เปิด "ตำราอาหาร" ได้ที่นี่
Serves
8 ชิ้น
Level
3
พิซซ่าพัฟครึ่งวงกลม หรือที่คนอิตาเลียนเรียกว่า คัลโซเน (Calzone) จะใส่ไว้อะไรก็ได้ ไส้ที่นิยมในพิซซ่าชนิดนี้หรือแม้กระทั่งในพาสต้าก็คือการใส่ริคอตตาชีส ชีสเนื้อนุ่มนวล รสออกหวานๆ ใส่กับปวยเล้งหรือผักโขมผัด เนื้อสัตว์จะใส่แฮมหรือทูน่าก็ได้
INGREDIENTS
แป้งขนมปัง
240 กรัม
แป้งสาลีอเนกประสงค์
60 กรัม
ยีสต์
3 กรัม
เกลือป่น
6 กรัม
น้ำ
170 กรัม
น้ำมันมะกอก
45 กรัม
แป้งสาลีอเนกประสงค์สำหรับโรย
น้ำมันมะกอก
2 ช้อนโต๊ะ
หอมใหญ่สับ
1 ถ้วย
แฮมหั่นเต๋า
8 แผ่น
ปวยเล้งซอย
300 กรัม
ริคอตต้า (Ricotta cheese)
400 กรัม
เกลือสมุทร และพริกไทยดำป่น
ตามชอบ
อุปกรณ์จำเป็น: พลาสติกแรป ผ้าขาวบาง หินอบพิซซ่า
METHOD
1. ทำแป้งพิซซ่าโดยผสมแป้งขนมปัง แป้งสาลีอเนกประสงค์ ยีสต์ และเกลือลงในอ่างผสม แหวกแป้งเป็นหลุมตรงกลาง ใส่น้ำและน้ำมันมะกอกลงไป ใช้พายไม้ค่อยๆคนเอาแป้งรอบๆเข้ามาผสมตรงกลาง พอแป้งทั้งหมดเริ่มจับตัวเป็นก้อน นำแป้งออกมานอกบนพื้นโต๊ะจนแป้งพิซซ่านุ่ม เนียน ไม่ติดมือ นำแป้งใส่อ่างใบใหม่ ปิดพลาสติกแร็ปให้มิด พักไว้ 1 ชั่วโมงที่อุณหภูมิห้อง
2. ระหว่างนั้นทำไส้ปวยเล้งริคอตต้าโดยตั้งกระทะน้ำมันมะกอกบนไฟกลาง ใส่หอมใหญ่สับลงผัดจนสุกนุ่ม ใส่แฮมและปวยเล้ง ผัดจนปวยเล้งสุกนุ่ม ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยตามชอบ พักไว้ให้หายร้อน แล้วจึงผสมกับริคอตต้า คนให้เข้ากัน
3. หลังจากพักแป้งพิซซ่าได้ 1 ชั่วโมง แบ่งออกเป็นก้อนละ 60 กรัม ได้ทั้งหมด 8 ก้อน คลุมผ้าขาวบางชุบน้ำหมาดพักไว้ 10 นาที เมื่อครบเวลา คลึงแป้งที่แบ่งไว้เป็นแผ่น กว้างประมาณ 5 นิ้ว ตักไส้ปวยเล้งริคอตต้าใส่ประมาณ 80 กรัมวางครึ่งใดครึ่งหนึ่งของแผ่นแป้ง (เว้นขอบแป้งไว้ 1 ซม.) ปิดแป้งอีกครึ่งหนึ่งกลับมา ทาน้ำที่ขอบแป้งเล็กน้อย ใช้ส้อมกดให้แป้งติดกัน หรือใช้มือจับจีบแป้งให้ติดกัน วางใส่ถาดที่โรยแป้งสาลีบางๆไว้ ทำจนครบ 8 ชิ้น
4. เตรียมอบคัลโซเนโดยวางหินพิซซ่าไว้ตรงกลางเตาอบ อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ เมื่ออุณหภูมิเตาอบได้ที่ ใช้สปาตูล่าหรือตะหลิวสแตนเลสเนื้อบางๆ ค่อยๆช้อนคัลโซเนทีละชิ้น แล้วสไลซ์เข้าไปวางบนหินพิซซ่าในเตาอบ (ขั้นตอนนี้ต้องทำด้วยความรวดเร็วเพื่อให้เตาอบอุณหภูมิไม่ตกลงและคัลโซเนไม่ติดกับสปาตูล่าหรือตะหลิว) อบนาน 15 นาทีจนสุก นำออกจากเตาอบ เสิร์ฟทันที
Low Fat Cheese ใครว่ากินชีสต้องอ้วนเสมอไป
Gallery
Recommended Articles
มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง เราขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น
ซินนามอนบัน (Kanelbullar) เป็นขนมขึ้นชื่อแถบสแกนดิเนเวีย ว่ากันว่าใครไปแถบนั้นต้องไม่พลาดลองขนมชนิดนี้ โดยนำขนมปังก้อนกลมมาคลึงเป็นแผ่นแบน ทาเนยจนฉ่ำทั่ว โรยอบเชยผสมน้ำตาลทรายและลูกเกดจนหนำใจ ม้วนเป็นแท่งยาวแล้วตัดเป็นท่อนๆ (แต่ส่วนใหญ่ทางแถบสแกนฯ จะม้วนบิดขมวดกันเป็นปมเสียมากกว่า) เวลานำไปอบแต่ละครั้ง หอมฟุ้ง ไปสามบ้านแปดบ้าน อบเสร็จกินอุ่นๆ กับกาแฟหรือน้ำชาสุดแสนจะเข้ากัน
เบอร์เกอร์สายมังสวิรัติต้องยกให้เมนูนี้เลย ตัวแพตตี้ทำมาจากถั่วชิกพีและเห็ดผัดเนย ปั่นให้ส่วนผสมทั้งสองอย่างเนียนเป็นเนื้อเดียวกันคล้ายเนื้อสัมผัสของเนื้อสัตว์ จากนั้นก็ปรุงรสตามปกติโดยใส่ไข่ไก่และเครื่องปรุงรสต่างๆ ปั้นเป็นก้อนกลมๆพักไว้ ก่อนนำมาย่างกินคู่กับขนมปังเบอร์เกอร์ หอมใหญ่ผัด และซอสโยเกิร์ต
สเต๊กหมูเนื้อนุ่มหอมกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเพราะผ่านการหมักจากเครื่องปรุงรสอย่างมิโสะแดง น้ำส้ม น้ำมันงา ซีอิ๊วญี่ปุ่น และผิวส้มวาเลนเซียขูด หากใครหาผิวส้มยูสุได้ก็ใช้แทนกันได้ กลิ่นก็จะหอมเป็นเอกลักษณ์มากกว่านี้ หมักทิ้งไว้สักระยะให้เครื่องหมักซึมเข้าไปในเนื้อก่อนนำไปย่างให้สุกทั่ว เสิร์ฟพร้อมสลัดผักญี่ปุ่นเข้ากันเป็นอย่างดี
เมนูสำหรับสายปาร์ตี้ต้องยกให้เจ้าพอร์คชอป โดยเฉพาะสูตรนี้เลือกใช้พอร์ชอปทั้งแผงมาตกแต่งทรงให้สวยงาม หมักด้วยเครื่องหมักอย่างกระเทียม พริกไทย เกลือ และน้ำมันมะกอกให้เครื่องหมักซึมเข้าเนื้อหมูจนทั่ว จากนั้นค่อยนำไปอบให้สุก จากนั้นค่อยนำส่วนหนังมาทอดในกระทะให้หนังกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับมายองเนสกระเทียมที่รับประกันความอร่อย
มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง เราขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น
ซินนามอนบัน (Kanelbullar) เป็นขนมขึ้นชื่อแถบสแกนดิเนเวีย ว่ากันว่าใครไปแถบนั้นต้องไม่พลาดลองขนมชนิดนี้ โดยนำขนมปังก้อนกลมมาคลึงเป็นแผ่นแบน ทาเนยจนฉ่ำทั่ว โรยอบเชยผสมน้ำตาลทรายและลูกเกดจนหนำใจ ม้วนเป็นแท่งยาวแล้วตัดเป็นท่อนๆ (แต่ส่วนใหญ่ทางแถบสแกนฯ จะม้วนบิดขมวดกันเป็นปมเสียมากกว่า) เวลานำไปอบแต่ละครั้ง หอมฟุ้ง ไปสามบ้านแปดบ้าน อบเสร็จกินอุ่นๆ กับกาแฟหรือน้ำชาสุดแสนจะเข้ากัน
เบอร์เกอร์สายมังสวิรัติต้องยกให้เมนูนี้เลย ตัวแพตตี้ทำมาจากถั่วชิกพีและเห็ดผัดเนย ปั่นให้ส่วนผสมทั้งสองอย่างเนียนเป็นเนื้อเดียวกันคล้ายเนื้อสัมผัสของเนื้อสัตว์ จากนั้นก็ปรุงรสตามปกติโดยใส่ไข่ไก่และเครื่องปรุงรสต่างๆ ปั้นเป็นก้อนกลมๆพักไว้ ก่อนนำมาย่างกินคู่กับขนมปังเบอร์เกอร์ หอมใหญ่ผัด และซอสโยเกิร์ต
สเต๊กหมูเนื้อนุ่มหอมกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเพราะผ่านการหมักจากเครื่องปรุงรสอย่างมิโสะแดง น้ำส้ม น้ำมันงา ซีอิ๊วญี่ปุ่น และผิวส้มวาเลนเซียขูด หากใครหาผิวส้มยูสุได้ก็ใช้แทนกันได้ กลิ่นก็จะหอมเป็นเอกลักษณ์มากกว่านี้ หมักทิ้งไว้สักระยะให้เครื่องหมักซึมเข้าไปในเนื้อก่อนนำไปย่างให้สุกทั่ว เสิร์ฟพร้อมสลัดผักญี่ปุ่นเข้ากันเป็นอย่างดี
เมนูสำหรับสายปาร์ตี้ต้องยกให้เจ้าพอร์คชอป โดยเฉพาะสูตรนี้เลือกใช้พอร์ชอปทั้งแผงมาตกแต่งทรงให้สวยงาม หมักด้วยเครื่องหมักอย่างกระเทียม พริกไทย เกลือ และน้ำมันมะกอกให้เครื่องหมักซึมเข้าเนื้อหมูจนทั่ว จากนั้นค่อยนำไปอบให้สุก จากนั้นค่อยนำส่วนหนังมาทอดในกระทะให้หนังกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับมายองเนสกระเทียมที่รับประกันความอร่อย
มันม่วงญี่ปุ่นเป็นพืชเติบโตง่ายในแถบเอเชีย แต่ละประเทศมีวิธีกินต่างกันไป เช่น ต้ม เผา นึ่งกินทั้งหัว หรือทำขนมต่างๆ หากพูดถึงประเทศที่ใช้มันม่วงญี่ปุ่นทำขนมมากที่สุด คงนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเพราะใช้ทำขนมสไตล์วากาชิและโยกาชิ (วากาชิคือขนมดั้งเดิมของญี่ปุ่น โยกาชิคือขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่ง) โดยนิยมใช้ทั้งมันญี่ปุ่นสีม่วงและสีเหลือง เราขอแนะนำ “ทาร์ตมันม่วง” ของฝากขึ้นชื่อจากโอกินาวา อันเป็นแหล่งปลูกมันม่วงชั้นดี ปัจจุบันหาซื้อมันม่วงญี่ปุ่นได้ตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป อีกทั้งสูตรนี้ยังทำง่าย มีรสหวานและกลิ่นหอมของมันถ้าจะให้ดีลองใช้น้ำตาลทรายแดงซึ่งเป็นของขึ้นชื่ออีกอย่างของโอกินาวา จะทำให้ทาร์ตมีรสหวานกลมกล่อมยิ่งขึ้น
ซินนามอนบัน (Kanelbullar) เป็นขนมขึ้นชื่อแถบสแกนดิเนเวีย ว่ากันว่าใครไปแถบนั้นต้องไม่พลาดลองขนมชนิดนี้ โดยนำขนมปังก้อนกลมมาคลึงเป็นแผ่นแบน ทาเนยจนฉ่ำทั่ว โรยอบเชยผสมน้ำตาลทรายและลูกเกดจนหนำใจ ม้วนเป็นแท่งยาวแล้วตัดเป็นท่อนๆ (แต่ส่วนใหญ่ทางแถบสแกนฯ จะม้วนบิดขมวดกันเป็นปมเสียมากกว่า) เวลานำไปอบแต่ละครั้ง หอมฟุ้ง ไปสามบ้านแปดบ้าน อบเสร็จกินอุ่นๆ กับกาแฟหรือน้ำชาสุดแสนจะเข้ากัน
เบอร์เกอร์สายมังสวิรัติต้องยกให้เมนูนี้เลย ตัวแพตตี้ทำมาจากถั่วชิกพีและเห็ดผัดเนย ปั่นให้ส่วนผสมทั้งสองอย่างเนียนเป็นเนื้อเดียวกันคล้ายเนื้อสัมผัสของเนื้อสัตว์ จากนั้นก็ปรุงรสตามปกติโดยใส่ไข่ไก่และเครื่องปรุงรสต่างๆ ปั้นเป็นก้อนกลมๆพักไว้ ก่อนนำมาย่างกินคู่กับขนมปังเบอร์เกอร์ หอมใหญ่ผัด และซอสโยเกิร์ต
สเต๊กหมูเนื้อนุ่มหอมกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเพราะผ่านการหมักจากเครื่องปรุงรสอย่างมิโสะแดง น้ำส้ม น้ำมันงา ซีอิ๊วญี่ปุ่น และผิวส้มวาเลนเซียขูด หากใครหาผิวส้มยูสุได้ก็ใช้แทนกันได้ กลิ่นก็จะหอมเป็นเอกลักษณ์มากกว่านี้ หมักทิ้งไว้สักระยะให้เครื่องหมักซึมเข้าไปในเนื้อก่อนนำไปย่างให้สุกทั่ว เสิร์ฟพร้อมสลัดผักญี่ปุ่นเข้ากันเป็นอย่างดี
เมนูสำหรับสายปาร์ตี้ต้องยกให้เจ้าพอร์คชอป โดยเฉพาะสูตรนี้เลือกใช้พอร์ชอปทั้งแผงมาตกแต่งทรงให้สวยงาม หมักด้วยเครื่องหมักอย่างกระเทียม พริกไทย เกลือ และน้ำมันมะกอกให้เครื่องหมักซึมเข้าเนื้อหมูจนทั่ว จากนั้นค่อยนำไปอบให้สุก จากนั้นค่อยนำส่วนหนังมาทอดในกระทะให้หนังกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับมายองเนสกระเทียมที่รับประกันความอร่อย
Recommended Videos