เที่ยว ได้เที่ยวละประมาณ 4-5 คน นำอาหารขึ้นไปกินบนแพได้ด้วย
อีกสิ่งที่ทำให้เราประทับใจคือที่นี่งดใช้ภาชนะพลาสติกหรือโฟม เลือกใช้เฉพาะวัสดุย่อยสลายได้ง่ายที่มาจากธรรมชาติอย่างพวกใบตอง กะลา หรือจานกระดาษแทน นอกจากบรรยากาศร่มรื่น ธรรมชาติสวยงาม อาหารอร่อยยังได้เห็นความน่ารักของน้องๆ กะเหรี่ยงที่ยืนต้อนรับทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์น้อยและคอยถือถังน้ำเดินเก็บขยะช่วยรักษาความสะอาดถือเป็นตลาดเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ ใส่ใจในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
ลองไปกันดูสักครั้ง เราเชื่อว่าคุณจะได้ทั้งความสุข ความผ่อนคลาย ความพุงกาง รอยยิ้มและความประทับใจกลับมาแน่นอน
ข้อมูลการเดินทาง
เวลาเปิด-ปิด: เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่ 07:00 – 14:00 น.
Contributor
Recommended Articles
Recommended Videos